หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สาระของ กฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ที่ "อภิสิทธิ์" ขวางแบบของข้าใครอย่าแตะ

สาระของ กฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ที่ "อภิสิทธิ์" ขวางแบบของข้าใครอย่าแตะ



โดย Yak Ratchaprason  


รัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 309 บัญญัติว่า บรรดาการใด ๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้

นัดใหญ่ วันที่ 10 เดือน 11 เวลา 12 นาฬิกา

นัดใหญ่ วันที่ 10 เดือน 11 เวลา 12 นาฬิกา





ขอเชิญชวนพี่น้องผู้รักประชาธิปไตย ผู้ร่วมในเหตุการณ์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานได้ร่วมกันกลับมายังสถานที่ทุ่ง สังหารแห่งนี้อีกครั้ง เพราะนี่อาจเป็นกิจกรรมรำลึกครั้งสุดท้ายที่เรายังตะโกนชื่อคนเหล่านั้นใน ฐานะฆาตกรสังหารประชาชน

ขอเชิญ “คนเสื้อแดง” ไปตะโกนพร้อมกันดังๆ ว่า
ไอ้ฆาตกรๆๆๆ ที่นี้มีคนตายๆๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 10 พย 56
เวลา 12.00 น.- 19.00 น.ณ ทุ่งสังหาร ราชประสงค์  กรุณาสวมเสื้อสีแดงเพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้เสียชีวิต

บก.ลายจุด
ศิษย์เก่าราชประสงค์

ขอเชิญร่วมรับฟังคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม (ฉบับสุดซอย)

ขอเชิญร่วมรับฟังคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม (ฉบับสุดซอย)


 
 
สภา หน้าโดม หนึ่งใน "แนวร่วมนักเรียน นิสิต นักศึกษา คัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม (ฉบับสุดซอย) หรือในตัวย่อ SAABA" ส่งสัญญาณ ให้เพื่อนๆพลังนักเรียน นิสิต นักศึกษา ร่วมรับฟังหรือร่วมปราศรัยได้ ในวันเวลา สถานที่ตามประกาศ

ละครน้ำเน่าเรื่อง “นิรโทษเหมาเข่ง”

ละครน้ำเน่าเรื่อง “นิรโทษเหมาเข่ง”



โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


ตอน นี้รัฐบาลเพื่อไทยและแกนนำ นปช. กำลังเล่นละครน้ำเน่าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากประเด็นแท้สำคัญๆ เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมฆาตกรทหารและนักการเมือง
 
ในฉากแรกของละครเน่า นปช. ออกมาบอกว่าจะ “ขอหย่า” กับ “ผัว” เพื่อไทย เพราะน้อยใจเรื่องสื่อ การขอหย่าครั้งนี้เป็นการสร้างภาพเพื่อเอาใจเสื้อแดงที่ไม่พอใจการนิรโทษ กรรมเหมาเข่ง

แต่ เราต้องอ่านคำพูดของแกนนำ นปช. ให้ดี คือ จะไม่เคลื่อนมวลชนเสื้อแดงต่อต้านพรรคเพื่อไทย และเรียกร้องให้มีการนำประยุทธ์ อนุพงษ์ อภิสิทธิ์ กับสุเทพ มาลงโทษ ตรงกันข้ามจะปกป้องรัฐบาลแทน ไม่ว่ารัฐบาลทำอะไร นอกจากนี้จะไม่เคลื่อนไหวและรณรงค์ให้ยกเลิก112 และปล่อยนักโทษ 112 แต่อย่างใด อันนี้เป็นจุดยืนมานาน สรุปแล้วการต้านนิรโทษกรรมเหมาเข่งของ แกนนำ นปช. เป็นแค่นามธรรมเพื่อดูดีเท่านั้น

ใน ฉากที่สอง พรรคเพื่อไทยประกาศ “ถอน” ร่างกฏหมายนิรโทษกรรม แต่ต้องอ่านคำพูดเขาดีๆ เช่นกัน เพื่อไทยจะยอมถอยถ้า สว. ตีกลับ แต่ไม่มีการพูดว่าจะนำประยุทธ์ อนุพงษ์ อภิสิทธิ์ และสุเทพ มาขึ้นศาลเลย ในความเป็นจริงรัฐบาลเพื่อไทยและ นปช. เลิกพูดถึงอาชญากรรมของทหารนานแล้ว เพราะทักษิณกับยิ่งลักษณ์มีข้อตกลงกับทหาร ดังนั้นไม่มีการพูดว่าจะปฏิรูปหรือยกเลิก 112 เลย ไม่มีการพูดว่า สมยศและดา จะได้รับการปล่อยตัว และไม่มีคำมั่นสัญญาว่า สส. เพื่อไทยทุกคนจะลงคะแนนคัดค้านร่างกฏหมายนิรโทษเหมาเข่งใหม่ที่คนอื่นเสนอใน อนาคต

ฉากที่สามเป็นบทรองที่แยกจากบทหลัก “ลุงทักษิณ” ออกมาพูดว่ามันเกี่ยวกับเขาคนเดียว มองเห็นแต่ตัวเองตลอด ไม่พูดถึงคนติดคุกคดี 112 พูด แต่ว่าตัวเอง “เจ็บปวด” เพื่อดึงน้ำตาจากผู้ชม แต่เศรษฐีอย่างทักษิณไปไหนในโลกก็สบาย ไม่ต้องทนทรมานเหมือนคนติดคุกในไทย และยังหน้าด้านมาพูดอีกว่า "ขอฝากให้ทุกคนยอมกลืนเลือดคนละหน่อย" ในความจริงมีเสื้อแดงกลืนเลือดไปเยอะ คือคนที่ถูกยิงตายโดยทหาร อันนี้ไม่นับคนบาดเจ็บและญาติของคนตาย

ใน ฉากที่สี่ บทเริ่มเล่นเรื่องผี เพราะแกนนำ นปช. และเสื้อแดงที่พร้อมจะแก้ตัวให้รัฐบาลที่หักหลังวีรชน ออกมาปลุก “ผีรัฐประหาร” อีกครั้ง แต่จะไม่มีรัฐประหารหรอก ทหารต้องการให้มีการนิรโทษกรรมตัวเอง และทุกครั้งที่เพื่อไทยและแกนนำ นปช. เห็นเสื้อแดงจำนวนมากไม่พอใจรัฐบาล ก็จะออกมาร้อง "รัฐประหารๆๆๆ" เหมือนเด็กเลี้ยงแกะ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ดังนั้นคนที่รักสิทธิเสรีภาพ และไม่อยากเห็นฆาตกรลอยนวลในขณะที่คนอย่างสมยศติดคุก ต้องไม่ถูกหลอกให้ออกมาปกป้องรัฐบาลเพื่อไทยจากผีที่ไม่มีจริง

ส่วน ในอีกย่านของเมือง พวกสลิ่มและประชาธิปัตย์มือเปื้อนเลือด ก็ออกมาชุมนุมค้านนิรโทษกรรม แต่สาเหตุคือเกลียดทักษิณและอยากสร้างภาพเท่านั้น เพราะพวกนี้สนับสนุนการทำลายประชาธิปไตยและการเข่นฆ่าเสื้อแดงมาตลอด ถือว่าเป็นนักแสดงในละคนตอแหลยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามเราไม่ควรลืมว่าต้นเหตุของปัญหาสลิ่มมาจากการที่รัฐบาลพรรค เพื่อไทยรวมทักษิณเข้าไปในการนิรโทษกรรม ซึ่งเปิดช่องทางให้พวกสลิ่มปฏิกิริยา ที่สนับสนุนรัฐประหาร สามารถออกมาสร้างภาพด้วยการปฏิเสธกฏหมายเหมาเข่ง สลิ่มเป็นพวกรักเผด็จการ แต่ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ไปอยู่ข้างเผด็จการด้วย เพราะไปตกลงกับทหารว่าจะไม่มีการลงโทษฆาตกร และจะไม่ปล่อยนักโทษ112 ไม่ยกเลิก 112 ทั้งหมดเพื่อให้ทักษิณได้กลับบ้านคนเดียว และผลระยะยาวคือการฆ่าประชาชนแล้วลอยนวลกลายเป็น “มาตรฐาน”

ใน ฉากที่ห้าของละครเน่าแกนนำ นปช. จูบปากคืนดีกับ “ผัว” รัฐบาลเพื่อไทยแล้ว คือไอ้ที่บอกว่า "หย่า" นั้นแค่งอนเท่านั้น คืนดีกันเพื่อให้ผู้ชมจะได้หลับสบาย 

แต่เราต้องไม่ยอมให้พวกนั้นบิดเบือนประเด็น เพราะประเด็นหลักคือฆาตกรทหารและนักการเมืองที่ต้องถูกนำมาลงโทษ และ112 ที่ต้องถูกยกเลิก สมยศและคนอื่นต้องสามารถกลับบ้านได้

เลือกตั้งครั้งต่อไป คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยไม่ควรลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเป็นอันขาด และแน่นอนไม่ควรเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ควร กาช่องไม่เลือกใคร

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/449-2013-11-07-21-02-54.html        

ตอแหลสุดซอย

ตอแหลสุดซอย

 

ถอยสุดซอย มติสภา 310:1 ถอน 6 ร่าง กม.ปรองดอง-นิรโทษ

อ่าน ดีๆ นะครับ มันแปลว่าเพื่อไทยจะยอมถอยถ้า สว. ตีกลับ แต่ไม่มีการพูดว่าจะนำประยุทธ์ อนุพงษ์ อภิสิทธิ์ และสุเทพ มาขึ้นศาลนะ ไม่มีการพูดว่าจะปฏิรูปหรือยกเลิก 112 นะ ไม่มีการพูดว่า สมยศและดา จะได้รับการปล่อยตัวนะ และไม่มีคำมั่นสัญญาว่า สส. เพื่อไทยทุกคนจะลงคะแนนค้านร่างกฏหมายนิรโทษใหม่ที่คนอื่นเสนอ พวกนี้ตอแหลสุดซอย 

โปรด ฟังอีกครั้ง จะไม่มีรัฐประหารหรอก

โปรด ฟังอีกครั้ง จะไม่มีรัฐประหารหรอก









Giles Ji Ungpakorn
Giles Ji Ungpakorn


"โปรด ฟังอีกครั้ง จะไม่มีรัฐประหารหรอก ทุกครั้งที่เพื่อไทยและแกนนำ นปช. เห็นเสื้อแดงจำนวนมากไม่พอใจรัฐบาลที่หักหลังวีรชน ก็จะออกมาร้อง "รัฐประหารๆๆๆ" เหมือนนกแก้ว เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น

ตอนนี้ แกนนำ นปช. ก็จูบปากกับรัฐบาลแล้ว คือไอ้ที่บอกว่า "หย่า" นั้นแค่งอน ดังนั้นคนที่รักสิทธิเสรีภาพ และไม่อยากเห็นฆาตกรลอยนวล ในขณะที่คนอย่างสมยศติดคุก ต้องไม่ถูกหลอกให้ออกมาปกป้องรัฐบาลเพื่อไทยจากผีที่ไม่มีจริง อย่าให้พวกนั้นบิดเบือนประเด็น เพราะประเด็นหลักคือฆาตกรทหารและนักการเมืองต้องถูกนำมาลงโทษ และ112 ต้องถูกยกเลิก สมยศและคนอื่นต้องสามารถกลับบ้านได้"

เมื่ออำนาจใหม่บังอาจเจริญรอยตามนิรโทษกรรมแบบอำนาจเก่า

เมื่ออำนาจใหม่บังอาจเจริญรอยตามนิรโทษกรรมแบบอำนาจเก่า

   

    
โดย นักปรัชญาชายขอบ


ในสถานการณ์บ้านเมืองสับสน โลกโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก เป็นเหมือนโลกอีกใบหนึ่งที่เราได้ระบาย และถกเถียงแลกเปลี่ยน แม้บางครั้งจะกระทบกระทั่งกันหนักบ้างเบาบ้าง ก็ไม่ว่ากัน เป็นธรรมดาใน “ยุคสมัยวิกฤตภูมิปัญญา” ที่เรากำลังเผชิญอยู่ แต่โดยรวมแล้วหากตัดส่วนเล็กน้อยที่เกี่ยวกับลีลาท่าทีหรืออารมณ์ออกไป เราก็อาจได้สิ่งที่เกิดประโยชน์มากว่า แม้แต่คนที่ด่าเรา หากการด่านั้นมี “เหตุผล” ก็ถือว่ามีประโยชน์

ขอยกเรื่องที่น่าจะมีประโยชน์จากการวิเคราะห์ของ Pathai Pudha's status. (ซึ่ง อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริแชร์มาอีกที) บางส่วนที่น่าสนใจ ดังนี้

การนิรโทษ
เป็นสนามช่วงชิงแดนกัน
ระหว่างอำนาจเก่า อำนาจใหม่
+ + + + + 


ในอาณาอำนาจเก่า ที่ผ่านมา
อำนาจเก่า เคยออก พ.ร.บ.นิรโทษมาหลายครั้งแล้วก็จริง
แต่เป็นนิรโทษให้แก่พวกตัวเอง พวกลูกน้องของตนเอง
อำนาจใหม่ จะทำในสิ่งเดียวกัน ก็เป็นการชิงแดนอำนาจ
เพราะอำนาจเก่าเขาเป็นผู้จับ/จองจำ/ทำโทษ พวกของอำนาจใหม่

ถึงขั้นขอแลกตัวประกันด้วยคำว่า "นิรโทษทุกสีเสื้อ"
มันก็ยังเป็นข้อต่อรองที่ไร้ค่า ฟังน่าขันสำหรับอำนาจเก่า
เพราะพวกเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบยึดสนามบิน
ไม่ได้ถูกจับ/จองจำ/คุมขัง…


หากย้อนประวัติศาสตร์ ๑๔ ตุลา, ๖ ตุลา, พฤษภา ๓๕ ที่นักศึกษาประชาชนถูกปราบปรามบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ “อำนาจเก่า” ก็นิรโทษกรรมแก่พวกตนเองทั้งนั้น
เพราะอำนาจเก่า “ทำอะไรไม่ผิด” มาตลอดจึงทำให้เกิดเอกลักษณ์ของรัฐไทยดังที่เบเนดิก แอนเดอร์สันเรียกว่า “ฆาตกรรมทางการเมืองด้วยน้ำมือกลุ่มผู้ปกครองเป็นบุคลิกปกติของเมืองไทย”

และกลุ่มผู้ปกครองก็ทำ “ฆาตกรรมกลางเมือง” บนฐานคิดที่ต้องการรักษาอำนาจของพวกตนไว้โดยไม่สนใจว่าประชาชนต้องตายกัน เท่าไร ดังข้อสังเกตของป๋วย อึ้งภากรณ์

... เจตนาที่จะทำลายล้างพลังนักศึกษาและประชาชนที่ใฝ่เสรีภาพนั้นมีอยู่นานแล้ว ในตุลาคม ๒๔๑๖ เมื่อมีเหตุทำให้เปลี่ยนระบบการปกครองมาเป็นรูปประชาธิปไตยนั้น ได้มีผู้กล่าวว่าถ้าฆ่านักศึกษาประชาชนได้สักหมื่นสองหมื่นคนบ้านเมืองจะสงบ ราบคาบ และได้สืบเจตนานี้ต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ในการเลือกตั้งเมษายน ๒๕๑๙ ได้มีการปิดประกาศและโฆษณาจากพรรคการเมืองบางพรรคว่า “สังคมนิยมทุกชนิดเป็นคอมมิวนิสต์” และกิตติวุฑโฒนวพลภิกขุ ยังได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์นั้นไม่เป็นบาป” ถึงแม้ในกันยายน-ตุลาคม ๒๕๑๙ เองก็ยังมีผู้กล่าวว่า การฆ่าคนที่มาชุมนุมประท้วงจอมพลถนอม กิตติขจร สัก ๓๐,๐๐๐ คน ก็เป็นการลงทุนที่ถูก   

ความพ่ายแพ้ของทักษิณและพรรคเพื่อไทยวันนี้อาจไม่เกิด หากดำเนินการไปตามร่าง พ.ร.บ.ของวรชัย เหมะ ที่พวกตนยกมาโต้ข้อกล่าวหา “ล้างผิดคนโกง” มาโดยตลอด แต่พอลักไก่ไปนิรโทษกรรม “(ไม่)เหมาเข่ง” (ที่ไม่มีคดี 112 อยู่ในเข่ง) ทำให้ข้อกล่าวหา “ล้างผิดคนโกง” เป็นจริงขึ้นมาทันที 
  
(อ่านต่อ)

เส้นทางวิบาก ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับลักหลับ

สาระ+ภาพ: เส้นทางวิบาก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับลักหลับ




 

ว่ากันด้วยกระบวนการตามกฎหมายหลังจากนี้ ที่อาจจะมีเกิดขึ้นได้ ถ้า ร่างฯ นี้ยังเดินต่อไป จะมีกระบวนการเข้ามาตรวจสอบทั้งหมด 3 ด่าน คือ วุฒิสภาพิจารณา 3 วาระ, ศาลรัฐธรรมนูญ อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 และพระราชวินิจฉัยของพระมหากษัตริย์

นอกจากนี้การปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์นำโดย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิด โดย เอกชัย ไชยนุวัติ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ได้เขียนบันทึกเมื่อวันที่ 7 พ.ย. เรื่อง "วิจารณ์ Facebook fanpage Korn Chatikavanij Nov 7th2013 16.00pm" ระบุว่า:

(อ่านต่อ)
http://prachatai.com/journal/2013/11/49665