หน้าเว็บ

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เจาะหลักสูตรผู้บริหารสุดฮิต แบ่งปันอำนาจระหว่างชนชั้นนำ สู่ระบบ"พรรคพวกเพื่อนฝูง" แบบFast Track

เจาะหลักสูตรผู้บริหารสุดฮิต แบ่งปันอำนาจระหว่างชนชั้นนำ สู่ระบบ"พรรคพวกเพื่อนฝูง" แบบFast Track
 

 

 

วันนี้ (15 ส.ค.2555 ) เวลา 09.25 น. มีการจัดสัมมนาทางวิชาการเพื่อการเสนอผลงานวิจัย “สู่สังคมไทยเสมอหน้า การศึกษาโครงสร้างความมั่งคั่งและโครงสร้างอำนาจเพื่อการปฏิรูป” โดยรศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอผลงานในหัวข้อ “เครือข่ายผู้บริหารระดับสูงผ่านเครือข่ายทางการศึกษา”ข้อสรุปเบื้องต้นพบว่า หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเป็นช่องทางให้เกิดชนชั้นนำใหม่และทำให้ชนชั้นนำรวมตัวกันเหนียวแน่นมากขึ้น


รศ.ดร.นวลน้อย กล่าวว่า ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ได้เกิดหลักสูตรฝึกอบรมผู้บริหารระดับสูงในวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อฝึกอบรมความชำนาญเฉพาะ หลายหลักสูตรเน้นการผสมผสานผู้บริหารระดับสูงในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคข้าราชการ ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ผู้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม นักการเมือง และภาคธุรกิจ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทั้งในแบบทางการและไม่เป็นทางการระหว่างบุคคลในรุ่น เดียวกันและระหว่างรุ่น


หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงที่ศึกษา ได้แก่ (1) หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (2) หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ของวิทยาลัยการยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม (3) หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) ของสถาบันพระปกเกล้า (4) หลักสูตรการพัฒนาการเมืองการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.)ของสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (5) หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) ของสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ (6) หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ (TEPCoT) ของหอการค้าไทย 

  
(คลิกอ่าน) 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345042434&grpid=00&catid=&subcatid=

รายการ Divas Cafe

รายการ Divas Cafe
 

แดงโห่ ปชป เฮ นักวิชาการซัด กระแสตีกลับเพื่อไทย Divas Cafe 13มิย55
http://youtu.be/vTCbQdANN1k

 
Divas Cafe  15 สิงหาคม 2555 


รายการ Divas Cafe  14 สิงหาคม 2555 

รายการ Divas Cafe 13 สิงหาคม 2555

Wake up Thailand พุธที่ 15 สิงหาคม 2555

 Wake up Thailand พุธที่ 15 สิงหาคม 2555
 


 

ยอมรับคนรักเพศเดียวกันอีกขั้นหนึ่งของปชต.


นำเสนอประเด็น
 
 
-  ต้อนรับทัพนักกีฬาไทยกลับบ้าน                 
- 'นิคม' นั่งปธ.วุฒิฯ โหวตรอบสองชนะ 'พิเชต' 77:69 คะแนน 
-  "เฉลิม" "เต้น" โวพร้อมสู้ศึกซักฟอก มั่นใจรัฐบาลแจงจำนำข้าวได้       
- วิปฝ่ายค้านเตรียมศึกอภิปรายรัฐบาล
- บัณฑูร ล่ำซำดีกว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแน่นอน...จริงหรือไม่
- กำหนดการเปิดรายงานศปช. "ความจริงเพื่อความยุติธรรม: เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลาย
- การชุมนุม เมษา-พฤษภา 53"                                  
- คนรักเพศเดียวกันในสังคมไทย 
- ศาสนาพุทธที่ไต้หวันยอมรับให้หญิงรักหญิงแต่งงานกัน 
- เปิดกอง "บรรณาธิเกย์" นิตยสาร "สีม่วง" เพื่อทุกเพศทุกวัย 
- ภาพยนตร์ชีวิตเเละความกตัญญู 'A Simple Life' 
- หนังนวมทอง เปิดตัวคนแสดง และบรรยากาศงานระดมทุน

(คลิกฟัง)
http://shows.voicetv.co.th/wakeup-thailand/47500.html

The Daily Dose 15 สิงหาคม 2555

The Daily Dose  15 สิงหาคม 2555





FAO เตือนให้ลดพลังงานทดเเทนหันมาสนใจอาหาร



จากผลการสำจวจของ FAO พบว่าดัชนีราคาอาหาร ปีนขึ้นร้อยละ 6 ในกรกฎาคม 2012 หลังจากสามเดือนของการลดลง ดัชนีอัตราการเปลี่ยนแปลงรายเดือนของราคาสินค้าอาหารที่ต่างประเทศ , ค่าเฉลี่ย 213 จุดเพิ่มขึ้น 12 จุดจากเดือนมิถุนายน 
 
การฟื้นตัวของดัชนีส่วนใหญ่อยู่ที่อาหารประเภทธัญพืชและน้ำตาล รองลงมาคืออาหารประเภทเนื้อสัตว์และนม ดังนั้นจึงควรหันมาให้ความสำคัญในเรื่องอาหารมากกว่าจะไปมุ่งเน้นที่พลังงาน ทดแทนอย่างเดียว
 

(คลิกฟัง)
http://shows.voicetv.co.th/the-daily-dose/47583.html

ที่นี่ความจริง อ ตุ้ม อ หวาน

ที่นี่ความจริง อ ตุ้ม อ หวาน


 

ที่นี่ความจริง อ ตุ้ม อ หวาน (14สค.55)

http://www.youtube.com/watch?v=q0PoGW5f4jo

ที่นี่ความจริง อ ตุ้ม อ หวาน (13สค.55)

http://www.youtube.com/watch?v=Ilb1bEp3kXI

ลองอ่าน "เซ็กและกามารมณ์" ในมุมมองนักวิชาการศิลปะ

ลองอ่าน "เซ็กและกามารมณ์" ในมุมมองนักวิชาการศิลปะ


Perotic1.jpg (19936 bytes)

ภาพกามาสูตรา ของอินเดีย : หนึ่งในวัฒนธรรมตะวันออกที่ฝรั่งในสมัยล่าอาณานิคมไม่เข้าใจ และเห็นว่าเป็นเรื่องลามก และเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นภาพอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนา (สมเกียรติ ตั้งนโม) 

“Sex ในเชิงสร้างสรรค์”
ถอดเทปการสนทนา กระบวนวิชา กามารมณ์ ๑๐๑ ( Sex ไม่ใช่แค่ไอ้นั่น) ตอน “Sex ในเชิงสร้างสรรค์” บรรยายที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มช. วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๒ / มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน (หมายเหตุ: การถอดเทปนี้ ยังไม่ได้มีการแก้คำผิด จึงขออภัยมา ณ ที่นี้)

“Sex ในเชิงสร้างสรรค์” ผู้นำการสนทนา สมเกียรติ ตั้งนโม

ก่อนอื่น ผมขอสรุปการพูดถึงกระบวนวิชา กามารมณ์ ๑๐๑ ที่ผ่านมา ๓ ครั้งก่อนหน้านี้. ครั้งแรก เป็นการพูดถึง กามารมณ์โดยทั่วๆไป ซึ่งได้มีการเสนอว่า ความเข้าใจของเราทั่วๆไปเกี่ยวกับเรื่อง sex นั้น เป็นการถูกครอบงำโดยวัฒนธรรมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่เป็นเรื่องของชีววิทยาล้วนๆ ที่ได้เข้ามามีส่วนกำหนด ตัดสินใจ ในเรื่องทางเพศ.

พอมาถึงครั้งที่สอง ซึ่งนำเสนอโดยอาจารย์วารุณี อาจารย์ได้นำเสนอความเข้าใจในเรื่องเพศระหว่างผู้ชายและผู้หญิงซึ่งมีทัศนะที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะทัศนะในทางที่ครอบงำของเพศชายซึ่งมีอิทธิพลต่อเรื่องของกามารมณ์

มาถึงครั้งที่สาม เป็นการพูดถึงเรื่อง”เพศพาณิชย์” เป็นเรื่องของการค้าประเวณี เรื่องของการใช้เพศเป็นสื่อการโฆษณา หรือสัญลักษณ์ทางเพศที่นำมาใช้ในทุกๆด้าน

สำหรับครั้งนี้จะเป็นเรื่อง “sex ในเชิงสร้างสรรค์” หรือเรื่องของ erotic art, ซึ่งในช่วงแรกนี้จะมีการพูดถึงว่า ในดึกดำบรรพ์นั้นภาพ erotic เหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างไร ? เท่าที่ผมพอสรุปได้ อยากจะชวนให้เรานึกถึงภาพ Venus of Willendorf. สำหรับรูปนี้และรูปศิวลึงค์(Hindu phallic symbol of creative power)เป็นเรื่องเดียวกัน. ที่กล่าวว่าเป็นเรื่องเดียวกันเพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นมาเป็นภาพของศิวลึงค์หรือรูปวีนัส ล้วนเป็นการเน้นถึงเรื่องของความอุดมสมบูรณ์. 

ในสังคมเกษตรกรรม ความคิดถึงเรื่องของควมอุดมสมบูรณ์ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันหมายถึงการมีชีวิตอยู่รอด ดังนั้น รูปของศิวลึงค์ หรือรูปของ Venus of Willendorf โดยเฉพาะภาพหลังนี้ จะทำขึ้นมาเป็นงานประติมากรรมรูปผู้หญิง ที่มีเต้านมขนาดใหญ่มาก และตั้งครรภ์ อันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งอันนี้ได้รับการแปลมาให้เข้าใจว่า ภาวะในลักษณะนี้มันหมายถึงผลิตผลที่งอกงาม หรือจะมีผลิตผลอันสมบูรณ์ในอนาคตนั่นเอง

อีกกลุ่มหนึ่งของสัญลักษณ์ทางเพศที่ปรากฎในงานศิลปะและศาสนาในสมัยโบราณ ก็คือ ภาพของการมีเพศสัมพันธ์กันโดยตรง. การมีเพศสัมพันธ์กันโดยตรงในที่นี้หมายถึงการมี sexual intercourse หรือภาพของการสังวาส. ภาพนี้เป็นการอธิบายมาตั้งแต่ยุคโบราณถึงการกำเนิดชีวิต ซึ่งเป็นคำอธิบายของศาสนาในยุคดึกดำบรรพ์.

ภัยพิบัติจากเมือง “Toulouse” ประเทศฝรั่งเศส: บทเรียนที่ถูกเบียดบัง

ภัยพิบัติจากเมือง “Toulouse” ประเทศฝรั่งเศส: บทเรียนที่ถูกเบียดบัง


ภัยพิบัติโรงงานเคมี ณ เมือง Toulouse
http://www.rootcauselive.com/RootOff/RootOffArchives/1stQtr2002/RootOff11-01.htm


ฝรั่ง : “เอาไหม เราจะไปตั้งโรงงานให้ ประเทศยูจะได้มีรายได้ และเป็นประเทศพัฒนาแล้วเหมือนเรา”

ไทย : “เอาซิ!”

(ฝรั่ง : “อ้อ...โรงงานเคมีที่จะขายให้ เคยมีประวัติระเบิดมาแล้วนะ มีคนบาดเจ็บเยอะแยะ และยังมีผลกระทบระยะยาวที่ยังประเมินไม่ได้อีก”-เงียบ)

บทสนทนาเรื่องการตั้งโรงงานเพื่อการพัฒนาที่ยกมาข้างต้น สังคมไทยจะได้รับรู้เพียง 2 ประโยคแรก แต่ประโยคสุดท้ายสังคมไทยไม่เคยได้รับรู้ ไม่อยากรับรู้ และไม่ต้องการรับรู้ ความไม่รู้เช่นนี้จะว่าไปก็มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะช่วงที่เราเริ่มมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504


นิโคลัส เดซี 

นิโคลัส เดซี (Nicolas Dechy) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและนักสืบเหตุการณ์ภัยพิบัติ ทั้งยังเป็นผู้ดำเนินการองค์กรและการเข้าถึงปัจจัยความปลอดภัยด้านพลังงาน โรงงานนิวเคลียร์ (Institut de Radioprotection et de Sûreté Nucléaire-IRSN) จากประเทศฝรั่งเศส มาบรรยายเกี่ยวกับภัยพิบัติโรงงานเคมี ณ เมือง Toulouse ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งระเบิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2001 หลังจากประเทศสหรัฐอเมริกาถูกวินาศกรรมจากเหตุการณ์ 9/11 ได้เพียง 10 วัน และนี่เป็นเหตุให้สังคมโลก ไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่า มีเหตุการณ์ภัยพิบัติจากโรงงานเคมีในเมือง Toulouse ประเทศฝรั่งเศสเกิดขึ้น

รายละเอียดเหตุการณ์
ตอนแรกที่โรงงานแห่งนี้ระเบิด รัฐบาลฝรั่งเศสตั้งข้อสงสัยว่า “นี้เป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายหรือเปล่า?” เพราะอเมริกาเพิ่งโดนวินาศกรรมไปเมื่อ 10 วันก่อน และเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อสืบสวนโดยใช้เวลาเพียง 15 วัน ผลปรากฏว่า ไม่พบความเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์ก่อการร้าย

การระเบิดทำให้สารเคมีแอมโมเนียไนเตรทจำนวน 300 ตัน รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณรอบๆ โรงงาน ขนาดของระเบิดเทียบเท่ากับแผ่นดินไหว 3.4 ริกเตอร์ และเทียบเท่ากับระเบิด TNT 20-40 ตัน ที่สำคัญโรงงานตั้งอยู่ใกล้กับเมือง โรงเรียนหลายแห่ง มหาวิทยาลัย 1 แห่ง โรงพยาบาลและโรงพยาบาลประสาท ทั้งหมดต้องรีบอพยพผู้ป่วยออกไปนอกบริเวณให้เร็วที่สุด ผลของการระเบิดทำให้คนจำนวน 30 คนเสียชีวิต และกว่า 2,500 คน บาดเจ็บสาหัส อีก 8,000 คนบาดเจ็บเล็กน้อย บ้านจำนวน 27,000 หลังเสียหาย คนกว่า 40,000 คน กลายเป็นคนไร้บ้านอยู่ระยะหนึ่ง สังคมฝรั่งเศสต้องจ่ายค่าความเสียหายให้กับเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในระหว่าง 1.5 ถึง 2.5 พันล้านยูโร แต่ที่สำคัญยังมีผลในระยะยาวที่ไม่สามารถประเมินค่าได้จนถึงปัจจุบัน คือ ผลกระทบด้านพิษเคมี และอาการบาดเจ็บทางด้านจิตใจ ซึ่งต้องการเครื่องมือการติดตามอย่างต่อเนื่อง
 
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42034

เมื่อ"แม้ว"ข้ามแดน เดินสายทัวร์มะกัน ในมุม"กม.-สนธิสัญญา"


เมื่อ"แม้ว"ข้ามแดน เดินสายทัวร์มะกัน ในมุม"กม.-สนธิสัญญา"

 

 

เรื่องราวการเข้าสหรัฐอเมริกาของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นประเด็นข้องใจ

เนื่องจาก

1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา

2.สหรัฐมีข้อกำหนดไม่ให้วีซ่ากับผู้ต้องคดีอาญา

3.ไทย กับสหรัฐอเมริกา มีสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยมีพระราชบัญญัติการส่งผู้ร้ายข้ามแดน 2551 เป็นหลักปฏิบัติอีกชั้นหนึ่ง

แล้วทำไมจึงไม่มีการใช้สนธิสัญญาและกฎหมายเพื่อให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน



ตั้งแต่มีข่าวสหรัฐอนุมัติวีซ่าเข้าสหรัฐให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีปฏิกิริยาไม่พอใจจากพรรคฝ่ายค้าน

คำอธิบายของฝ่ายสหรัฐ ล้วนยืนยันว่า ไม่เคยมีการทำเรื่องขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

ครั้งหลัง เมื่อ นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ แสดงความไม่พอใจที่สหรัฐให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าสหรัฐ

เมื่อ ถามถึงการดำเนินการตามสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสหรัฐ อเมริกาและไทย เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐระบุว่า ต้องสอบถามจากทางรัฐบาลไทยเท่านั้น

ขณะที่แหล่งข่าวในกระทรวงการต่าง ประเทศชี้ว่า กรณีระหว่างไทยกับสหรัฐ อเมริกา กำหนดให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ยื่นเรื่องขอตัว หรือขอให้ควบคุมตัวชั่วคราว

แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการยื่นเรื่องให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนต่อประเทศใดเลย (มติชน 13 ส.ค.)



นาง คริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หลังจากเข้าพบหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนบ่ายวันที่ 14 ส.ค.

ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ในปัญหาการให้วีซ่าเข้าสหรัฐ ดังนี้

แต่ละปีคนไทยได้รับการออกวีซ่าจากสถานทูตสหรัฐอเมริกา 50,000 คนต่อปี

การ ออกวีซ่าของสหรัฐให้กับคนต่างชาตินั้น ออกภายใต้กฎหมายของสหรัฐอย่างเคร่งครัด ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองในประเทศแต่อย่างใด

เมื่อ ถามว่ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทย-สหรัฐ มีบังคับใช้ ได้มีการหารือกับรัฐบาลในเรื่องส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นางคริสตี้กล่าวว่า สหรัฐอเมริการู้สึกดีใจและเป็นเกียรติ ที่มีความร่วมมือทางด้านกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ แน่นอนว่าไทยกับสหรัฐมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

(อ่านต่อ)