หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อุดมการณ์ชาตินิยมใน “คู่กรรม”

อุดมการณ์ชาตินิยมใน “คู่กรรม”


 

 
ถึงแม้ภาพยนตร์ “คู่กรรม” เวอร์ชันล่าสุดจะล้มไม่เป็นท่าอันแตกต่างจากเวอร์ชันละครซึ่งออกสู่สายตา สาธารณชนในเวลาใกล้เคียงกัน ก็ยังมีคนถามผู้เขียนว่าอีกนานไหมที่นักสร้างภาพยนตร์ชาวไทยจะเลิกหยิบ นวนิยายเรื่องนี้มาสร้างอีก ทั้งไม่นับอภิมหาอมตะภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น นางนาค บ้านทรายทอง  ปัญญาชนก้นครัว ข้าวนอกนาหรือแม้แต่บ้านผีปอบเสียที ผู้เขียนก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นในช่วงชีวิตของพวกเราหรือว่าจนกว่า ประเทศต่างๆ จะจมน้ำกันหมดเพราะภาวะโลกร้อนหรือโลกถูกดาวหางชนจนพังพินาศไปหรือไม่  แน่นอนว่าในอนาคตจะต้องมีภาพยนตร์คู่กรรมเวอร์ชันต่อไป (ซึ่งน่าจะรออีกไม่กี่ปีข้างหน้า) เพราะผู้สร้างภาพยนตร์ไม่กลัวว่าคนดูจะเบื่อเนื้อเรื่องแต่อาจจะพิจารณา เงื่อนไขอะไรบ้างอย่างมากกว่าอย่างเช่นภาพของผู้มารับบทเป็นคู่พระคู่นางโดย เฉพาะอังศุมาลิน หรือจุดขายอื่นๆ เช่นอาจมีคนสอดแทรกแนวคิดอื่นให้ทันสมัยเช่น "คู่กรรมเพื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" หรือ "คู่กรรมฉบับเอาใจนักลงทุนญี่ปุ่นผ่านไทยสู่ทวาย"  เป็นต้น   กระนั้นต้องมีแนวคิดหลาย ๆอย่างที่ผู้เขียนจะวิเคราะห์ต่อไปนี้เหมือนเดิม

แน่นอนว่าการที่นวนิยายเรื่องหนึ่งๆ ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่เนืองๆ ไม่นับเวอร์ชันละคร โทรทัศน์หรือละครเวทีหรือละครเพลง ย่อมเป็นตัวสะท้อนหรือตัวตอกย้ำวาทกรรมอะไรบางประการของสังคมได้อย่างดีจึง จะได้รับการตอบรับจากมวลชนอย่างล้นหลามแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร สำหรับคู่กรรมซึ่งสะท้อนภาพของญี่ปุ่นในฐานะศัตรูหรือผู้ยึดครองประเทศได้ แตกต่างจากนวนิยายหรือภาพยนตร์ปลุกใจรักชาติของไทยเรื่องอื่นที่มุ่งโจมตี ผู้รุกรานยึดครองคือพม่าเหมือนท้องฟ้ากับก้นเหว[i] เพราะสำหรับคนไทยแล้วญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไทยเฝ้ามองอย่างชื่นชมมานาน ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ๆ ของเอเชียที่เปิดประตูสู่ตะวันตก มีการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รวมไปถึงการพัฒนาการทางทหารจนทันสมัยกลายเป็นมหาอำนาจจนญี่ปุ่นเป็นเอเชีย ชาติแรกที่สามารถทำสงครามทางเรือชนะฝรั่งคือรัสเซียได้ในปี 1905  นายทหารไทยในยุคต้นๆ  เช่นพวกที่ก่อขบฏรศ.130  จึงให้การยกย่องญี่ปุ่นอย่างมาก 

สถานการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนหลังจากที่ประธานาธิบดีมูรซี่ถูกล้ม


สถานการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนหลังจากที่ประธานาธิบดีมูรซี่ถูกล้ม
 

 

องค์กรสังคมนิยมปฏิวัติอียิปต์ประณามจุดยืนของพรรคมุสลิม และโมฮัมมัด บาดี สมาชิกอวุโสของพรรค ที่จงใจสร้างสถานการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนหลังจากที่ประธานาธิบดีมูรซี่ถูกล้ม การกระทำของพรรค ด้วยการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา มุ่งที่จะสร้างสงครามกลางเมือง และหาทางให้มูรซี่กลับมามีอำนาจ


มวลชนเป็นล้านเป็นผู้ปลดมูรซี่ และไม่ต้องรอให้กองทัพมาปกป้องผู้คนที่กำลังยึดจตุรัสทาห์เรีย

การปฏิวัติอียิปต์ต้องเดินหน้า แต่มวลชนกำลังทบทวนสถานการณ์และการจัดตั้ง ทั้งในกลุ่มผู้ประท้วงบนท้องถนน กลุ่มชุมชนและในสถานที่ทำงานต่างๆ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้เวล


ไม่ว่าใครจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนคนนั้นควรมาจากแนวร่วมปฏิวัติที่ล้มมูบารักแต่แรก นอกจากนี้เรามีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่คือ


๑. รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของคนจนที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการปฏิวัติ


๒. ต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประกอบไปด้วยตัวแทนของกลุ่มต่างๆ เช่นกรรมาชีพคนทำงาน เกษตรกร คนจน สตรี และผู้แทนของชาวคริสต์คอพทิค เพื่อร่างรัฐธรรมนูญที่เน้นสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมทางสังคม


๓. ต้องมีการออกกฏหมายเพื่อลงโทษผู้นำพรรคมุสลิม นายพลระดับสูง และซากเก่าของชนชั้นนำจากยุคมูบารัก ซึ่งล้วนแต่มือเปื้อนเลือดประชาชน

กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลจัดบายศรีสู่ขวัญ “ธันย์ฐวุฒิ” อดีตผู้ต้องขัง 112

กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลจัดบายศรีสู่ขวัญ “ธันย์ฐวุฒิ” อดีตผู้ต้องขัง 112

 

สัมภาษณ์ หนุ่ม ธันย์ฐวุฒิ

บายศรีสู่ขวัญ ธันย์ฐวุฒิ (หนุ่ม เรดนนท์) อดีตผู้ต้องขัง 112

7 ก.ค.56  ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลจัดงานบายศรีสู่ขวัญ ให้อดีตนักโทษการเมืองคนล่าสุดที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา คือ ธันย์ฐวุฒิ หรือ หนุ่ม เรดนนท์

ธันย์ฐวุฒิ อายุ 41 ปี เป็นอดีตผู้ดูแลเว็บไซต์ นปช.ยูเอสเอ และถูกพิพากษาจำคุก 13 ปี ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (อ่านรายละเอียดคดีที่ http://freedom.ilaw.or.th/th/case/19#detail)
 
(อ่านต่อ)

Siveฝุดๆปูดบทสนทนาลับ:A deal has been done!

Siveฝุดๆปูดบทสนทนาลับ:A deal has been done! 
 

 
เสียงการสนทนาของ พล อ ยุทธศักดิ์กับ พ ต ท ทักษิณ ในการว่างแผ่นกลับประเทศ
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=9tmvUlz1pVc

บทสนทนาจากแดนไกล ฉบับเต็ม (ฟังคลิปเสียง)
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000082476
(อ่านต่อ)
http://thaienews.blogspot.dk/2013/07/a-deal-has-been-
done.html  


นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เปิดเผยถึง กรณีภาพหลุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนชี้หน้า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น เป็นของจริง เพราะช่วงเวลาของการปล่อยภาพและคลิปทั้ง 2 สอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ อีกทั้ง คลิปเสียงสนทนายังยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแผนที่จะกลับประเทศไทยโดยไม่ต้อง รับผิด ส่วนที่ผ่านมาให้ ร.ต.อ.เฉลิม และคนเสื้อแดงดำเนินการ แต่ล้มเหลว จึงย้ายให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ วางแผนแทรกซึมกองทัพ พร้อมเตรียมออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม รวมทั้งได้มีการปรับคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ 5" ก็เป็นไปตามที่มีการสนทนาภายในคลิปด้วย จึงมั่นใจว่าไม่ใช่การตัดต่อแน่นอน ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ต้องรีบออกมายืนยันกับประชาชน ว่า ไม่มีการวางแผนในเรื่องดังกล่าว และจะไม่มาแทรกแซงการทำงานของกองทัพ นอกจากนี้ กองทัพก็ต้องเร่งออกมาให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ และจะไม่เข้าไปอยู่ในขบวนการสมรู้ร่วมคิด เพื่อให้รัฐบาลบรรลุจุดมุ่งหมายทางการเมือง

ทั้งนี้ นายสุริยะใส กล่าวต่ออีกว่า คลิปและภาพหลุดในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งภายในรัฐบาลที่เริ่มมีปัญหาและจัดสรรผลประโยชน์กันไม่ลงตัว และเป็นไปได้ว่า อาจมีคลิปหรือภาพสำคัญๆ ถูกปล่อยออกมาอีกเรื่อยๆ