Set Zero, Forgive Them, Happy กู!
การเมืองของนักการเมือง
คือเรื่องของประชาหาใช่อื่น
ถึงจะเลวระยำสุดกล้ำกลืน
ประชายืนทวงสัญญาด่าได้ทุกวัน
แต่เจ้าเอ๋ยเจ้า “มือมองไม่เห็น”
เจ้าไม่เล่นการเมืองจึงไม่ต่ำ?
เจ้าอยู่เหนือการเมืองเลวระยำ?
จึงเช้าค่ำพร่ำสรรเสริญอย่างเกินจริง
หากประชาถูกหลอกให้ไปตายฟรี
แล้วฝ่ายที่เข่นฆ่าผีห่าสิง
ไม่ได้เลวไม่ได้ร้ายไร้ตัวจริง
จึงได้นิ่งไม่ถามหามารับกรรม
เฮ้ยปัญญาฝ่ามืดไม่ทุกด้าน
จึงระรานแต่อำนาจระนาบต่ำ
อำนาจสูงเสียดฟ้าปัญญาทำ-
เป็นเงียบงำไม่รับรู้เหมือน “ไม่มี”
อ.สุรพศ ทวีศักดิ์
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
'ฮันนีมูนประชาธิปไตย'
'ฮันนีมูนประชาธิปไตย'
พวงทอง ภวัครพันธุ์, สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ 2
นักวิชาการประชาธิปไตย
ประณามการตัดสินใจผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเหมาเข่งของพรรคเพื่อ
ไทย ว่าทอดทิ้งมวลชนผู้พลีชีพ เอามวลชนติดคุกเป็นตัวประกัน
ละทิ้งความยุติธรรม ไร้ความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถยอมรับได้
ทั้งยังสะท้อนจุดยืนที่ไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย
สำหรับผู้รักประชาธิปไตยที่ต่อสู้ร่วมกับ
พรรคเพื่อไทยมา 7 ปี ตั้งแต่เกิดรัฐประหาร
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผิดหวัง แต่ไม่แปลกใจ
เพราะรู้ธาตุแท้พรรคเพื่อไทย เพียงจำเป็นต้องต่อสู้ร่วมกัน
นับจากนี้คือทางแยก ที่ต้องถอยห่างและทบทวน เป็นจุดสิ้นสุดของ
"ฮันนีมูนประชาธิปไตย" แต่ยังไม่ใช่จุดแตกหัก
(ที่มา)
ธนาคารวาติกัน Vs สำนักงานทรัพย์สินฯไทย
ธนาคารวาติกัน Vs สำนักงานทรัพย์สินฯไทย
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ธนาคารวาติกัน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพระสันตะปาปา
เปิดเผยรายงานประจำปีเป็นครั้งแรก หลังจากองค์กรการเงินลึกลับแห่งนี้
ถูกเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวทางการเงินหลายครั้ง ในประเทศไทย
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็เป็นองค์กรลึกลับคล้ายกัน
หลายคนอาจสงสัยว่าธนาคารวาติกันกับสำนักงานทรัพย์สินฯของไทย
ใครถือครองทรัพย์สินมากกว่ากัน และมีความโปร่งใสแค่ไหน?
ในแง่มูลค่าทรัพย์สินที่ถือครอง
วาติกันแบงก์ หรือธนาคารวาติกัน มีทรัพย์สินอยู่ในมือมูลค่า 5.75
พันล้านยูโร หรือประมาณ 250,000 ล้านบาท
ในขณะที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ของไทย
มีทรัพย์สินเท่าใดนั้นไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่นิตยสาร Forbes
ประเมินไว้ในปี 2554 ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 900,000 ล้านบาท
แต่มูลค่าแท้จริงอาจสูงกว่านั้น
สำนักงานทรัพย์สินฯ ถือหุ้น 21 เปอร์เซ็นต์ในธนาคารไทยพาณิชย์
ซึ่งคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันประมาณ 117,000 ล้านบาท และถือหุ้น 30
เปอร์เซ็นต์ในบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันประมาณ 155,000
ล้านบาท ลำพังเฉพาะหุ้นในสองบริษัทนี้รวมกันก็มีมูลค่าถึง 272,000
ล้านบาท ซึ่งมากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของธนาคารวาติกันแล้ว
จากตากใบ ถึง ราชประสงค์
จากตากใบ ถึง ราชประสงค์
"เราไม่ไปถึงปี 2547"
สาวตรี สุขศรี: แถลงการณ์นิติราษฎร์ว่าด้วยนิรโทษกรรม
ใจ อึ๊งภากรณ์: ตากใบคืออาชญากรรมของรัฐ
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของทักษิณ ทหารและตำรวจ ได้จงใจลงมือฆ่าประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพโดยปราศจากอาวุธ ที่ตากใบ จังหวัดนราธิวาส
ชาวบ้านที่มาประท้วงหน้า ส.ภอ.ตากใบ ในวันนั้นประกอบไปด้วย ชาย หญิง และเด็ก
สาเหตุ ที่มาประท้วงก็เพื่อให้ตำรวจปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับในข้อหานำอาวุธไปให้ พวกกบฏ อาวุธดังกล่าวเดิมมาจากภาครัฐที่บังคับให้ชาวบ้านถือไว้ และเขามอบอาวุธให้คนอื่นเพราะถูกข่มขู่
ชาวบ้านกลัวว่าผู้ที่ถูกตำรวจจับจะหายตัวไปหรือถูกซ้อมตามเคย จึงมาประท้วงเพื่อให้ปล่อยเพื่อนบ้าน
นอกจากจะมีการใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วง และใช้ก๊าซน้ำตาแล้ว มีการยิงกระสุนปืนใส่ชาวบ้านตาย 6 คน บาดเจ็บอีกมากมาย หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืนของรัฐไทยเป็นเด็กอายุ 14 ขวบ ในขณะที่ฝ่ายชาวบ้านไม่มีอาวุธแต่อย่างใด
หลังจากที่สลายการชุมนุมดังกล่าว ทหารและตำรวจบังคับให้ชายทุกคนนอนลงกับพื้น ถูกถอดเสื้อ ถูกเตะตี แล้วมีการมัดมือไว้ข้างหลัง
ต่อ มาทหารก็โยนชายเหล่านั้นขึ้นรถทหารที่ไม่มีหลังคา มีการบังคับให้นอนทับกันหลายชั้น ใครร้องเรียนประท้วงหรือไม่พอใจ จะโดนทุบตีและเหยียบและถูกทหารปรามว่า “เดี๋ยวจะรู้ว่านรกจริงเป็นอย่างไร”
ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของทักษิณ ทหารและตำรวจ ได้จงใจลงมือฆ่าประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพโดยปราศจากอาวุธ ที่ตากใบ จังหวัดนราธิวาส
ชาวบ้านที่มาประท้วงหน้า ส.ภอ.ตากใบ ในวันนั้นประกอบไปด้วย ชาย หญิง และเด็ก
สาเหตุ ที่มาประท้วงก็เพื่อให้ตำรวจปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับในข้อหานำอาวุธไปให้ พวกกบฏ อาวุธดังกล่าวเดิมมาจากภาครัฐที่บังคับให้ชาวบ้านถือไว้ และเขามอบอาวุธให้คนอื่นเพราะถูกข่มขู่
ชาวบ้านกลัวว่าผู้ที่ถูกตำรวจจับจะหายตัวไปหรือถูกซ้อมตามเคย จึงมาประท้วงเพื่อให้ปล่อยเพื่อนบ้าน
นอกจากจะมีการใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วง และใช้ก๊าซน้ำตาแล้ว มีการยิงกระสุนปืนใส่ชาวบ้านตาย 6 คน บาดเจ็บอีกมากมาย หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืนของรัฐไทยเป็นเด็กอายุ 14 ขวบ ในขณะที่ฝ่ายชาวบ้านไม่มีอาวุธแต่อย่างใด
หลังจากที่สลายการชุมนุมดังกล่าว ทหารและตำรวจบังคับให้ชายทุกคนนอนลงกับพื้น ถูกถอดเสื้อ ถูกเตะตี แล้วมีการมัดมือไว้ข้างหลัง
ต่อ มาทหารก็โยนชายเหล่านั้นขึ้นรถทหารที่ไม่มีหลังคา มีการบังคับให้นอนทับกันหลายชั้น ใครร้องเรียนประท้วงหรือไม่พอใจ จะโดนทุบตีและเหยียบและถูกทหารปรามว่า “เดี๋ยวจะรู้ว่านรกจริงเป็นอย่างไร”
Quote of the Day
Quote of the Day
"ความยุติธรรมที่ใครคนหนึ่งจะได้นั้น ไม่ควรจะได้บนความอยุติธรรมที่มีต่อคนอื่น ในส่วนของคุณทักษิณ ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับเขา แต่อย่างที่ว่าการคืนต้องบรรลุวัตถุประสงค์สำหรับคนที่ข้องใจอยู่ ก็เปิดโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการที่ยุติธรรม แต่การเอามารวมกับการนิรโทษกรรมจากการสลายการชุมนุมมันไม่ถูก ก็ต้องเดินไปตามทางที่ถูก ที่บอกกันนี่ก็เป็นการบอกกันฉันมิตรเลย เพื่อให้เดินไปตามทางประชาธิปไตย"
31 ต.ค.56 กล่าวในแถลงนิติราษฎร์ว่าด้วยนิรโทษกรรม
"ความยุติธรรมที่ใครคนหนึ่งจะได้นั้น ไม่ควรจะได้บนความอยุติธรรมที่มีต่อคนอื่น ในส่วนของคุณทักษิณ ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับเขา แต่อย่างที่ว่าการคืนต้องบรรลุวัตถุประสงค์สำหรับคนที่ข้องใจอยู่ ก็เปิดโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการที่ยุติธรรม แต่การเอามารวมกับการนิรโทษกรรมจากการสลายการชุมนุมมันไม่ถูก ก็ต้องเดินไปตามทางที่ถูก ที่บอกกันนี่ก็เป็นการบอกกันฉันมิตรเลย เพื่อให้เดินไปตามทางประชาธิปไตย"
วรเจตน์ ภาคีรัตน์
จุดจบของรัฐบาลที่นิรโทษกรรมตัวเอง
จุดจบของรัฐบาลที่นิรโทษกรรมตัวเอง
รัฐบาลไทยกำลังผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง หลายฝ่ายก็แสดงความกังวลว่าการนิรโทษแบบนี้ นอกจากจะริดรอนสิทธิในการรู้ความจริง และนักการเมืองไม่ต้องรับผิดแล้ว มันยังสร้างวัฒนธรรมการทำผิดแล้วไม่ต้องรับผิดด้วย วัฒนธรรมทำผิดแล้วไม่ต้องรับผิดอันตรายอย่างไร?
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2546 ประธานาธิบดีโจเซฟ คาบิลา ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งในสงครามกลางเมืองบริเวณตะวันออกของประเทศ ที่ทำผิดตั้งแต่ปี 2546 ถึงเดือนพฤษภาคม 2552 แต่กฎหมายฉบับนี้ก็สร้างบรรยากาศวัฒนธรรมการทำผิดแล้วไม่ต้องรับผิดขึ้น เพียง 7 เดือนหลังจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่มาคัมโบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 ราย องค์กรฮิวแมนไรทซ์วอทช์เชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุคือกลุ่ม "Lord's Resistance Army(LRA)"
ในเอลซัลวาดอร์ มีสงครามกลางเมืองยืดเยื้อกว่า 12 ปีระหว่างกลุ่มติดอาวุธกับฝ่ายรัฐบาล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 70,000-80,000 ราย และสูญหายอีกประมาณ 8,000 คน หลังจากทั้งสองฝ่ายเจรจาสงบศึกกันก็มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งขึ้นใน ปี 2536 แต่หลังจากออกกฎหมายมาได้ ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนก็ระบุว่า อัตราการเกิดความรุนแรงทางการเมืองก็กลับมาเพิ่มสูงขึ้น และการอุ้มฆ่ากลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง กลุ่ม "แม่ของเหยื่อที่ถูกจองจำและถูกอุ้ม" ร่วมมือกับนักสิทธิมนุษยชนรณรงค์ให้เอลซัลวาดอร์ ลบล้างการนิรโทษกรรม และสหประชาชาติก็สนับสนุนการลบล้างนี้ด้วย
ตระเวน 13 สน. แจ้งจับละคร 'เจ้าสาวหมาป่า' งานรำลึก 40 ปี 14 ตุลา อ้างหมิ่นเบื้องสูง
ตระเวน 13 สน. แจ้งจับละคร 'เจ้าสาวหมาป่า' งานรำลึก 40 ปี 14 ตุลา อ้างหมิ่นเบื้องสูง
ละคร เจ้าสาวหมาป่า 40ปี 14ตุลา 13ต ค 56
http://www.youtube.com/watch?v=PaBNhMi4xyA
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงาน ว่านายพฤฒิ เมาลานนท์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/116 ซ.วิภาวดีรังสิต 39 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมคณะรวม 6 คน ได้เข้าพบ ร.ต.อ.อำพล วันดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา หมิ่นสถาบันต่อคณะแสดงละคร “ประกายไฟการละคร” ที่ทำการแสดงละครเรื่อง “เจ้าสาวกับหมาป่า” ซึ่งมีเนื้อหาตลอดท้องเรื่องทำนองจาบจ้วง ล้อเลียนเบื้องสูงและหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงาน ว่านายพฤฒิ เมาลานนท์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/116 ซ.วิภาวดีรังสิต 39 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมคณะรวม 6 คน ได้เข้าพบ ร.ต.อ.อำพล วันดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา หมิ่นสถาบันต่อคณะแสดงละคร “ประกายไฟการละคร” ที่ทำการแสดงละครเรื่อง “เจ้าสาวกับหมาป่า” ซึ่งมีเนื้อหาตลอดท้องเรื่องทำนองจาบจ้วง ล้อเลียนเบื้องสูงและหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์
(อ่านต่อ)
ละครนิรโทษกรรมเป็นโอกาสของทั้งสองฝ่ายที่จะเบี่ยงเบนประเด็น
ละครนิรโทษกรรมเป็นโอกาสของทั้งสองฝ่ายที่จะเบี่ยงเบนประเด็น
การ
วิ่งเต้นโวยวายเรื่องร่างกฏหมายนิรโทษกรรมที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้
จากทั้งสองฝ่าย คือฝ่าย “แช่แข็ง” กับฝ่าย “รัฐบาลเพื่อไทย”
เป็นโอกาสทองสำหรับผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยและพวกอนุรักษ์นิยมรวมถึงทหาร
เพราะมันทำให้ประเด็นสำคัญๆ หายไป
นั้นคือการสร้างมาตรฐานสิทธิมนุษยชนในไทยด้วยการนำทหารและนักการเมืองที่
สั่งฆ่าประชาชนมาขึ้นศาล การลงโทษผู้ที่ก่อรัฐประหาร
และการยกเลิกกฏหมายที่ทำลายสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยเฉพาะ112
สำหรับ
ฝ่ายแช่แข็งอนุรักษ์เผด็จการ
การถกเถียงกลายเป็นการต่อรองกับเพื่อไทยและทักษิณ
มีการพยายามยกเรื่องทักษิณมาพูดตามเคย
และปกปิดอาชญากรรมของทหารและประชาธิปัตย์
ถือว่าเป็นการกดดันให้นักโทษการเมืองติดคุกนานๆ ต่อไป
และเพื่อไม่ให้แตะกฏหมาย112 ที่ปกป้องทหารด้วยหน้ากากกษัตริย์
สำหรับ
รัฐบาลเพื่อไทย และนปช. ความสับสนและข่าวลือต่างๆ
รวมถึงการมีร่างกฏหมายนิรโทษกรรมร้อยแปดฉบับ เป็นโอกาสดีสำหรับพวกนี้
ที่จะสร้างความคลุมเครือ ให้เสื้อแดงนิ่งเฉยไม่ออกมาชุมนุม
และยอมรับการประนีประนอมแย่ๆ กับทหาร กับการจบลงแย่ๆ ด้วยความรู้สึกว่า
“อย่างน้อยเราได้บางอย่าง” แต่ได้อะไรนั้นอีกเรื่อง
คำ
ถามที่เราควรถามคือ พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลมาหลายปีแล้ว
ทำไมไม่มีการนำนายพลและนักการเมืองมือเปื้อนเลือดมาขึ้นศาล
ทำไมนักโทษการเมืองเสื้อแดงไม่ถูกปล่อยในขณะที่พวกปิดสนามบินมีเสรีภาพ
และทำไมไม่ทำอะไรกับกฏหมายแย่ๆ อย่าง 112?
คน
อย่าง สมยศ สุรชัย ดาตอร์ปิโด ไม่เคยก่ออาชญากรรมและไม่ได้ใช้ความรุนแรง
แต่เพื่อไทยกับ นปช. มองว่า “ต้อง” ติดคุกตลอดชีวิต
ในขณะที่อาชญากรแท้ที่มีเสรีภาพลอยนวล เช่น ประยุทธ์ อนุพงษ์ อภิสิทธิ์
อนุพงษ์ และสนธิ นี่คือสูตรสำหรับการปกป้องสังคมไทยที่ไร้สิทธิมนุษยชน
(ที่มา)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)