หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

"ปู"เช็กบิล"รมต." โชว์"ภาวะผู้นำ" ปรับใหญ่ครม.!

"ปู"เช็กบิล"รมต." โชว์"ภาวะผู้นำ" ปรับใหญ่ครม.!

















ปลายปี 2554 ช่วงปลายวิกฤตมหาอุทกภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวทีเล่นทีจริงถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ขอให้รัฐมนตรีส่งผลงานการทำงานในรอบ 3 เดือนมาให้ดู

หลังจากนั้นเรื่องราวเงียบหาย

แต่พอเทศกาลปีใหม่ผ่านไป ผลการตรวจงานรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังจะปรากฏในช่วง วันที่ 23 มกราคม ซึ่งเป็นวันตรุษจีน

ข่าว แจ้งว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นความต้องการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์โดยเฉพาะ เหตุเนื่องจากช่วงเกิดวิกฤตมหาอุทกภัยที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ต้องการกำลังจากรัฐมนตรีทุกกระทรวง แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีหลายกระทรวงทำงานได้ไม่เต็มที่

ยังมีรัฐมนตรีที่เมื่อรับตำแหน่งแล้วเกิดปัญหาทางการบริหาร ทั้งเรื่องการบริหารความขัดแย้ง และเรื่องความโปร่งใสในการบริหาร

ที่ สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นว่า หากปล่อยให้ทีมงานในคณะรัฐมนตรีของตัวเองเป็นคนเดิม อาจส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลภายหลังงบประมาณผ่าน ดังนั้น จึงคิดปรับปรุงคณะรัฐมนตรี

ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายซึ่งเป็นพี่เลี้ยง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่เห็นด้วยในทีแรก เนื่องจากการปรับคณะรัฐมนตรีภายหลังฟอร์มรัฐบาลมาได้ไม่กี่เดือนอาจส่งผล กระทบทางการเมืองภายในพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีหลายกลุ่มหลายก๊วน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. หลายคนที่คิดสนับสนุนให้แกนนำคนเสื้อแดงรับตำแหน่งรัฐมนตรี

จึงเกรงว่าหากรีบปรับคณะรัฐมนตรี จะทำให้การเมืองกระเพื่อมอีก

อย่าง ไรก็ตาม ในที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เป็นฝ่ายชนะ และการปรับคณะรัฐมนตรีที่ทีแรกเป็นเพียงกระแสข่าวแบบทีเล่นทีจริงจึงกลับ กลายเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นจริงเป็นจัง

ยิ่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่ ผ่านมา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ล้มป่วยเป็นโรคเส้นประสาทสมองอักเสบเฉียบพลัน ต้องรับการรักษาตัวทุกวัน จึงต้องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี

ยิ่งทำให้กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีร่นระยะเข้ามา

มีกำหนดดีเดย์คือวันตรุษจีน

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326612425&grpid=01&catid=&subcatid=

Quote of the Day

 



ประเทศเราอ่อนไหวเหลือเกินกับ ความขัดแย้ง เราเสแสร้งกันเหลือเกินแล้ว ผมไม่อยากจะใช้คำที่มันรุนแรงไปกว่านี้ ขอความกรุณาเถิดว่าเลิกเสแสร้ง ความขัดแย้งในสังคมประชาธิปไตยเป็นของธรรมดาเป็นของสามัญอย่างยิ่ง ขอเพียงให้คนที่เห็นต่างกันมีโอกาสพูด มีโอกาสเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมา อย่าไปไล่เขา อย่าไปบอกให้เขาไปอยู่ที่อื่น อย่าไปบอกให้เขาต้องเปลี่ยนสัญชาติ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในกรอบของกฎหมายทั้งปวง
 

เกษียร เตชะพีระ:“ให้ใจเพื่อนนิติราษฎร์”

 http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/0977/309977/31164be44e6f5b665c2c2094eb500527_1233720244.gif


ใช่ที่ว่าจุดหมายยังไม่ถึง
ใช่ที่ว่าเป็นฝันซึ่งยังต้องสร้าง
รัฐธรรมนูญยิ่งใหญ่ใส่พานวาง
แต่ทวยราษฎร์เป็นเบี้ยล่างเสมอมา
แต่หากไร้คณะนิติราษฎร์สู้
ราษฎรคงยังอยู่เป็นไพร่ข้า
ก้าวแรกการแก้ปมสมบูรณาฯ
เป็นก้าวสั้นแต่ทว่ายั่งยืนยาว..... 

FAQ กับ “ครก. 112”

FAQ กับ “ครก. 112”

นักวิชาการและนักเขียนซึ่งร่วมกันเสนอแก้ไข ม.112 ในนาม “คณะรณรงค์แก้ไข ม. 112 (ครก. 112)” ร่วมตอบคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการรณรงค์ให้แก้ไขมาตราดังกล่าว เช่น “พวกคุณเป็นคนไทยหรือเปล่า” “ขนาดมีกฎหมายยังเหิมกริมขนาดนี้ ถ้าไม่มีไม่ยิ่งหมิ่นกันทั่วหรือ” “ถ้าไม่ได้ทำผิดจะกลัวทำไม” ฯลฯ


ตามที่มีการจัดกิจกรรมเปิดตัว "คณะรณรงค์แก้ไข ม. 112" หรือ "ครก. 112" เพื่อเสนอการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุาภาพในวันนี้ (15 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศรีบูพา (หอประชุมเล็ก) มธ.ท่าพระจันทร์นั้น

ในช่วงหนึ่ง คณะนักวิชาการและนักเขียนซึ่งร่วมขับเคลื่อนการเสนอ แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในนาม "คณะรณรงค์แก้ไข ม. 112" หรือ "ครก. 112" ได้กันร่วมตอบคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการรณรงค์ให้แก้ไขมาตราดังกล่าว โดยผู้ร่วมตอบคำถามประกอบด้วย พวงทอง ภวัครพันธุ์ นักวิชาการจากคณะรัฐศ่าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ยุกติ มุกดา วิจิตร จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ., สาวตรี สุขศรี นักกฎหมายอาญา จากกลุ่มนิติราษฎร์ และวาด รวี นักเขียน โดยเวียงรัฐ เนติโพธิ์ นักสิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬา.ฯ เป็นผู้รวบรวมคำถามพบบ่อยและทำหน้าที่พิธีกร

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/01/38765

เจาะข่าวตื้น 49 : ปรองดองกันใช้หนี้


Miniature












ขอต้อนรับเข้าสู่เจาะข่าวตื้นปี 3 ประจำวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 และต่อไปนี้ขอเชิญพบกับพิธีกรสุดฮอต ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ สันดานเสียไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตะแคงตีนจุดยืน นายจอห์น วิญญู ว่าแล้วก็เริ่มต้นข่าวการเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อแปลงร่างพรบ.ฉบับหนึ่งให้กลาย เป็น พรบ.ปรองดอง แล้วไหนยังจะเรื่องกาารแย่งซีนเพื่อเอาเจ้านายกลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุก แต่หลักใหญ่ใจความของเจาะข่าวตื้นวันนี้ เราขอนำเสนอนิทานเรื่องยาวของประเทศไทยเรา "หนี้" กับภาระหนี้ที่เราทุกคนทั้งประเทศต้องแบกไว้มาตลอดเวลาสิบกว่าปี เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขอเชิญติดตามได้กับเจาะข่าวตื้นตอนนี้กันได้แล้วทั้งโลกนะฮ้าว์ฟฟ

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=Y60DdIalDc0
ความเหมือน(จัดวันเดียวกัน)ที่แตกต่าง(มากๆด้วย)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=345475105481801&set=a.210274385668541.60803.100000579424386&type=1ref=nf

ดู กันชัดๆ ..... รูปบน งานนิติราษฎร์ ที่ มธ. .... รูปล่าง กลุ่มคนของหมอตุลย์ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ..... ณ วันเดียวกัน 15 มกราคา 2555

สวีเดนหวังเข้าพบผู้ต้องสงสัยวางแผนบึ้มแหล่งท่องเที่ยวไทย หลังใช้"พาสปอร์ตปท."เข้าเมืองไทย

 


สำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่า นายอังเดร เอ็มแกนดาไวร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนเปิดเผยว่า บุคคลที่ถูกทางการไทยจับกุมตัวหลังต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายวางแผนลอบวาง ระเบิดแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ตามคำเตือนของทางการสหรัฐนั้น ได้ถือพาสปอร์ตของสวีเดนเข้าประเทศไทย

ก่อนหน้านี้่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีของไทย เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเป็นชาวเลบานอน และทางการไทยได้ควบคุมตัวบุคคลรายนี้ในสถานที่ราชการของรัฐบาล บุคคลผู้นี้เป็นสมาชิกกลุ่มเฮสโบเลาะห์ในเลบาอน ขณะที่โฆษกฯสวีเดนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทุตพยายามที่จะคลี่คลายความสับสนนี้ และคาดว่าบุคคลรายนี้จะถือสองสัญชาติ หรือเป็นชาวสวีเดนที่อยู่ในต่างแดน และว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตสวีเดน หวังที่จะได้พบกับบุคคลผู้นี้ในช่วงเสาร์ อาทิตย์ หรือวันจันทร์นี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องล่อแหลม

ทั้งนี้ เอเอฟพีระบุว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองไทยเปิดเผยว่า เมืองไทยได้รับการแจ้งเตือนเรื่องภัยก่อการร้ายในช่วงก่อนวันปีใหม่จาก อิสราเอล

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326602672&grpid=&catid=06&subcatid=0600

กลุ่มนิติราษฎร์ มั่นใจแก้ม. 112 ลดการใช้อารมณ์วิจารณ์ ระบุไม่ผิดกฎหมายหมิ่น



บรรยากาศ บนเวทีบนเวทีวิชาการ - ศิลปวัฒนธรรม "แก้ไขมาตรา 112" ช่วงที่สองเป็นการ “ตอบคำถามคาใจ: ทำไมต้องแก้ 112”ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลา 15.50 -17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานกิจกรรมวิชาการในเวทีวิชาการ - ศิลปวัฒนธรรม "แก้ไขมาตรา 112" ช่วงที่สองเป็นการ “ตอบคำถามคาใจ: ทำไมต้องแก้ 112” ดำเนินรายการโดย ผศ.เวียงรัฐ เนติโพธิ์ กลุ่มสันติประชาธรรม และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ กลุ่มสันติประชาธรรม เป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การวิจารณ์สถาบันฯ โดยสุจริตทำให้เกิดการปรับตัว เป็นหัวใจของความมั่นคงของสถาบัน สื่อต่างประเทศบอกว่า ในไทย ห้ามวิจารณ์ ไม่เป็นผลดีเพราะไม่มีสถาบันทางการเมืองใด อยู่ได้โดยไม่ปรับเปลี่ยน ดังนั้น การเสนอแก้ไข ตามร่างนิติราษฎร์ นี้ ยังมีพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ การแก้ไขต้องสอดคล้องสิทธิเสรีภาพประชาชน 

 

ส่วนหากแก้ไขแล้วจะยิ่งมีการหมิ่นหรือไม่นั้น ดร.พวงทอง เชื่อว่า การใช้อารมณ์วิจารณ์จะลดลง เพราะ ถ้ามีกฎหมายที่คุ้มครองการวิจารณ์โดยสุจริต มีหลักฐาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ถูกต้อง การหมิ่นในทางลับอย่างไม่เปิดเผยจะลดน้อยลง

  

ดร.พวงทองกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่รณรงค์ยกเลิก มาตรา 112 ว่า ไม่ใช่ความขี้ขลาด เพราะถ้าหากขี้ขลาดคงอยู่บ้าน แต่ร่างฯ ที่เสนอนี้ ให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในระดับที่พึงพอใ

 

(อ่านต่อ) 

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326632088&grpid=&catid=01&subcatid=0100

′ความเปลี่ยนแปลง′ที่′พม่า′

 



หลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ พม่าสำหรับบางคนแล้วดูราวกับ "ปาฏิหาริย์" ขนาดย่อมกำลังบังเกิดและคลี่คลายขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย

เพียง มองย้อนหลังกลับไปไม่นานนัก แค่ปี 2007 พม่ายังคงเป็นรัฐทหารเผด็จการ ที่พร้อมทุกเมื่อที่จะ "ปลิดปลง" การคัดค้าน ไม่เห็นด้วยในทุกรูปแบบตั้งแต่ยังเป็นหน่ออ่อน เป็นปุ่มปมยังไม่ระบัดใบ

ปี นั้นเลือดทั้งของประชาชน ของพระสงฆ์องค์เจ้า นองไปทั่วท้องถนนนครย่างกุ้ง จากการลุกฮือขึ้นประท้วงการบริหารจัดการประเทศของระบอบเผด็จการทหาร

ปี 2010 เมื่อพม่าจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี การจัดการทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสะท้อนถึงความพยายามในอันที่จะ "สืบทอดอำนาจ" ของบรรดานายพลทั้งหลายให้คงอยู่ ต่อเนื่องต่อไป นักสังเกตการณ์การเลือกตั้งทั้งหลาย "ตีตรา" กระบวนการเลือกตั้งในพม่าหนนั้นว่าเป็นเพียง "ละครตลก" อีกฉาก-เท่านั้น

ออ ง ซาน ซูจี กับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ส่วนใหญ่ บอยคอตการเลือกตั้งหนนั้น ตัวผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญได้รับอิสรภาพในเดือนพฤศจิกายนถัดมา หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การ "ควบคุม" เนิ่นนานกว่า 7 ปี

ถึง กระนั้น นักสังเกตการณ์การเมืองในพม่าที่ยังมีสติครบถ้วน ทุกประการก็ยังยืนยันว่าไม่มีวี่แววให้เห็นแม้แต่น้อยว่า ประดานายพล ทั้งหลายจะเปลี่ยนแปลง ผันแปร

หนึ่งปีให้หลัง ทุกอย่างพลิกผันราวหน้ามือกับหลังมือ

ประชาชน ทั่วไปสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต บริการที่เคยเป็น "ของต้องห้าม" ได้อย่างเสรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ข่าวสารและการสืบค้นสำคัญอย่าง ยาฮู หรือกูเกิล หรือแม้แต่กระทั่ง "บีบีซี" พ่อค้าแม่ขายตามท้องถนนสามารถวางจำหน่ายภาพโปสเตอร์ของ ออง ซาน ซูจี อย่างเปิดเผย

บรรยากาศผ่อนคลาย เปิดกว้างเสียจนเมื่อไม่นานมานี้พนักงานต้อนรับสตรีในโรงแรมหรู สามารถปฏิเสธคำขอ "เลขที่ห้องพัก" จากเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ "พม่าลี้ภัย" คนสำคัญรายหนึ่งได้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ยืนกรานว่า เธอ "ไม่มีสิทธิ" เปิดเผยข้อมูลเช่นนั้นของแขกที่เข้าพักได้

นี่คือสิ่งซึ่งเป็นไปไม่ได้แม้แต่จะคิด-เมื่อสักราว 6-7 เดือนก่อนหน้านี้

เมื่อตุลาคม ปีกลาย รัฐบาลพม่าเริ่มต้นปล่อยนักโทษราว 6,300 คน ซึ่งรวมถึงนักโทษ "การเมือง" และนักโทษ "ทางความคิด" ราว 200 คน

หนึ่งในจำนวนนั้นคือ "ซาร์กานาร์" นักเสียดสีทางการเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของพม่า

วัน ดีคืนดี "ถิ่น ส่วย" ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการตรวจสอบและขึ้นทะเบียนสื่อมวลชน "มือเซ็นเซอร์" ตัวฉกาจของรัฐบาลทหารในอดีตหมาดๆ ออกมาประกาศย้ำในที่สาธารณะว่า "การเซ็นเซอร์สื่อ" ที่เคยทำกันมาจนเป็นวัตรปฏิบัตินั้นจำเป็นต้องยุติ เพราะ "เข้ากันไม่ได้" กับ "แนวปฏิบัติแบบประชาธิปไตย" ที่ยึดถือกันอยู่ในเวลานี้

เดือนสิงหาคม ออง ซาน ซูจี ได้เข้าพบหารือแบบเห็นหน้าค่าตากันกับ เต็ง เส่ง อดีตนายพลทหาร ที่ตอนนี้อยู่ในสถานะ "ประธานาธิบดี" แห่งพม่า

  
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326622425&grpid=&catid=02&subcatid=0207