หน้าเว็บ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การขึ้นมาของฮิตเลอร์ ในเยอรมันเมื่อ 80 ปีก่อน

การขึ้นมาของฮิตเลอร์ ในเยอรมันเมื่อ 80 ปีก่อน 


 
ถ้าเราจะเข้าใจการขึ้นมามีอำนาจของฮิตเลอร์ เราจะต้องดูประวัติศาสตร์เยอรมันตั้งแต่ปี 1918 ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 และหนึ่งปีหลังจากการปฏิวัติรัสเซีย  ในช่วงนั้นกรรมาชีพเยอรมันเกือบจะยึดอำนาจได้สำเร็จ แต่ล้มเหลวเพราะขาดพรรคปฏิวัติที่มีประสบการณ์ ต่อมาในปี 1923 มีความพยายามที่จะปฏิวัติอีกครั้งแต่ถูกพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยหักหลังและ ปราบปราม

โดย ดอนนี กลุคสไตน์

80 ปีก่อนในวันที่ 30 มกราคม 1933 ฮิตเลอร์ ขึ้นมามีอำนาจในเยอรมัน  วันนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเที่ยงคืนแห่งศตวรรษ  มันเปิดประตูไปสู่การใช้ความป่าเถื่อนและความกลัว  มันนำไปสู่สงครามและการฆาตกรรมในระดับอุตสาหกรรมของมนุษย์เกิน 10 ล้านคน
   
พวกสื่อกระแสหลักและตำราในโรงเรียนมักเน้นความพิเศษของ อะดอลฟ ฮิตเลอร์ จะมีการพูดถึงบารมีของผู้นำคนนี้และการที่เขาสะกดจิตมวลชนด้วยคำปราศรัยและ สายตาได้ นักเขียนคนอื่นก็จะกล่าวหาประชาชนชาวเยอรมันทุกคนว่าพร้อมใจกันร่วมมือกับ พวกนาซี
   
อย่างไรก็ตามคำอธิบายง่ายๆ แบบนี้หลีกเลี่ยงการวิเคราะห์ที่ทำให้เราเข้าใจว่าการขึ้นมามีอำนาจของ ฟาสซิสต์เกิดได้ในทุกที่ และเป็นภัยในปัจจุบันอีกด้วย ทุกวันนี้องค์กรฟาสซิสต์ทั่วยุโรปกำลังพยายามขยายอิทธิพลท่ามกลางวิกฤติ เศรษฐกิจ

นิยายที่ 1 “ฮิตเลอร์ สะกดจิตมวลชน”
   
คำโกหกและคำป้ายร้ายป้ายสีของพวกนาซีที่เสนอว่าพวกคอมมิวนิสต์  คนต่างชาติและยิวเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 1920 แต่ในปี 1928 พรรคนาซีได้คะแนนเสียงแค่ 2.6% ในการเลือกตั้ง ซึ่งน้อยกว่าพรรคอื่นๆ อีก 6 พรรค อย่างไรก็ตามสองปีหลังจากนั้นเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก  พรรคนาซีกลายเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 ในเยอรมัน
   
เมื่อเราวิเคราะห์การลงคะแนนเสียงให้พรรคนาซี เราจะพบว่าเสียงส่วนใหญ่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วมาจากชนบทซึ่งเป็นแหล่งที่นา ซีไม่ได้จัดการประชุมหรือการปราศรัยมากนัก  มันแสดงให้เห็นว่าคะแนนเสียงที่พรรคนาซีได้เพิ่มขึ้น ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจมาจากชนชั้นระดับกลางในชนบท  ที่แสวงหาพรรคสุดขั้วเพื่อแก้ปัญหาของตนเอง
   
ส่วนที่แย่ที่สุดของชนชั้นกลางเป็นพวกที่ไม่ร่ำรวยเหมือนนายทุนแต่ขาดความ สมานฉันท์ของชนชั้นกรรมาชีพ คำโกหกของฮิตเลอร์ให้กำลังใจกับพวกนี้

นิยายที่ 2 “คนเยอรมันทุกคนสนับสนุนฮิตเลอร์”
   
ฮิตเลอร์พยายามหาฐานสนับสนุนจากทั้งซ้ายและขวาชื่อพรรคนาซีย่อมาจาก “พรรคสังคมนิยมกรรมกรแห่งชาติเยอรมัน”  คำว่า “แห่งชาติ” และคำว่า “เยอรมัน” ออกแบบเพื่อให้พวกชนชั้นกลางและชนชั้นสูงฝ่ายขวาชื่นชม และฮิตเลอร์ ก็สามารถดึงคะแนนเสียงจากชนชั้นกลางเป็นหลัก  ส่วนคำว่า “สังคมนิยม” และ คำว่า “กรรมกร” ถูกใช้เพื่อพยายามดึงการสนับสนุนมาจากชนชั้นกรรมาชีพแต่ปรากฎว่าชนชั้น กรรมาชีพส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนพวกนาซี  ฐานเสียงส่วนใหญ่ของพรรคนาซีมาจากพวกอภิสิทธิชนและชนชั้นกลาง  ผู้หญิงเยอรมันส่วนใหญ่ก็หันหลังให้พรรคนาซีด้วย มีแค่ 5% ที่สนับสนุนและใน “สหภาพแรงงาน” ของนาซี มีสมาชิกแค่ 170,000 คน ขณะที่ในสหภาพแรงงานของฝ่ายสังคมนิยมมีสมาชิก 4,000,000 คน

นิยายที่ 3 “ฮิตเลอร์ ได้รับการเลือกตั้ง”
   
ตำรากระแสหลักมักจะอ้างว่า ฮิตเลอร์ ได้รับการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตย แต่ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจพรรคนาซีได้เสียงสูงสุด 37% ซึ่งน้อยกว่าคะแนนเสียงของพรรคสังคมนิยมและพรรคคอมมิวนิสต์รวมกัน
   
ในปี 1932 ฮิตเลอร์ เรียกร้องให้ประธานาธิบดี ฮินเดนเบอร์ก ของเยอรมัน แต่งตั้งเขาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ฮินเดนเบอร์ก ปฏิเสธ  และบอกว่าอย่างมากที่สุดจะแต่งตั้ง ฮิตเลอร์ เป็นหัวหน้าไปรษณีย์ ฮินเดนเบอร์ก ซึ่งมาจากตระกูลขุนนางมองว่า ฮิตเลอร์ เป็นไอ้โง่ชนชั้นต่ำ อย่างไรก็ตามพอถึงต้นปี 1933 ทั้งๆที่พรรคนาซีกำลังอ่อนแอลง ฮินเดนเบอร์ก ตัดสินใจแต่งตั้ง ฮิตเลอร์ เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อยับยั้งการขยายตัวของอิทธิพลสังคมนิยม ก่อนหน้านั้น 3 ปี ฮินเดนเบอร์กออกกฎหมายฉุกเฉินเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจสูงสุดโดยไม่ต้องปรึกษา รัฐสภา

ถ้าเราจะเข้าใจการขึ้นมามีอำนาจของฮิตเลอร์ เราจะต้องดูประวัติศาสตร์เยอรมันตั้งแต่ปี 1918 ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 และหนึ่งปีหลังจากการปฏิวัติรัสเซีย  ในช่วงนั้นกรรมาชีพเยอรมันเกือบจะยึดอำนาจได้สำเร็จ แต่ล้มเหลวเพราะขาดพรรคปฏิวัติที่มีประสบการณ์ ต่อมาในปี 1923 มีความพยายามที่จะปฏิวัติอีกครั้งแต่ถูกพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยหักหลังและ ปราบปราม นี่คือสถานการณ์ของเยอรมันก่อนที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ  วิกฤตินี้ตั้งคำถามท้าทายกับสังคมเยอรมันอย่างยิ่งคือ จะเดินหน้าสู่สังคมนิยมตามความหวังของกรรมาชีพ หรือจะถอยหลังเข้าสู่ความป่าเถื่อนของนาซี เพื่อปกป้องระบบทุนนิยม เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ความแตกแยกระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับพรรค สังคมนิยมประชาธิปไตยเปิดทางให้เผด็จการของนาซี


(ที่มา) 
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/02/80.html      

ART FOR FREEDOM เทศกาลศิลปะเพื่อเสรีภาพประชาชน

ART FOR FREEDOM เทศกาลศิลปะเพื่อเสรีภาพประชาชน



ART FOR FREEDOM : เทศกาลศิลปะเพื่อเสรีภาพประชาชน
  
 กำหนดการนิทรรศการศิลปะเพื่อเสรีภาพ
สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 กทม.
-----------------------------------------------------
21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
15.00 น. – 15.30 น. ตัวแทนศิลปินกลุ่มต่างๆและตัวแทนคณะกรรมการจัดงาน
อธิบายโครงการโดยย่อต่อสื่อมวลชน และเปิดงานโดย ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล
16.00 น. – 17.00 น. ปาฐกถาโดย ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์
ในหัวข้อ เสรีภาพ ประชาธิปไตยกับสังคมไทยในระยะเปลี่ยนผ่าน
17.00 น. – 18.00 น. ชมงานศิลปะของศิลปินแต่ละกลุ่ม
18.00 น. – 21.00 น. ละครสั้นจากบีฟลอร์และศิลปะการแสดงจากศิลปินกลุ่มต่างๆ



22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
17.00 น. – 19.00 น. เสวนาสิทธิเสรีภาพในการสื่อสาร การแสดงออกและการควบคุมโดยรัฐ
และ กระบวนการยุติธรรม โดยมีวิทยากรคือ
อ.ชาญชัย ชัยสุขโกศล
ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข
ดิน บัวแดง
19.00 – 21.00 ศิลปะการแสดงจากศิลปินกลุ่มต่างๆ



23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
17.00 น. – 19.00 น. เพศสภาพที่ถูกปิดกั้นในงานศิลปะที่ถูกเซนเซอร์
19.00 – 21.00 ดนตรี “วงสลึง” นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล



24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
13:00 น. – 17.30 น. ประชุมสมัชชากวีราษฏร์ ในหัวข้อ
“ทิศทางศิลปะภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”
18:30 น. – 21:30 น. ศิลปะสังสรรค์ หัวข้อ “(ความจริงของ) ความฝันอันสูงสุด”



25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
19.00 – 21.00 เสวนา “กษัตริย์ในผลงานวรรณกรรมเชคสเปียร์”
โดย ภาณุ ตรัยเวช, ภัควดี วีระภาสพงษ์, อาทิตย์ ศรีจันทร์



26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
19.00 – 21.00 ฉายภาพยนตร์สั้นและเสวนา
“FILMVIRUS WILDTYPE :จดหมายจากชาวนาอีฟ
คัดสรรโดย Filmsick, ฉายโดย ตี้ ชญานิน 



27-28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
19.00 – 21.00 ฉายภาพยนตร์สั้นจากมูลนิธิหนังไทย และเสวนา

หมายเหตุ กำหนดการนิอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ที่นี่ความจริง 20 2 2013

ที่นี่ความจริง 20 2 2013 

 

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=W-4V-eQvSeY&feature=share

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand
 

ชกกันไปเลยจะได้ปรองดองสักที

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556  ตอนที่ 2
ชกกันไปเลยจะได้ปรองดองสักที
http://www.dailymotion.com/video/xxmwp7_yyy-



 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 1
เลือกตั้งผู้ว่าฯ ชี้ชะตาหัวหน้าปชป.
http://www.dailymotion.com/video/xxmwy7_yy-yyy 

The Daily Dose

The Daily Dose
 

รัฐบาลควรเดินหน้าหาพลังงานเพิ่มเติม

The Daily Dose ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556
รัฐบาลควรเดินหน้าหาพลังงานเพิ่มเติม
http://www.dailymotion.com/video/xxnby1_y-yyyyyyyyy 
  
The Daily Dose ประจำวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
กนง.ต้องไม่ลดดอกเบี้ยตามเเรงกดดันรัฐบาล
http://www.youtube.com/watch?v=NhcLgVsHAwI 
 
The Daily Dose ประจำวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556
ปชป.ได้เพราะพรรคเเต่เพื่อไทยได้เพราะบุคคล 
http://www.dailymotion.com/video/xxlbjj_yyy-yy 

Divas Cafe ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556

Divas Cafe ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556


สามนิ้วเปลี่ยนโลก (การอ่าน)  
 
สามนิ้วเปลี่ยนโลก (การอ่าน)  
http://www.dailymotion.com/video/xxmxy7_yyyy 

คนงานอิเล็คโทรลักซ์และนักสหภาพแรงงาน ร้องทูตฯ เม็กซิโก เคารพสิทธิแรงงงาน

คนงานอิเล็คโทรลักซ์และนักสหภาพแรงงาน ร้องทูตฯ เม็กซิโก เคารพสิทธิแรงงงาน



 
 
20 ก.พ. 56 เวลา 10.30 น.ที่หน้าอาคารไทยวาห์ ถ.สาทรใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโก ประจำประเทศไทย นักสหภาพแรงงานประมาณ 40 คน จาก สหภาพแรงงานอิเล็คโทรลักซ์ กลุ่มสหกรณ์คนงานธาร์ยอาร์ม กลุ่มสหภาพแรงงานเคมีภัณฑ์ โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย ชุมนุมแสดงสมานฉันท์ร่วมกับขบวนการแรงงานเม็กซิโกและสหภาพแรงงานสากลอินดัส ตรีออล (IndustriALL Global Union) ในการรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลเม็กซิโกเคารพ ปกป้องสิทธิแรงงาน สิทธิมนุษยชนเสรีภาพในการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรองเพื่อมาตรฐานการจ้างงาน และการดำรงชีพที่ดีสำหรับคนงานทุกคน โดยการชุมนุมดังกล่าวจัดขึ้นในสัปดาห์นี้พร้อมๆ กับประเทศอื่นทั่วโลก

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2013/02/45409

ทำไมต้องถอนทหารออกจากภาคใต้

ทำไมต้องถอนทหารออกจากภาคใต้ 



แนวทางแก้ปัญหาจึงต้องเริ่มจากรัฐไทย ที่มีอำนาจเหนือกว่า และเป็นผู้ก่อปัญหาแต่แรก แสดงความจริงใจที่จะยอมรับความผิดของตนเองที่มี และสร้างบรรยากาศพื้นที่เสรีภาพ ประชาธิปไตย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ มันจะมีวิธีการอื่นใด นอกจากจะต้องถอนทหารออกจากพื้นที่อีกละ

โดย วัฒนะ วรรณ


ช่วงหลายวันมานี้ ผมนั่งอ่านคอมเม้น ในที่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในภาคใต้ ด้วยใจหนึ่งก็คิดอยู่แล้วว่า คอมเม้นเหล่านี้ จะมีอารมณ์และความคิดอย่างไร แต่ก็อยากจะรู้ อยากจะฟัง เพื่อยืนยันในความคิดเรา เมื่อได้ฟัง ได้อ่านแล้ว ผมก็คิดว่า ถ้าคนในสังคมไทย ยังมีแนวคิดชาตินิยม เช่นนี้แล้ว อยากที่ปัญหาภาคใต้ จะยุติได้ เพราะส่วนหนึ่งของปัญหาภาคใต้ ก็มาจากแนวคิดที่แสดงออกตามคอมเม้น เหล่านี้ แต่ข้อคอมเม้นเหล่านั้น ก็ไม่ใช่ภาพสะท้อนของคนในสังคมไทยทั้งหมด ที่มีความก้าวร้าว เช่นว่านี้ ซึ่งผมเดาว่าพวกคอมเม้นเหล่านั้น ก็คงจะเป็นพวกที่สนับสนุนระบบอำมาตย์ สนับสนุนทหารที่ทำรัฐประหาร สนับสนุนการฆ่าเสื้อแดง และผมก็ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนในขบวนการประชาธิปไตย ที่ต่อสู้มายาวนานหลายปี จะพยายามถกเถียงแลกเปลี่ยนกัน หาทางออกให้กับปัญหาชายใต้ ภายใต้ความเข้าใจที่จะยืนเคียงข้างผู้ถูกกดขี่ในพื้นที่ ที่ลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม

แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า คนที่รักความเป็นธรรม ก็อาจจะใช้แนวคิดชาตินิยม มาใช้อภิปรายในเรื่องนี้ เพราะแนวคิดชาตินิยม ที่ถูกปลูกฝังมานาน ไม่สามารถสลัดออกได้ง่ายๆ ภายในไม่กี่วัน เพราะการปลูกฝังอาจจะนับได้ตั้งแต่การสร้างรัฐชาติ สมัยใหม่ ยุค ร. 5 ก็น่าจะได้ จนคนรุ่นหลังๆ ก็พลอยคิดเอาว่า ชาติ เป็นสิ่งธรรมชาติ เอกลักษณ์ของชาติไทย ก็เป็นสิ่งธรรมชาติ แล้วเราก็สนับสนุนความเป็น ชาติไทย แบบนี้ ที่เป็นทั้ง รูปแบบการเมือง สังคม วัฒนธรรม ไปครอบหัวคนทุกคน ในแผ่นดินนี้ ที่เรียกว่ารัฐชาติไทย ภายใต้ความมั่นคงแห่งรัฐ ที่แผ่นดินไทยไม่สามารถแบ่งแยกได้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ใครสยบยอม ก็อยู่ได้ ใครคิดท้าทายก็ต้องฆ่ามัน หรือไล่มันไปอยู่ประเทศอื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด มันมาจากกรอบแนวคิดเดียวกัน มันมาจากรากปัญหาเดียวกัน ทั้งเรื่องประชาธิปไตย ลัทธิอำมาตย์ ลัทธิทหาร และปัญหาภาคใต้

ส่วนนักสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย หรือนักกิจกรรม ที่อ้างว่าตนก้าวหน้า ศึกษา อ่านหนังสือมาเยอะ แล้วแสดงท่าทีสนับสนุนทหาร เนื่องด้วยเห็นใจผู้บริสุทธิ์ ที่ต้องตายไปด้วยน้ำมือของกลุ่มกบฏ หาได้ก้าวหน้าอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่หยิบเอาจิตสำนึกพื้นฐานของมนุษย์ที่ไม่อยากเห็นใครต้องเสียชีวิต มาฉาบตัวเองให้ดูดี มีความก้าวหน้าอยู่เท่านั้นเอง แต่เบื้องลึกของพวกเขา ก็คือให้คงสภาพรัฐทหารในภาคใต้ ไว้เช่นเดิม

ปัญหาภาคใต้ ถ้าใช้สายตามองแต่เพียงปรากฏการณ์รายวัน ยากที่จะแสวงหาทางออกได้ และยิ่งใช้กรอบแนวคิดชาตินิยม ก็ยิ่งสร้างความซับซ้อน หาทางออกแทบไม่เจอ เพราะรัฐไทยเข้าไปกดขี่ข่มเหงประชาชนในพื้นที่มานาน และเมื่อประชาชนในพื้นที่ลุกขึ้นกบฏต่อรัฐไทย โดยใช้การจับอาวุธขึ้นสู้ ตอบโต้ในลักษณะการแก้แค้นต่อกันไปเรื่อยๆ รัฐไทยใช้วิธีการอย่างไร กลุ่มกบฏ ก็ใช้วิธีการอย่างนั้น จนสุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะใครได้

แนวทางแก้ปัญหาจึงต้องเริ่มจากรัฐไทย ที่มีอำนาจเหนือกว่า และเป็นผู้ก่อปัญหาแต่แรก แสดงความจริงใจที่จะยอมรับความผิดของตนเองที่มี และสร้างบรรยากาศพื้นที่เสรีภาพ ประชาธิปไตย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ มันจะมีวิธีการอื่นใด นอกจากจะต้องถอนทหารออกจากพื้นที่อีกละ เพราะนั่นเท่ากับแสดงว่ารัฐไทย ยินดีรับฟังและเปิดพื้นที่ประชาธิปไตยถาวร ให้กับการแสดงความเห็นและเสนอแนวทางการสร้างระบบปกครองของคนในพื้นที่ ตามที่คนในพื้นที่ต้องการ

กระบวนการเหล่านี้มันไม่ได้เห็นผลได้เร็วทันใจ และมันก็ต้องใช้เวลาให้กลุ่มคนต่างๆ ให้พื้นมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าสามารถกำหนดอนาคตตนเองได้จริง เพราะการที่คนตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกกระทำจากรัฐไทยส่วนกลางมาเป็นเวลา นาน อยากที่จะให้การยอมรับได้

ส่วนคำถามสำคัญ ที่ผู้รักความเป็นธรรมตั้งมา ถ้าถอนทหารออกแล้ว ครูในพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่ ใครจะรับประกันความปลอดภัยให้ได้ แต่ที่ผ่านมาการมีทหารอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ก็ไม่ได้รับประกันคนธรรมดาจะมีความปลอดภัยจริง แต่ผมเชื่อว่าปัญหาในภาคใต้ ที่อยู่ในรูปแบบสงครามกลางเมือง ไม่ใช่สงครามระหว่างชาติพันธุ์หรือสงครามศาสนา แต่เป็นสงครามการเรียกร้องความเป็นธรรมของคนในพื้นที่จากรัฐไทย ที่เป็นผู้ปกครอง ซึ่งคนบริสุทธิ์ไม่ใช่เป้าหมายของการทำสงครามแต่แรก เพียงแต่กลุ่มกบฏเลือกวิธีตอบโต้กับรัฐไทย ด้วยวิธีเดียวกัน ซึ่งผมมองว่าเป็นวิธีที่ไม่สามารถเอาชนะรัฐไทย ที่มีกำลังเหนือกว่าได้ แต่รัฐไทยก็ไม่สามารถเอาชนะกลุ่มกบฏได้เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ใช่แนวทางการเมืองนำการทหาร

ซึ่งการจะวิจารณ์ยุทธวิธีของกลุ่มกบฏที่ใช้วิธีที่ผิด เราต้องวิจารณ์ภายใต้พื้นฐานของความเข้าใจว่า นั่นเป็นการก่อกบฏของคนในพื้นที่ต่อรัฐส่วนกลาง ไม่ใช่กลุ่มโจร ที่ไร้อุดมการณ์ใดๆ เหมือนกับที่เราวิจารณ์ขอเสนอของบางคนที่เสนอให้ขบวนการประชาธิปไตยจับอาวุธ ขึ้นสู้กับทหาร หลังจากที่มีการปราบและฆ่าคนเสื้อแดงอย่างโหดเหี้ยมกลางเมือง เหมือนกับที่เราวิจารณ์การจับอาวุธขึ้นสู้ของ พคท ที่ไม่สามารถนำไปสู่ชัยชนะได้ มันเป็นการวิจารณ์โดยยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับผู้ถูกกดขี่ เราวิจารณ์เพราะเชื่อว่าขบวนประชาธิปไตย ขบวนการ พคท หรือกบฏในภาคใต้ มีความชอบธรรมในการลุกขึ้นต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมจากรัฐไทยส่วนกลาง  


(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/02/blog-post_19.html 

วาทกรรม “เบื่อความรุนแรง” กับเส้นทาง “เอกราชอาบเลือด” ที่ปาตานี

วาทกรรม “เบื่อความรุนแรง” กับเส้นทาง “เอกราชอาบเลือด” ที่ปาตานี



 
"ถ้าเบื่อความ รุนแรงจริง ก็ต้องเจรจา แต่ไม่ใช่การเจรจาจัดฉากเพื่องานการข่าวเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าอารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนและสมาชิกขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อ เอกราชปาตานี ก็คงเบื่อภาวะความรุนแรงไม่ต่างกับทาง กอ.รมน. เหมือนกัน และในเวลาเดียวกันก็ “เบื่อการเจรจาจัดฉาก” ด้วยเหมือนกัน
 
ท่าทีที่ไม่ชัดเจนของรัฐไทยว่ากำลังทำสงครามเพื่อยุติสงครามกับขบวนการ เคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานี ด้วยความรุนแรงโดยใช้การทหาร หรือ ด้วยสันติวิธีที่ต้องสิ้นสุดที่การเจรจา แบบมีคนกลางที่มีความเป็นรัฐโดยใช้การเมือง ทำให้เหลือพื้นที่การต่อสู้สำหรับประชาชนปาตานีที่ต้องการเอกราชเป็นทางเลือกแห่งสันติภาพด้วยการหลั่งเลือดเท่านั้น

นี่คือสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์ความไม่สงบ บนเส้นทางเอกราชอาบเลือดที่ปาตานีหรือชายแดนใต้ของประเทศไทย ณ ปัจจุบัน"


โดย ตูแวดานียา ตูแวแมแง
สถาบันเยาวชนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (YDA)


เริ่มเข้าเดือนแรกของปีที่ 10 ของสถานการณ์สงครามนอกระบบระหว่างขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานีกับรัฐ ไทย ก็พอเห็นแสงแห่งความหวังของสันติภาพบ้างแบบคลุมเครือ โดยผ่านวาทกรรม “เบื่อความรุนแรง” ตามป้ายริมถนนสายหลักทั่วพื้นทีจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการเดินทางหารือเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียในการ คลี่คลายปัญหาความรุนแรงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กับ ดาโต๊ะศรีฮัจญี มูฮำหมัดนายิบ บินต่วนฮัจญีอับดุลรอซัก นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย 

ซึ่งเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าชนวนเหตุการณ์สู้รบระลอกใหม่ครั้งนี้ ถูกจุดด้วยยุทธการปล้นปืนที่ค่าย ร.5 พันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 มกราคม พ.ศ.2547 จากนั้นมากลิ่นอายของบรรยากาศสงครามประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างมีพัฒนาการชัด ขึ้นและชัดขึ้นเรื่อยๆของภาพการมีหุ้นส่วนสำคัญ ในการดำเนินการสงครามจรยุทธ์ที่มาจากบทบาทของประชาชนโดยผ่านทั้งกองกำลังติด อาวุธและแนวทางทางการเมืองทุกรูปแบบ แต่ไม่ได้หมายความว่าก่อนปี พ.ศ.2547 นั้นสถานการณ์อยู่ในภาวะสงบ เพราะชนวนเหตุของสงครามนอกระบบในดินแดนมลายูแห่งนี้ ตามที่หลายชุดข้อมูลทางวิชาการประวัติศาสตร์ปาตานีกับสยามได้อ้างถึง ชัดเจนว่ามาจากอุดมการณ์ปลดแอกจากการยึดครองดินแดนของสยามโดยคนมลายูปาตานี กับอุดมการณ์รักษาดินแดนอันเป็นผลลัพธ์ของการล่าอาณานิคมสำเร็จของสยามหรือ กรุงเทพฯโดยรัฐไทย ซึ่งเริ่มต้นภาวะสงครามด้วยเหตุการณ์แรกที่อาณาจักรปาตานีถูกตีแตกโดย อาณาจักรสยามเมื่อปี ค.ศ.1786

(อ่านต่อ)

มัลลิกา' จี้ดีเอสไอดำเนินคดี 'จักรภพ' ในฐานะผู้เขียนบทความ คดี 'สมยศ' หมิ่นสถาบัน

มัลลิกา' จี้ดีเอสไอดำเนินคดี 'จักรภพ' ในฐานะผู้เขียนบทความ คดี 'สมยศ' หมิ่นสถาบัน

 

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และประธานชมรมนักรบไซเบอร์ เข้าพบ ธาริต เพ็งดิษฐ์ พร้อมหลักฐาน จี้เอาผิด 'จักรภพ เพ็ญแข' อ้างคำให้การคดี 'สมยศ' ระบุเป็น 'จิตร พลจันทร์' ผู้เขียนบทความหมิ่นสถาบัน

20 ก.พ.56 นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และประธานชมรมนักรบไซเบอร์ (Fight Bad Web) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ Mallika Boonmeetrakool ระบุว่า ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนรียกร้องให้ดำเนินการจับกุมตัวนายจักรภพ เพ็ญแข มาลงโทษตามกฎหมาย โดยรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าตนเองรับผิดชอบการสกัดกั้นการกระทำความ ผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเกี่ยวกับเว็บไซต์หรือโซเชีย ลเน็ตเวิร์คที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม กฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ในนามของทีม Fight Bad Web หรือชมรมนักรบไซเบอร์ฝ่ายคุณธรรม โดยให้ความร่วมมือกับทางราชการเสมอมา บัดนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนและการติดตามจากสมาชิกชมรมรวมทั้งประชาชนถึง ความคืบหน้าจากราชการเพื่อดำเนินการตามคำพิพากษาศาล คดีอาญา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ถูกโทษจำคุก 10 ปี หลังถูกจับกุมที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย.54 ขณะพาคณะทัวร์เตรียมผ่านแดนไปกัมพูชา โดยคำพิพากษาศาลสืบเนื่องจากนายสมยศเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งตีพิมพ์บทความของ “จิตร พลจันทร์” หมิ่นเบื้องสูง 2 บทความ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 91, 112 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4

(อ่านต่อ)

กระทิงแดง รีเทิร์น เปิดตัว 'แนวร่วมกอบกู้วิกฤติชาติ' เน้นป้องสถาบัน

กระทิงแดง รีเทิร์น เปิดตัว 'แนวร่วมกอบกู้วิกฤติชาติ' เน้นป้องสถาบัน

 


“การที่ผมเอาเด็กอาชีวะมาอยู่กับผมได้ เพราะว่าผมอ่านเขาออก ชั่วชีวิตผม ผมชนะคนได้ เพราะผมอ่านเขาออก”
คือคำพูดของ พล.ต.สุตสาย หัสดิน อดีตเจ้าพ่อกระทิงแดง องค์กรหนึ่งที่ถูกระบุว่าเป็น “ขวาพิฆาตซ้าย” ในยุค 6 ตุลา 19

 
'บวร ยสินทร' นำหน่วยปฎิบัติการ (พิเศษ) กระทิงแดง เปิดตัว 'แนวร่วมกอบกู้วิกฤติชาติ' ปกป้องสถาบัน ชี้ภาวะวิกฤติชาติเกิดจากการปลุกปั่นยุยงส่งเสริมให้มีการลบหลู่สถาบันและ คุกคามศาล ระบุพวกเผาเมืองต้องถูกลงโทษค้านนิรโทษกรรม

20 ก.พ.56 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า รายงาน ที่ห้องประชุม 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง กทม. นายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน นายทอง ทัศนมณเฑียร ตัวแทนหน่วยปฎิบัติการ(พิเศษ)กระทิงแดง นายอัณคามิลโล เพียรพบ อดีตผู้นักเรียนอาชีวะ 14ตุลา 16 พร้อมกับกลุ่มสมาชิกเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน เปิดตัวแนวร่วมกอบกู้วิกฤติชาติ เพื่อปกป้องสถาบัน

นายบวร อ่านแถลงการณ์แนวร่วมกอบกู้วิกฤติชาติฉบับที่1/2556 ถึงประชาชนชาวไทย ว่า ในเวลานี้บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อันเกิดจากบุคคลบังอาจเอื้อมปลุกปั่นยุยงส่งเสริมให้มีการลบหลู่สถาบัน ทำการคุกคามศาล เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดอาญา ปล่อยคนเผาเมือง ออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิด การที่ผู้มีอำนาจทำตามใจไม่ปกป้องชาติ บริหารบ้านเมืองตามหน้าที่ คำนึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว จนเป็นการข่มเหงรังแกบ้านเมือง ดังนั้นกลุ่มคนรักระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงต้องออกมาต่อต้านให้นักการเมืองบางคนหยุดพฤติกรรมดังกล่าว

(อ่านต่อ
http://prachatai.com/journal/2013/02/45401

19 2 56 ที่นี่ความจริงเกาะติดกรณีบริษัท Electrolux เลิกจ้างคนงานในประเทศไทย

19 2 56 ที่นี่ความจริงเกาะติดกรณีบริษัท Electrolux เลิกจ้างคนงานในประเทศไทย

 



ที่นี่ความจริง 300บาท ใช่เรื่องเดียวกับปัญหาคนงานหรือไม่ 2 part 1
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded& v=WYqETUl2cr

ที่นี่ความจริง 300บาท ใช่เรื่องเดียวกับปัญหาคนงานหรือไม่ 2 part 2
http://www.youtube.com/watch?v=gzM7zcQmP28&feature=player_embedded 

ที่นี่ความจริง 300บาท ใช่เรื่องเดียวกับปัญหาคนงานหรือไม่ 2 part 3
http://www.youtube.com/watch?v=VTFQoLz3lv4&feature=player_embedded 

ที่นี่ความจริง 300บาท ใช่เรื่องเดียวกับปัญหาคนงานหรือไม่ 2 part 4
http://www.youtube.com/watch?v=arlTYewniWc&feature=player_embedded  

กบฎรัฐสยาม หรือ วีรบุรุษนักรบปาตานี?

กบฎรัฐสยาม หรือ วรบุรุษนักรบปาตานี?


ทางออก ของ 3 จังหวัด

ทางออก ของ 3 จังหวัด




ลึก ชัดเจน ตรงประเด็น ตอบโจทย์ ทางออกของ 3 จังหวัดภาคใต้
http://www.youtube.com/watch?v=Ea6ZoqXR_mg&feature=share