ความคืบหน้าของการปฏิวัติอียิปต์
เราเริ่มเห็นการนัดหยุดงานของคนงานจำนวนมากและ
ความพยายามของรัฐบาลที่จะใช้ตำรวจในการปราบปรามคนงาน
แต่กระแสการนัดหยุดงานยังกระจัดกระจายและไม่เข้มแข็งพอ
ฝ่ายซ้ายต้องทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงการต่อสู้ของคนงานกลุ่มต่างๆ
และการนำประเด็นการเมืองเข้ามาในประเด็นปากท้อง
โดย สาเมย์ นากวิบ องค์กรสังคมนิยมปฏิวัติอียิปต์
จุดเริ่มต้นในการวิเคราะห์ความคืบหน้าของการปฏิวัติอียิปต์ คือ
ปัญหาของรัฐบาลพรรคมุสลิมและปัญหาของฝ่ายค้านกระแสหลักเสรีนิยม
จริงๆแล้วทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจธาตุแท้ของการปฏิวัติอียิปต์
พวกนักเขียนเสรีนิยมมักจะชอบพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ประชาธิปไตยใน
สเปนในปี 1974 หรือ “การปฏิวัติหลากสี” ในยุโรปตะวันออก
แต่การปฏิวัติอียิปต์คล้ายกับการปฏิวัติสเปนปี 1930 มากกว่า โดยเฉพาะเวลาเราพิจารณาการมีส่วนร่วมของมวลชน เพราะในอียิปต์ประมาณ 18% ของประชาชนออกมาต่อสู้ซึ่งเทียบกับ 4 % ในการปฏิวัติฝรั่งเศส หรือ 7% ในการปฏิวัติรัสเซีย ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ เราจะเห็นว่า มันเป็นไปได้ยากมากที่กระบวนการปฏิวัติอียิปต์จะถูกจำกัดไว้แค่ในกรอบของการ เปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยนามธรรม โดยไม่มีการกระจายทรัพยากรรายได้และอำนาจอย่างจริงจัง
ปัญหาของรัฐบาลพรรคมุสลิมคือ การประท้วงของมวลชนไม่ได้แค่ต่อต้านรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปกป้องประชาธิปไตย แต่มันสะท้อนความโกรธแค้นของมวลชนที่ผิดหวังกับรัฐบาลเพราะเขาเคยมองว่าการ ปฏิวัตจะนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นรายได้ที่ดีขึ้น
ในขณะนี้พรรคมุสลิมเป็นตัวแทนโดยตรงของชนชั้นนายทุนและรัฐเก่าของอดีตเผด็จ การมูบารัค และทั้งๆที่เขาชอบโจมตีฝ่ายค้านเสรีนิยมว่าจับมือกับคนจากอดีตเผด็จการมูบา รัค รัฐบาลพรรคมุสลิมก็ไปจับมือกับทหารซึ่งเป็นพรรคพวกเก่าของมูบารัคด้วย รัฐธรรมนูญใหม่มีผลในการเพิ่มอำนาจของกองทัพ
เราต้องเข้าใจว่ารัฐอียิปต์ปัจจุบันมีภาระหน้าที่ในการปกป้องชนชั้นนายทุน และกลุ่มอำนาจเก่า ดังนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงแท้จริงรัฐนี้จะอยู่ต่อไม่ได้ ผลประโยชน์ของทหารและผลประโยชน์ของนายทุนใหญ่เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก หลายคนเคยพูดว่าเป้าหมายหนึ่งของการปฏิวัติอียิปต์คือการจัดการกับการ คอร์รัปชั่น แต่ปรากฎว่าไม่มีใครแตะต้องอำนาจและผลประโยชน์ของกองทัพเลย คาดว่ากองทัพอียิปต์กุม 15-20% ของเศรษฐกิจ และมีผลประโยชน์ร่วมกับนายทุนเอกชนมากมาย
แต่การปฏิวัติอียิปต์คล้ายกับการปฏิวัติสเปนปี 1930 มากกว่า โดยเฉพาะเวลาเราพิจารณาการมีส่วนร่วมของมวลชน เพราะในอียิปต์ประมาณ 18% ของประชาชนออกมาต่อสู้ซึ่งเทียบกับ 4 % ในการปฏิวัติฝรั่งเศส หรือ 7% ในการปฏิวัติรัสเซีย ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ เราจะเห็นว่า มันเป็นไปได้ยากมากที่กระบวนการปฏิวัติอียิปต์จะถูกจำกัดไว้แค่ในกรอบของการ เปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยนามธรรม โดยไม่มีการกระจายทรัพยากรรายได้และอำนาจอย่างจริงจัง
ปัญหาของรัฐบาลพรรคมุสลิมคือ การประท้วงของมวลชนไม่ได้แค่ต่อต้านรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปกป้องประชาธิปไตย แต่มันสะท้อนความโกรธแค้นของมวลชนที่ผิดหวังกับรัฐบาลเพราะเขาเคยมองว่าการ ปฏิวัตจะนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นรายได้ที่ดีขึ้น
ในขณะนี้พรรคมุสลิมเป็นตัวแทนโดยตรงของชนชั้นนายทุนและรัฐเก่าของอดีตเผด็จ การมูบารัค และทั้งๆที่เขาชอบโจมตีฝ่ายค้านเสรีนิยมว่าจับมือกับคนจากอดีตเผด็จการมูบา รัค รัฐบาลพรรคมุสลิมก็ไปจับมือกับทหารซึ่งเป็นพรรคพวกเก่าของมูบารัคด้วย รัฐธรรมนูญใหม่มีผลในการเพิ่มอำนาจของกองทัพ
เราต้องเข้าใจว่ารัฐอียิปต์ปัจจุบันมีภาระหน้าที่ในการปกป้องชนชั้นนายทุน และกลุ่มอำนาจเก่า ดังนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงแท้จริงรัฐนี้จะอยู่ต่อไม่ได้ ผลประโยชน์ของทหารและผลประโยชน์ของนายทุนใหญ่เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก หลายคนเคยพูดว่าเป้าหมายหนึ่งของการปฏิวัติอียิปต์คือการจัดการกับการ คอร์รัปชั่น แต่ปรากฎว่าไม่มีใครแตะต้องอำนาจและผลประโยชน์ของกองทัพเลย คาดว่ากองทัพอียิปต์กุม 15-20% ของเศรษฐกิจ และมีผลประโยชน์ร่วมกับนายทุนเอกชนมากมาย