หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

ฝ่ายประชาธิปไตย จะไปทางไหน? // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 กันยายน 55

ฝ่ายประชาธิปไตย จะไปทางไหน? // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 กันยายน 55 

 


(คลิกอ่าน)
Open publication


ในเล่มพบกับ

ศาสนา “ดับทุกข์” ให้กับมนุษย์ไม่ได้ 
โดย วัฒนะวรรณ

มนุษย์บุพกาลกับ “ธรรมชาติมนุษย์”
โดย C.H. 

สงครามคู่ขนาน: ประชาชนหรือนายทุน เสื้อแดงหรือทักษิณ
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

กำเนิดครอบครัวและระบบกรรมสิทธิ์
โดย ฮิปโปน้อย บรมสุขเกษม

เมื่อขบวนการเคลื่อนไหวเลือกจับอาวุธ
แปลโดย นุ่มนวล ยัพราช

ปลาเล็กๆ ในแม่น้ำใหญ่
โดย ลั่นทมขาว

ความจริง เบื้องหลัง การสังหารหมู่ที่ “มาริกาน่า”
แปลโดย ครรชิต พัฒนโภคะ

เหยื่อ วีรชน กับอุดมการณ์
โดย ยังดี โดมพระจันทร์

ประเด็นแรงงานในบริบทการเมืองไทยในปัจจุบัน
โดย พจนา วลัย

ว่าด้วยทุน เล่ม 2 ภาค 2 รอบของการหมุนเวียนของทุน(บทที่7-9)
โดย กองบรรณาธิการ

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/

รัฐประหาร 19 กันยา กับอาชญากรรมโดยรัฐ

รัฐประหาร 19 กันยา กับอาชญากรรมโดยรัฐ





เนื่องจากห้องที่เราขอไปไม่ได้ ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรายการให้เหมาะสมกับสถานที่ใหม่


23 กย นี้ ศปช.และปฏิญญาหน้าศาลจะเดินหน้าจัดต่อไป เพื่อนำเสนอรายงาน ศปช. และแสดงทัศนะต่อรายงานของ คอป. ส่วนรายการของนิติราษฎร์จะเลื่อนไปอีกหนึ่งสัปดาห์ รายละเอียดจะตามมาค่ะ

เรียกร้องให้เอาตัวอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุชผู้ลูกแห่งอเมริกา กับ อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์แห่งอังกฤษ ขึ้นศาลอาชญากรสงคราม

เรียกร้องให้เอาตัวอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุชผู้ลูกแห่งอเมริกา กับ อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์แห่งอังกฤษ ขึ้นศาลอาชญากรสงคราม



Desmond Tutu: pulled out of a seminar which Tony Blair was scheduled to attend. Photograph: Str/REUTERS

อดีตสังฆาธิการ Desmond Tutu ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและสันติวิธีในแอฟริกาใต้จนได้รางวัลโนเบล เรียกร้องให้เอาตัวอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุชผู้ลูกแห่งอเมริกา กับ อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์แห่งอังกฤษ ขึ้นศาลอาชญากรสงคราม เพราะโกหกหลอกลวงเรื่องอาวุธมหาวินาศในอิรักจนนำไปสู่สงครามรุกรานอิรัก ที่มีคนล้มตายบาดเจ็บพิการเสียหายมากมายมหาศาล

Why I had no choice but to spurn Tony Blair | Desmond Tut

(ที่มา)
http://apps.facebook.com/theguardian/commentisfree/2012/sep/02/desmond-tutu-tony-blair-iraq

หากฉีกรายงานข้อเท็จจริง คอป. ช้าไป เราอาจเหมือนไอร์แลนด์เหนือเมื่อ 38 ปีที่แล้ว

หากฉีกรายงานข้อเท็จจริง คอป. ช้าไป เราอาจเหมือนไอร์แลนด์เหนือเมื่อ 38 ปีที่แล้ว




ในภาพเป็นกิจกรรมการฉีกรายงานของ Lord Widgery หัวหน้าคณะกรรมการอิสระค้นหาความจริงเกี่ยวกับ เหตุการณ์ Bloody Sunday ในวันที่ 30 มกราคม 1972 ที่ไอร์แลนด์เหนือ เมื่อทหารอังกฤษใช้อาวุธสงครามสลายการชุมนุมของผู้ชุมนุม ที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก 

หลังจากนั้นรัฐบาลอีงกฤษได้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาความจริงขึ้นมา และกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมติดอาวุธ ทำให้เกิดความชอบธรรมแก่ทหารในการใช้อาวุธสงครามปราบปรามผู้ชุมนุม 

ด้วยรายงานนี้เอง เป็นต้นเหตุในการทำให้เกิดความขัดแย้งที่ไอร์แลนด์เหนือตลอดมาเป็นเวลา 38 ปี จนกระทั่ง ได้มีคณะกรรมการอิสระขึ้นมาชุดใหม่ โดยหัวหน้าคณะคือ Lord Saville และได้พิสูจน์ว่า ผู้ชุมนุมไม่มีการติดอาวุธ และไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายอย่างที่รายงานของ Lord Widgery ได้กล่าวหาไว้ 

ความจริงเกี่ยวกับ Bloody Sunday จึงปรากฎขึ้นในปี 2010 ที่ผ่านมานี้เอง และทำให้ความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือยุติลง 

รายงานของ คอป. ก็เช่นกัน เปรียบได้กับ ใบอนุญาตฆ่า (License to kill) ที่ทำการฟอกขาวให้กับฝ่ายปราบปราม ซึ่งก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในประวัติศาสตร์ หากเราให้ความชอบธรรมกับใบอนุญาตฆ่าคนมือเปล่านี้

เราไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นแบบไอร์แลนด์เหนือ และเราไม่จำเป็นต้องรอถึง 30-40 ปี เพื่อเรียนรู็บทเรียนอันเจ็บปวดและสูญเสียพี่น้องในประเทศไปมากกว่านี้

สุดท้าย หากเราฉีกรายงานที่ไร้มนุษยธรรมช้าเกินไป ประเทศเราก็จะอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง ไม่ต่างจากกรณี Bloody Sunday ที่โด่งดังไปทั่วโลก

"ฉีกความลวงกันเถอะ ก่อนที่มันจะสายเกินไป"

(ที่มา)

เรียนเชิญทุกท่านเพื่อจะร่วมกันแชร์ภาพจากลิ้งค์ตัวนี้ให้ทั่วท้องฟ้าของเฟซบุ๊ก

เรียนเชิญทุกท่านเพื่อจะร่วมกันแชร์ภาพจากลิ้งค์ตัวนี้ให้ทั่วท้องฟ้าของเฟซบุ๊ก


 


คำพูดของอาจารย์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
http://www.youtube.com/watch?v=k48gueRlkwg&feature=plcp

ยัดข้อหาให้ นายเฉลียว ปทุมรส จำเลยคนที่ 1 นายชิต สิงหเสนี จำเลยที่ 2 และ นายบุศย์ ปัทมศริน จำเลยที่ 3 ถูกตัดสินประหารชีวิต 
http://www.pridiinstitute.com/autopage/show_page.php?h=12&s_id=5&d_id=8&page=5&start=1

The King Never Smiles
https://www.facebook.com/groups/108967782588184/114427498708879/   

วิถี แห่ง กรรม กรณี ของ พัน คำกอง กรรมใดใครก่อ !!!

วิถี แห่ง กรรม กรณี ของ พัน คำกอง กรรมใดใครก่อ !!!

 


แม้ นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจะตั้งข้อสังเกตว่า มีเพียงคดี ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงภาพยนตร์โอเอเท่านั้น

ที่อาจจะดำเนินไปคล้ายกับคดี นายพัน คำกอง

แต่หากประเมินจากแถลงของ นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ชวนให้ระทึกใจอย่างยิ่ง

เพราะมิได้มีเพียง 2 คดีหากแต่มีถึง 36 คดี

เป็น 36 คดีอันคณะพนักงานสอบสวนอันประกอบส่วนจาก เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานอัยการ มีความเห็นร่วมกันให้ดำเนินการไต่สวน

ไต่สวนเหมือนคดี นายพัน คำกอง

ไต่สวนเหมือนคดี ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ

นายพัน คำกอง นั้นเด่นชัดยิ่งว่ามิได้เสียชีวิตเพราะชายชุดดำ หากแต่เสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐ

กรณี ของ นายพัน คำกอง จึงเสมอเป็นเพียงบาทก้าวที่ 1 ในจำนวน 36 บาทก้าวอันจะนำไปสู่การฟ้องร้องกระบวนการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน (ศอฉ.)

แก้ไขกระทั่งมีคนสังเวยชีวิต



ในเมื่อทั้ง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเคยเป็นนายตำรวจประจำกองปราบปราม สรุปตรงกัน

ตรงกันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ถือว่าเป็น "จำเลย"

เพราะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 70 ยกเอาไว้เป็นเงื่อนไขพิเศษ

เงื่อนไขนี้มิได้มีแต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ

หากแม้กระทั่ง ผู้บังคับหน่วย ผู้บัญชา การกองพล แม่ทัพภาค หรือผู้บัญชาการทหารบก ก็ถือว่าเป็นคนต้องทำตามคำสั่ง

คำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

แน่ นอน คนที่ลงนามแต่งตั้ง ศอฉ.คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันในคำสั่งแต่งตั้งนี้ก็แต่งตั้งให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ

2 คนนี้ต่างหากคือผู้บังคับบัญชาสูงสุด ตามกฎหมาย

ที่ ทั้ง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และทั้ง ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง เอ่ยถึงนามของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนามของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงมิได้เป็นการตั้งธงหรือชี้นำ

หากพูดตามข้อกฎหมาย

ความจริงแล้ว คำสั่งศาลอาญาในกรณีของนายพัน คำกอง เป็นเพียงกระดุมเม็ดที่ 1 ยังมีกระดุมที่จะต้องกลัดเหลืออีกจำนวนมาก

เฉพาะที่เป็นคดีก็ 36 คดี เฉพาะที่เป็นศพก็ 98 ศพ
 
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1348301115&grpid=01&catid=&subcatid=

ตัดเกรด′คอป.′ ชู′ชุดดำ′โดดเด่น กรณีสังหาร98ศพ

ตัดเกรด′คอป.′ ชู′ชุดดำ′โดดเด่น กรณีสังหาร98ศพ

 

 
เรียบร้อย ร.ร.สลายม็อบวิทยา

การแถลงรายงานฉบับ สมบูรณ์ ของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

เป็นวันเดียวกับที่ศาลอาญามีคำสั่งในคดีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง แท็กซีเสื้อแดง

แต่ผลของทั้งสองเรื่องแตกต่างกันอย่างชัดเจน

กรณีนายพัน คำกอง การที่ศาลอาญาระบุว่าเป็นการเสียชีวิต จากกระสุนทหารที่ระดมยิงรถตู้ที่แล่นผ่านเขตควบคุม

ทำให้ "ผู้สั่งการ" ใน "ศอฉ." เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ 

 
เพราะเริ่มได้กลิ่นของข้อหา "ฆ่า"



จะอย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวจะดำเนินไปภายใต้กระบวนการยุติธรรมไทย

เป็นกระบวนการยุติธรรมปกติ ไม่มี "กรรมการพิเศษ" เข้ามาเสริม

ทุกฝ่ายมีสิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

ผิด-ถูก เป็นเรื่องของพยานหลักฐาน และข้อกฎหมาย

สุดท้ายคือคำพิพากษาของศาลยุติธรรม

สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป. "ไฮไลต์" คือการรายงานถึง "ชายชุดดำ" อย่างพิสดาร และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

ขณะที่กล่าวถึงการเสียชีวิตของประชาชนน้อยผิดปกติ

ทำให้บางกลุ่มที่เคยยืนยันถึงชายชุดดำ "ตีปีก" ด้วยความยินดี

ไม่ แปลกที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรายงานนี้ว่า อยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง เพราะเห็นถึงความตั้งใจของ คอป.ในการทำงาน

พร้อมกับเสนอให้พนักงานสอบสวนนำข้อค้นพบต่างๆ ของ คอป.ไปใช้ดำเนินคดี

"จะละเลยไม่ได้ ถ้าละเลยก็เหมือนกับจงใจละเว้น" นั่นคือคำสำทับจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1348030620&grpid=&catid=12&subcatid=1200

จุดจบของสถาบันฯเมื่อสนับสนุนการทำรัฐประหาร...

จุดจบของสถาบันฯเมื่อสนับสนุนการทำรัฐประหาร...


Posted Image

เอกสารทหารรั่ว! ศอฉ.ใช้กระสุนจริงเกือบ 2 แสนนัดฆ่าเสื้อแดงกลางเมือง

เอกสารทหารรั่ว! ศอฉ.ใช้กระสุนจริงเกือบ 2 แสนนัดฆ่าเสื้อแดงกลางเมือง 

 

เอกสารลับล่าสุด แฉ ศอฉ. ใช้ "กระสุนจริงกว่า 2 แสนนัด" ยิงเสื้อแดงกลางเมือง โดยนักข่าวสายทหาร วาสนา นาน่วม เจ้าของผลงาน "ลับลวงเลือด" ชี้จำนวนกระสุนที่ ศอฉ. ใช้ปราบเสื้อแดง คลาดเคลื่อนจากที่เคยสำรวจเมื่อปีก่อน ซึ่งนับได้แค่แสนนัดเศษ

ไอดีทวิตเตอร์ของวาสนา นาน่วม @Wassana Nanuam: ได้ระบุข้อความ ไว้ในทวิตเตอร์ส่วนตัวดังนี้
 
(ที่มา)
http://www.go6tv.com/2012/09/2_21.html