หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Merry Christmas and happy New Year 2014. Glædelig jul og godt nytår.

Merry Christmas and happy New Year 2014. 
Glædelig jul og godt nytår.
 

 
 John Lennon - Happy Christmas (War is Over)
http://www.youtube.com/watch?v=KYhaZ2pV0CQ 

Jingle Bells Forever - CYO Celebration Symphony and Sinfonia  

ขอเชิญร่วมเวทีสัมมนาวิชาการสหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1

ขอเชิญร่วมเวทีสัมมนาวิชาการสหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1


 

ขอเชิญร่วมเวทีสัมมนาวิชาการสหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1

หัวข้ออภิปราย “รัฐบาลพระราชทาน สภาประชาชน อุปสรรคการพัฒนา
ประชาธิปไตย : ประชาชนไทยต้องการเลือกตั้ง
!!!”


26 ธันวาคม 2556 เวลา 13.00 - 17 .00 น.
ณ อาคารขวัญมอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น


ผนึกพลังประสานการจัดงานโดย
สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย - สปป.
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย - สปป.

 
โดย
รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ (คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
อ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ผศ.ดร.สมชัย ภัทรธนานันท์(คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)
รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง(คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น)
 
 

กิจกรรมปฏิญญาหน้าศาล

กิจกรรมปฏิญญาหน้าศาล




กิจกรรมปฏิญญาหน้าศาล

25 ธ.ค.56 ส่งกำลังใจแด่ดา ตอปิโด และให้กำลังใจเพื่อนนักสู้ 112 ณ ทัณฑสถานหญิง เวลา 09:00 น.


พร้อมทั้งมอบของขวัญปีใหม่ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เวลา 11:00 น.


27 ธ.ค. 56 กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ร่วมกับ มูลนิธิฟ้าสีทอง และแดงมีนบุรี ขอเชิญพี่น้องผู้รักความยุติธรรม ร่วมงาน”รำลึก 1 ปี การจากไปของนักโทษการเมือง วีรชนวันชัย รักสงวนศิลป์” ตั้งแต่เวลา 10:00-15:00 น. ณ เรือนจำชั่วคราวหลักสี่


ในช่วงเช้าทำบุญเลี้ยงเพลพระ และ บ่ายเป็นการปราศรัยให้กำลังใจ เพื่อนนักสู้ในเรือนจำ โดย อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ , ญาติวีรชนเมษา-พฤษภา 53 , ไม้หนึ่ง ก.กุนที , อ.หวาน สลับกับดนตรี พบกับ หมอลำศิรินันท์ จันทรา , สมจิต เพชรส่องแสง , เปิ้ล วารี , พี่เป้า หัวใจแดง (เป้า ส.ย.ส.ญ) สอบถามได้ที่ สวย หน้าศาล โทร 080-094-8628
อย่าลืม! ศุกร์นี้ มาพบกัน ที่เรือนจำหลักสี่

พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรครูปแบบเก่าที่ใช้ระบบอุปถัมภ์

พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรครูปแบบเก่าที่ใช้ระบบอุปถัมภ์ 

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


เป็น เรื่องตลกร้ายที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทย ว่าบิดเบือนประชาธิปไตยและซื้อเสียงเพื่อครองเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา เพราะถ้าดูตัวเลขการลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาพรรคนี้ไม่เคยได้มากกว่า 1/3 ของคะแนนทั้งหมดทั่วประเทศ และสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าการตั้งพรรคไทยรักไทย 


แน่นอนไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าในระบบการเลือกตั้งของไทยไม่มีการแจกเงิน โดยทุกพรรค แต่ผลการวิจัยภาคสนามของอาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ และของอาจารย์ แอนดรู วอล์คา จากออสเตรเลีย ทำให้เราเข้าใจว่าในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นหลังการสร้างพรรคไทยรักไทย ประชาชนส่วนใหญ่เลือกพรรคผ่านการพิจารณานโยบาย มากกว่าที่จะเลือกตามความเชื่อว่าต้อง “ระลึกถึงบุญคุณ” ของผู้แจกเงิน


ในระบบการเมืองแบบเก่า ก่อนไทยรักไทย มักจะมี “ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น” ซึ่งครองเสียงในจังหวัดหนึ่ง และชนะการเลือกตั้งเสมอ ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นเหล่านี้ อาศัยระบบ “อุปถัมภ์ทางการเมือง” เพื่อให้ประโยชน์กับประชาชนผู้ที่สนับสนุนเขา ซึ่งการเลือกนักการเมืองในรูปแบบนี้อาจกล่าวหลวมๆ ได้ว่าเป็นการเลือกผ่านการพิจารณานโยบายและผลประโยชน์เฉพาะหน้าก็ได้ แต่มันผสมกับการ ระลึกถึงบุญคุณ ของผู้มีอิทธิพลด้วย


ตัวอย่างของ “ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น” ได้แก่ บรรหาร ศิลปอาชา, เสนาะ เทียนทอง, เฉลิม อยู่บำรุง และสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นต้น แต่มีอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยถึง


ลักษณะสำคัญของการเมืองแบบ “ระบบอุปถัมภ์” ที่ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นใช้เสมอ คือการดึงงบประมาณมาให้ประโยชน์กับพรรคพวกของตนเอง เพื่อสร้างฐานสนับสนุน แต่ประเด็นสำคัญสองประเด็นเป็นเรื่องที่เราควรพิจารณาคือ ในประการแรก ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นไม่สามารถสร้างฐานเสียงทั่วประเทศได้ เพราะการอุปถัมภ์พรรคพวกทั่วประเทศเป็นไปไม่ได้ หลายคนเข้าใจผิดว่าการที่พรรคการเมืองเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับคนส่วน ใหญ่ทั่วประเทศ เป็น “การอุปถัมภ์” แต่มันไม่ใช่ มันเป็นการเสนอนโยบายระดับชาติในระบบประชาธิปไตยสมัยใหม่ต่างหาก ซึ่งพบในตะวันตก นโยบายระดับชาติเป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วประเทศได้ ไม่ว่าจะเลือกพรรครัฐบาลหรือไม่ มันต่างจากการอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ เช่นการให้ตำแหน่งงาน หรือการให้สัมปทานกับเพื่อนๆ หรือลูกน้อง เป็นต้น


ในประการที่สอง ระบบการเมืองแบบอุปถัมภ์ เป็นระบบที่ไม่มีการเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด และมักขาดลัทธิทางการเมืองประกอบด้วย


ในกรณีพรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทย อิทธิพลของการเมืองอุปถัมภ์ถูกลดความสำคัญลงเป็นอย่างมาก เพราะมีการเสนอนโยบายระดับชาติที่เป็นรูปธรรม เช่น การประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการสร้างงานในชนบท และนโยบายดังกล่าวมีฐานทฤษฏีรองรับอีกด้วย คือความคิดเรื่องเศรษฐกิจคู่ขนาน หรือการใช้กลไกตลาดเสรีในระดับสากล บวกกับการใช้งบประมาณรัฐในระดับรากหญ้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ


แต่ในกรณีพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ คะแนนเสียงของพรรคมาจากระบบอุปถัมภ์ของผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ อิทธิพลของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยที่ตระกูลเทือกสุบรรณพยายามคุมอำนาจในท้องถิ่นมานาน และคนในครอบครัวเป็น สส. หลายคนด้วย ในขณะเดียวกัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่สามารถและไม่เคยเสนอนโยบายที่ครองใจประชาชนนอกพื้นที่ได้เลย เขาเป็นตัวอย่างของนักการเมืองแบบเก่า หรือนักการเมือง “ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น” ที่ชัดเจนมาก และพรรคประชาธิปัตย์ระดับชาติ ก็ได้แต่วิจารณ์นโยบายต่างๆ ของไทยรักไทย หรือเพื่อไทย เพื่อแช่แข็งประเทศเท่านั้น


ความเหนือชั้นของไทยรักไทย หรือเพื่อไทย ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่เขาทำมันดีเลิศ ในเรื่องสิทธิมนุษยชน ไทยรักไทย สอบตกในภาคใต้และสงครามยาเสพติด และในเรื่อง 112 และการนิรโทษกรรมฆาตกร รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็สอบตกเช่นกัน


พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสมือนนกสองหัว เพราะในภาคใต้อาศัยระบบการเมืองอุปถัมภ์ล้วนๆ แต่ในกรุงเทพฯ ได้คะแนนเสียงจากคนชั้นกลางอนุรักษ์นิยม โดยที่คนชั้นกลางเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในระบบอุปถัมภ์ของพรรค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งๆ ที่จบนอกมาและพูดภาษาอังกฤษเก่ง แต่เขาก็เป็นนักการเมืองหัวเก่าที่พึ่งพิงทหารเผด็จการและชนชั้นปกครองเก่า เท่านั้น และที่สำคัญคือเขาคัดค้านนโยบายที่พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อปกป้องผลประโยชน์คนรวย


การที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแบบเก่า ที่อาศัยระบบอุปถัมภ์ในภาคใต้ และฐานเสียงของชนชั้นกลางบางส่วนในกรุงเทพฯ เป็นสาเหตุที่พรรคนี้ไม่สามารถครองใจคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้ นี่คือสาเหตุที่เขาเกลียดชังระบบ “หนึ่งคน หนึ่งเสียง”

(ที่มา)

โลกเริ่มเข้าใจ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป

โลกเริ่มเข้าใจ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป


 

 

โลกเข้าใจ : ฝ่ายเผด็จการคลั่งชาติ กำลังพยายามเข้ายึดอำนาจรัฐในเมืองไทย
http://jpenkair.blogspot.dk/2013/12/blog-post_23.html 

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand  


 


Wake Up Thailand ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 2
เมื่อไร สุเทพ จะเปลี่ยนนามสกุล
http://www.dailymotion.com/video/x18s9du_เม-อไร-ส-เทพ-จะเปล-ยนนามสก-ล 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 1
กกต. มะเขือเผา 
http://www.dailymotion.com/video/x18s7qj_กกต-มะเข-อเผา 
  
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 2
2556 อันธพาลครองเมือง
http://www.dailymotion.com/video/x18qqxc_2556-อ-นธพาลครองเม 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 1
รวมพลคนแพ้เลือกตั้งปิดปากประชาชน
http://www.youtube.com/watch?v=N6Lh_nhj_wU&feature=youtube 

Divas Cafe

Divas Cafe




Divas Cafe ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2556
'เมล็ดพันธุ์ฟาสซิสต์'
http://www.dailymotion.com/video/x18scq3_เมล-ดพ-นธ-ฟาสซ-สต 

Divas Cafe ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2556
สิทธิคนไทยอย่าให้ใครมาปล้น
http://www.dailymotion.com/video/x18qtvf_ส-ทธ-คนไทยอย-าให-ใครมาปล 

ชาวสวีเดนชุมนุมต้านการเหยียดเชื้อชาติ หลังโดนกลุ่มนีโอนาซีโจมตี

ชาวสวีเดนชุมนุมต้านการเหยียดเชื้อชาติ หลังโดนกลุ่มนีโอนาซีโจมตี




 
Thousands rally against racism in Sweden, Aljazeera, 23-12-2013
http://www.aljazeera.com/news/europe/2013/12/thousands-rally-against-racism-sweden-20131222125034697362.html



ผู้ชุมนุมราว 16,000 คน เดินขบวนไปชุมนุมกันใจกลางกรุงสตอกโฮล์มท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่าง แน่นหนาของตำรวจ เนื่องจากการชุมนุมต้านการเหยียดผิวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถูกกลุ่มนีโอนาซีบุก เข้าโจมตีจนมีผู้บาดเจ็บหลายราย

23 ธ.ค. 2556 ชาวสวีเดนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ใจกลางกรุงสตอกโฮล์มเพื่อประท้วงต่อต้านแนว คิดเหยียดเชื้อชาติและแนวคิดแบบนาซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ ในย่านเดียวกันแต่ก็ถูกบุกจู่โจมโดยกลุ่มนีโอนาซี

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมชาวสวีเดนได้เดินขบวนไปยังสนามกีฬาในเขตคาร์ทอร์ปทางตอนใต้ของ เมืองหลวง โดยมีการปราศรัยและการแสดงดนตรีในการชุมนุม ผู้จัดการชุมนุมบอกว่ามีผู้เข้าร่วมเดินขบวนราว 16,000 คน โดยโฆษกตำรวจของสวีเดนเปิดเผยว่ามีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ราว 100 คน รวมถึงมีเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินอยู่รอบบริเวณ

จีทท์ กุตแลนด์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งสภายุโรปจากพรรคโซเชียลเดโมแครตกล่าวว่า แม้ผู้คนกำลังกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของกลุ่มขวาจัดในยุโรป แต่การชุมนุมในสวีเดนครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่ม ขวาจัดเป็นจำนวนมาก

โฉมหน้า!! แมลงสาปในคราบ กกต.

โฉมหน้า!! แมลงสาปในคราบ กกต.


 
 
ชาติที่แล้วก่อนเป็น กกต. คุณเป็นใคร? ลองอ่านทัศนะของกกต.ทั่นนี้ฉบับเต็มจากไทยรัฐ โดยเฉพาะความเห็นต่อเรื่องเงินร้อยสองร้อยบาทแล้วกันครับ
http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/180129

 
โดย  อ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์

ฝากไปถึงคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.หน้าใหม่

วันนี้คุณมาเป็น กกต.แล้ว คุณได้ตำแหน่งนี้เพราะเหตุใดก็แล้ว แต่ คนไทยวันนี้ไม่โง่แล้ว และเขาจำได้ว่า ใครเป็นใคร ทำอะไรมาก่อน และกำลังทำอะไร เพื่อใคร? คุณเป็นคนรุ่น 6 ตุลา19 เหมือนผม เผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายอันเป็นผลของเผด็จการมาเหมือนกัน จึงน่าจะได้รับบทเรียนอะไรมาบ้า

คุณร่วมบอยคอตการเลือกตั้ง 2 เม.ย.49 เพื่อขับไล่รัฐบาลไทยรักไทย คุณไม่ได้คัดค้านรัฐประหาร 19 กันยายน 49 และยังแสดงท่าทีเห็นด้วยเป็นนัย ๆ คุณอาศัยชื่อ "องค์กรกลาง" และ "พีเน็ต" เคลื่อนไหวมายาวนาน สร้างชื่อในสื่อ ผู้คนจำได้ว่า การเคลื่อนไหวของคุณนั้นสอดประสานกับขบวนการที่ขับไล่รัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลพลังประชาชนและรัฐบาลเพื่อไทยมาโดยตลอด

ตอนที่คดี ม. 112 กำลังแพร่ระบาด คุณก็ออกมาร่วมเรียกร้องให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับคนที่คุณเชื่อว่า "ผู้ที่ละเมิดสถาบันกษัตริย์" ซึ่งในความเห็นของผมก็คือ ผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองแล้วถูกใส่ร้ายด้วยข้อหาร้ายแรงต่างหาก

มาวันนี้ คุณมานั่งในตำแหน่ง กกต.อันทรงเกียรติ นับแต่วันแรก ๆ คุณก็แสดงบทบาทที่ไม่เป็นกลางอย่างโจ่งแจ้ง สอดประสานกับกลุ่ม กปปส. ที่มุ่งจะล้มการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ด้วยวิธีการรุนแรง ละเมิดสิทธิ์ ผิดกฎหมาย

คุณแสดงทัศนะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกปปส.ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง บอกว่า "เป็นสิทธิ์ตามรธน." แต่กลับไม่เห็นว่า การขัดขวางของ กปปส.ก็ละเมิดสิทธิ์ตามรธน.ของผู้คนนับพันคนที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง และก็ละเมิดสิทธิ์ตามรธน. ของคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 สำหรับคุณ สิทธิ์ของ กปปส.สำคัญกว่าสิทธิ์ของประชาชนส่วนใหญ่อย่างนั้นหรือ??

ตั้งแต่วันแรก คุณก็ตั้งธงเด่นชัดมาแต่ไกล เอาแต่เสนอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งท่าเดียวด้วยอ้างเหตุสารพัด การดำเนินงานของกกต.เต็มไปด้วยความล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้ผู้คนสงสัยไปทั่วว่า คุณและกกต.ไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมายของตน แต่กำลังจงใจบ่อนทำลายการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 หรืออย่างไร? บางคนถึงกับเสนอว่า คุณสมชัยน่าจะลาออกไปเคลื่อนไหวร่วมกับ กปปส.ต่อต้านการเลือกตั้งอย่างเปิดเผยเลยดีกว่ามั้ง?

คุณสมชัย ผมย้ำอีกทีว่า คุณมาเป็น กกต.ได้ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ประชาชนจะจำคุณได้ตลอดไปว่า คุณสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างเป็นธรรมและมีส่วนในการแก้ไขวิกฤตในครั้งนี้ หรือคุณมีส่วนสำคัญในการทำลายการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 แล้วนำไปสู่สงครามกลางเมืองและการนองเลือดครั้งใหญ่!!! ความรับผิดชอบและผลกรรมที่ตามมา ขึ้นอยู่กับคุณเอง!!! 

(ที่มา)FBพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์     

กระชากหน้ากาก กกต!!

กระชากหน้ากาก กกต!!


 



โฉมหน้า!! แมลงสาปในคราบกกต.

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร
กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง
 


อดีตเลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (PNET)
วีรกรรมทำเพื่อประชาธิปัตย์ 

ประกาศตัวชัดเจตว่าจะเป็นปรปักษ์ทักษิณทุกชาติไป

ช่วงเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 49เชิญทักษิณดีเบต
ทักษิณไม่มา “เอาหุ่นมาวางแทน”


ช่วงเลือกตั้งผู้ว่า 56 เชิญพงศพัศดีเบต
พงศพัศไม่มา“เอาเฟอร์บี้ มาวางแทน”


ก่อนได้รับเลือกเป็น กกต จัดรายการอยู่ที่ช่อง บลูสกาย

ประเทศไทยไม่มีคนที่เป็นกลางกว่านี้แล้วหรือ ?

คนที่เลือกข้างประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ต้น ได้เป็น กกต ?

คนที่ดิสเครดิตทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามทำเพื่อพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอดได้เป็น กกต.?

วันนี้เค้าได้ให้สัมภาษณ์ช่อง บลูสกายว่า.. 

"การปิดล้อมไม่ให้ผู้สมัครลงเลือกตั้งของ ม็อบ กปปส
เป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตย! "

เพื่อนๆคิดว่าคนแบบนี้สมควรได้เป็น กกต ไหมค่ะ ?

อย่าลืม. . . . .กดไลค์แล้วแชร์ต่อ

บอกให้คนทั้งประเทศรู้ว่าเรามี  แมลงสาปในคราบกกต 

ที่กำลัง ช่วยอมาตย์ ทำลายระบอบประชาธิปไตย !! 

(ที่มา)FBอาณาจักร ไบกอน

ปฏิรูปการเมือง???

ปฏิรูปการเมือง???


 
โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์


ปฏิรูปการเมือง หรือบางครั้งก็เลยไปถึงปฏิรูปประเทศ กำลังกลายเป็นประเด็นสำหรับการ "เลือกข้าง" ทางการเมือง เพราะทุกฝ่ายทุกสีเห็นพ้องกันมานานแล้วว่า ต้องปรับเปลี่ยนกลไกและกติกาทางการเมืองของประเทศ ไม่เฉพาะแต่ที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญเท่านั้น (เช่น ข้อเสนอ 70:30 หรือวุฒิสมาชิกทั้งหมดต้องมาจากการเลือกตั้ง) แต่รวมความเป็นจริงในทางปฏิบัติด้วย เช่น อำนาจของกองทัพ, การตรวจสอบตุลาการจากภายนอก, การศึกษา และสวัสดิการของรัฐอื่นๆ แม้ว่าบางฝ่ายไม่ได้ใช้คำว่า "ปฏิรูป" เลยก็ตาม

คุณสุเทพจึงไม่ใช่คนแรกที่เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง เสียงเรียกร้องนี้ดังมานานจนกระทั่งคุณสุเทพมองเห็นว่า มีเสน่ห์ที่จะหาการสนับสนุนทางการเมืองได้ง่ายต่างหาก

จริงที่ว่า ปฏิรูปการเมืองกับปฏิรูปประเทศเป็นสองอย่างที่แยกออกจากกันไม่ได้ เพราะในความจริง "การเมือง" ที่หมายถึงรูปแบบภายนอกของการจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างสถาบันการเมืองต่างๆ มิได้ลอยอยู่ในสุญญากาศ แต่เกิดขึ้นจากความเป็นจริงที่อยู่เบื้องล่าง ของอำนาจจริง และความสัมพันธ์เชิงอำนาจจริงที่มีอยู่ในสังคม

อำนาจนี้มาจากไหน คำตอบก็คือมาจากเศรษฐกิจ, สังคม และวัฒนธรรมที่สลับซับซ้อนของสังคมนั้นเอง ซึ่งอย่างไรเสียก็ต้องเกิดระบบความสัมพันธ์เชิงอำนาจขึ้นในเงื่อนไขนั้นๆ หรือเรียกว่า "การเมือง" ในความหมายที่เป็นจริงกว่าความสัมพันธ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น "เจ้าพ่อ" ย่อมสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่นในหลายลักษณะที่ไม่มีกฎหมายใดกำหนดไว้ แต่อำนาจของ "เจ้าพ่อ" นั้นมีจริง และทำงานได้จริงจนกระทบต่อ "การเมือง" ที่เป็นทางการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เราไม่อาจจัดการกับ "การเมือง" ที่เป็นทางการ โดยไม่จัดการอะไรเลยกับ "การเมือง" ที่เป็นจริงในชีวิตของผู้คนได้

 
ภาษาทางวิชาการเรียก "การเมือง" ที่เป็นทางการว่าโครงสร้างส่วนบน (superstructure) ตั้งอยู่ได้ก็เพราะมีโครงสร้างส่วนล่างที่เป็นจริงด้านต่างๆ คอยหนุนอยู่ เมื่อส่วนที่เป็นจริงเบื้องล่างเปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้การเมืองที่เป็นโครงสร้างส่วนบนเปลี่ยนไปด้วย ความขัดแย้งอย่างรุนแรงในการเมืองระดับโครงสร้างส่วนบน สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างส่วนล่างที่ยังไม่ลงตัว

ดังนั้น ปฏิรูปการเมืองที่จะมีผลจริง คือการปฏิรูปความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสถาบัน, องค์กร, บรรษัท, การประกอบการ, กลุ่มทางสังคม ฯลฯ ที่เป็นจริงในชีวิตของผู้คน หรือที่อยู่เบื้องล่างนั่นเอง อย่าว่าแต่ 60 วันที่รอการเลือกตั้งเลย 15 เดือน ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะมันต้องใช้เวลา แต่เพราะกระบวนการปฏิรูปในสังคมไทยปัจจุบัน ไม่อาจทำได้ด้วยคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียวอย่างในสมัย ร.5 หรือคณะราษฎรได้อีกแล้ว การปฏิรูปที่จะเกิดผลได้จริงต้องทำโดยกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น กระบวนการประชาธิปไตยจะดีและเหมาะกับสังคมไทยหรือไม่ก็ตาม แต่เป็นกระบวนการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในสังคมไทยไปแล้ว

ความคิดเรื่อง ปฏิรูปการเมืองมีมาตั้งแต่ก่อน2540จนเป็นผลให้ตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ แม้ ส.ส.ร.ชุดนั้นเข้าใจอยู่เหมือนกันว่า การปฏิรูปเฉพาะโครงสร้างส่วนบนจะไม่บังเกิดผลได้จริง แต่ก็วางเงื่อนไขให้เกิดการปฏิรูปในโครงสร้างส่วนล่าง ไม่ชัดและไม่หนักแน่นพอที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้มากนัก รัฐธรรมนูญ 2550 ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะมุ่งจะหาทางให้การเมืองในโครงสร้างส่วนบนเป็นไปในทิศทางที่เป็น ประโยชน์ต่อกลุ่มที่ร่วมกันทำรัฐประหารเท่านั้นตัวรัฐธรรมนูญนั้นเองกลับ กลายเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งจนทุกอย่างชะงักงันสืบมาจนทุกวันนี้ แม้แต่ผู้มีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญนั้นเอง ก็ยังต้องการให้งดใช้บางมาตรา หรือละเมิดไปเลย โดยวิธีอ่านกฎหมายแบบ "ดำน้ำลึก"

สำนึกว่าประเทศต้องการปฏิรูป (ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม) เป็นที่ยอมรับทั่วไปในสังคม ปัญหาที่ขัดแย้งกันก็คือ กระบวนการที่จะปฏิรูปควรเป็นอย่างไร ฝ่ายหนึ่งเห็นว่า หากไม่ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ผลของการเลือกตั้งก็จะเหมือนเก่า (เท่ากับยืนยันสิ่งที่ผมกล่าวในตอนต้นแล้วว่า โครงสร้างส่วนล่างต่างหากที่กำหนดโครงสร้างส่วนบน) ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ควรเลือกตั้งเสียก่อน แล้วจึงมาผลักดันการปฏิรูป

 
ผมจะไม่พูดถึงกลุ่มหลัง แต่อยากพูดถึงกลุ่มแรก โดยไม่สนใจจะกล่าวถึง กปปส. ซึ่งผลักดันให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งด้วยเหตุผลทางการเมืองอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะถืออำนาจอะไรแต่งตั้งสภาประชาชน หรือแม้แต่ฝ่ายบริหารเองเสร็จสรรพเรียบร้อยได้อย่างนั้น

กลุ่มที่ผมสนใจจะพูดถึงคือสองกลุ่มที่ออกมาหนุนให้ปฏิรูปแต่ก็ไม่กล้าแสดงให้ชัดว่าหนุนถึงขนาดต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่