วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556
Wake Up Thailand
Wake Up Thailand
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 14 มกราคม 2556 ตอนที่ 2
อัสสัมชัญนั้น เด่นมาช้านาน
http://www.dailymotion.com/video/xwqivu
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 14 มกราคม 2556 ตอนที่ 1
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 14 มกราคม 2556 ตอนที่ 2
อัสสัมชัญนั้น เด่นมาช้านาน
http://www.dailymotion.com/video/xwqivu
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 14 มกราคม 2556 ตอนที่ 1
พิธีกร Wake Up ขอโทษ ช่างภาพเนชั่น ด้วยใจจริง
http://www.dailymotion.com/video/xwqivu_y-y-yy-wake-up-
รายการ Go Global ประจำวันที่ 13 มกราคม 2556
รายการ Go Global ประจำวันที่ 13 มกราคม 2556
ญี่ปุ่นบุกพม่า ไทยพร้อมจะบุกแล้วหรือไม่?
http://www.dailymotion.com/video/xwqpzf
ญี่ปุ่นบุกพม่า ไทยพร้อมจะบุกแล้วหรือไม่?
http://www.dailymotion.com/video/xwqpzf
กลุ่มไม่เอาสงครามฯ รณรงค์ต้านสงครามไทย-กัมพูชา
กลุ่มไม่เอาสงครามฯ รณรงค์ต้านสงครามไทย-กัมพูช
กลุ่มไม่เอาสงครามฯ รณรงค์ต้านสงครามไทย-กัมพูช
ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง
ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง
Ntirad : ร่าง รธน.ว่าด้วยนิรโทษกรรมฯ
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2013/01/44657
นิติราษฎร์: คำอธิบายเรื่องร่าง รธน.ว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง
นิติราษฎร์: คำอธิบายเรื่องร่าง รธน.ว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง
'วรเจตน์ ภาคีรัตน์' 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' และ 'จันทจิรา เอี่ยมมยุรา'
ขยายความข้อเสนอนิติราษฎร์ ชี้ แก้ไขผ่านร่างรัฐธรรมนูญเร็วที่สุด
เป้าหมายนิรโทษคือคนที่ร่วมชุมนุมทุกฝ่ายทางการเมือง ไม่นิรโทษ
จนท.ปฏิบัติเกินกว่าเหตุ หวังฝ่ายการเมืองขยับเรื่องนิรโทษกรรม 'สมศักดิ์
เจียมธีรสกุล' ชี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่เจตจำนงร่วมกันของสังคม
13 ม.ค. 2556 วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล และจันทจิรา เอี่ยมมยุรา ตัวแทนคณะนิติราษฎร์ร่วมกันแถลงที่ห้องจิตติ ติงศภัทิย์ อธิบายข้อเสนอ ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง หลังจากที่มีการเผยแพร่ร่างฯ ดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเข้าใจภาพรวมของกฎหมายฉบับนี้ว่าเมื่อเสนอไปแล้ว ใครอยู่ในข่าย และมีผลเป็นการก่อตั้งองค์กรอะไร คนและองค์กรที่ได้รับจากกฎหมายฉบับนี้
ข้อเสนอเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับใครและไม่เกี่ยวกับใคร
การ นำเสนอการล้มล้างผลพวงรัฐประหารเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อคนที่ถูกรัฐประหาร ซึ่งร่างฯ ฉบับที่เสนอใหม่นี้ ไม่เกี่ยว แต่เกี่ยวกับคนที่ร่วมเดินขบวนอันเนื่องจากการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อ 19 ก.ย. 2549 และทำความผิดที่มีมูลเหตุจูงใจจากความขัดแย้งทางการเมืองหลังการรัฐประหาร
ไม่ เกี่ยวอะไรกับคนที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ถูกแย่งชิงอำนาจรัฐ ซึ่งปรากฏอยู่ในเรื่องการล้มล้างผลพวงของการรัฐประหาร ที่นิติราษฎร์เสนอไปก่อนหน้านี้ซึ่งเสนอให้ยกเลิกการดำเนินคดีทั้งปวง แล้วให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวพันกับการแย่งชิงอำนาจรัฐโดยเฉพาะฝ่ายที่เสียอำนาจ และฝ่ายยึดอำนาจ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปพร้อมๆ กัน
“ที่มีการบอกว่านิติราษฎร์เสนอให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณไม่ถูกต้อง เพราะเราเสนอให้ล้างกระบวนการยุติธรรมแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใหม่”
สิ่งนี้จะเกิดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องมีการร่างฯ ขึ้นมา โดยน่าจะผ่านการออกเสียงประชามติ
สำหรับฉบับที่ใช้บังคับอยู่ ก็เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐธรรมนูญที่ค้างในมาตรา 3 ตอนนี้
ปฏิญญาหน้าศาล นัดชุมนุมใหญ่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรธน. ว่าด้วยนิรโทษกรรม ฉบับนิติราษฏร์
ปฏิญญาหน้าศาล นัดชุมนุมใหญ่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรธน. ว่าด้วยนิรโทษกรรม ฉบับนิติราษฏร์
ปฏิญาหน้าศาล นัดรวมตัว 29 ม.ค.56
กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล นัดรวมตัวที่หมุดคณะราษฎร วันที่ 29 ม.ค. 2556 เวลา
8.00 น. เพื่อยื่นข้อเสนอ
ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง
หวังนิรโทษกรรมเกิดขึ้นในสมัยประชุมสภาสมัยนี้
โดยสุดาระบุว่า เหตุการณ์รุนแรงในปี 2553 ทำให้เห็นภาพชัดเจนถึงการปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง และมีการกวาดล้างประชาชนอบย่างต่อเนื่อง มีผู้ถูกดำเนินคดี 13,857 คน ในศาล 59 แห่ง โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่คดีต่างๆ ที่ตัดสินไปก่อนพรรคเพื่อไทย ในช่วงรัฐบาล อภิสิทธิ์ถูกตัดสินอย่างรวดเร็ว แม้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่ตัวการสำคัญ ก็ถูกตัดสินจำคุก บางคนได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี ไม่มีเจตนาหลบหนี แต่หลังคำพิพากาษาของศาลชั้นต้นกลับไม่มีการประกันตัวออกมาเลย ตัวอย่างของคนที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือนายวันชัย รักสงวนศิลป์ที่เสียชีวิตไปแล้วระหว่างถูกคุมขัง หลังถูกตัดสินข้อหาวางเพลิงเพราะไปชุมนุมที่ที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี
นอกจากนี้ยังมีการออกหมายจับอย่างต่อเนื่อง อัยการยังคงสั่งฟ้องศาลคดีที่เกิดจากมูลเหตุจูงใจทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
“ความน่าเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรมติดลบหมดแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินหน้าสู่ความปรองดองโดยยังมีนักโทษการเมืองถูกขังอยู่ เช่นนี้” สุดา กล่าว พร้อมทั้งระบุว่าแนวทางของกลุ่มปฏิญญาหน้าศาลเห็นว่าข้อเสนอของนิติราษฎร์ นั้นจะเป็นทางออกที่จะนำสู่ความปรองดองและนำสู่การแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง และเป็นก้าวแรกที่จะคืนควาเมป็นธรรมให้สังคม
“ในนามของกลุ่มปฏิญญาหน้าศาลได้หารือกับกลุ่มต่างๆ โดยมีเป้าหมายในการนิรโทษกรรมเกิดขึ้นในสมัยประชุมสภาสมัยนี้ให้จงได้ สิ่งที่มุ่งหวังคือรัฐบาลจะได้รับข้อเสนอนี้จากนิติราษฎร์ไปพิจารณาในคณะ รัฐมนตรี นำร่างฯ เข้าสู่รัสภา โดยจะไม่มีการเข้าชื่อ โดยเชื่อว่ารธน. 2550 ได้วางกลลวงไม่ทำให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิตามที่เขียเนรป็นลายลักษณ์ ดังที่ได้เห็นจากที่รัฐสภาจำหน่ายนทิ้งช้อเสนอร่างฯ ครก.112 ออกจากากรพิจารณาในสภา เป็นเหตุผลทรี่ทำให้เห็นว่าการที่ประช่ขนถูกล่อลวงไปเสนอชื่อมากมาย ใช้ทรัพยากรและอุทิศเวลาส่วนตัว เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะไม่ใช้การเข้าชื่อตอไป แต่จะไปด้วยตัวเอง จะร่วมกันไปยื่นนร่างฯ ต่อรัฐสภาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะนัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 29 มกราคม 2556 เวลา โดยรวมตัวกันที่หมุดคณะราษฎรเวลา 8.00 น. เพื่อเดินไปยังรัฐสภา” สุดากล่าวในที่สุด
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2013/01/44643
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)