หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รายการ Go Global ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2555

รายการ Go Global ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2555


 

มิตต์ รอมนีย์ ใช้"ซีเรีย"เป็นจุดยืนชิงผู้นำสหรัฐ  

 
วันนี้ช่วงคอลัมน์ "Go Global " วันนี้รองศาสตราจารย์ ​ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต จะวิเคราะห์ศึกชิงเก้าอี้ประธานธิบดีสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วนี้ ว่าอยู่ในช่วงการแข่งขันทางด้านนโยบาย พร้อมร้องขอกลุ่มคนที่ไม่สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อย่านำประเด็นการออกวีซ่ามาขับเคลื่อนไล่สหรัฐ จะทำให้เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยมีปัญหา 

(คลิกฟัง)
http://shows.voicetv.co.th/goglobal/47853.html

พุสซี่ ไรออท VS วลาดิมีร์ ปูติน ใครเสี่ยงกว่ากัน ?


พุสซี่ ไรออท VS วลาดิมีร์ ปูติน ใครเสี่ยงกว่ากัน ?



 
คอกจำเลยที่ศาลแขวงคามอฟนิกี้ ริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ในกรุง มอสโกเมืองหลวงของสหพันธรัฐรัสเซีย มีความพิเศษอย่างยิ่ง

นั่น ไม่เพียงเพราะมันเป็นเหมือนตู้ไม้กรุกระจกกันกระสุน 3 ด้าน ผิดแผกแตกต่างออกไปจากคอกจำเลยของศาลอื่นๆ ทั่วโลกเท่านั้น แต่เป็นเพราะที่คอกจำเลยเดียวกันนี้ นักโทษการเมืองรัสเซียหลายต่อหลายคนผ่านเลยเข้ามาและใช้มันเป็น "บานหน้าต่าง" สะท้อนความเป็นจริงในความคิดเห็นของตนออกไปสู่โลกภายนอก ผ่านทางสื่อมวลชนหลายแขนง จากทั่วทุกมุมโลก

คนหลังสุดที่ใช้มัน เชื่อมต่อกับโลก ก็คือ มิคาอิล โคดอร์คอฟสกี้ คนที่ผันตัวเองจากบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย มาเป็นนักโทษที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของประเทศในชั่วข้ามคืนเมื่อปี 2003 เพียงเพราะต่อต้าน วลาดิมีร์ ปูติน

คอกจำเลยที่ศาลคามอฟนิกี้ กลายเป็นจุดโฟกัสของทั้งโลกอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา วันที่ผู้พิพากษามารีนา ไซโรวา มีกำหนดพิพากษาและกำหนดบทลงโทษในคดี "พุสซี่ ไรออท" อันเลื่องลือ

จำเลย 3 คน ผู้หญิงรูปร่างเล็ก เพรียวบาง ดูอ่อนแอจนสามัญธรรมดาอย่างยิ่ง 3 คน ประกอบด้วย นาเดซด้า โทโลคอนนิโคว่า นักศึกษาวัย 22 ปี มาเรีย อัลโยคีน่า เจ้าหน้าที่องค์กรการกุศลวัย 24 ปี และ เยกาเทรีน่า ซามูเซวิช วิศวกรคอมพิวเตอร์อิสระวัย 29 ปี แย้มยิ้ม รับคำพิพากษาและโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ฐานกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา "มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นอันธพาล" และ "จาบจ้วง ดูหมิ่นศาสนา ด้วยความจงเกลียดจงชัง"

"นาเดีย-มาช่า และ แคทย่า" อย่างที่จำเลยทั้ง 3 เป็นที่รู้จักกันไป

ทั่วประเทศ ไม่เพียงคาดหวังไว้แล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ชาวรัสเซียทั่วประเทศก็คาดหวังไว้ในทำนองเดียวกัน

นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง

นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง

 


คิดเล่นเห็นต่างกับ คำผกา นางสาวสยาม สตรีผู้เป็นศรีสง่าแห่งรัฐธรรมนูญ 18-08-2012

คิดเล่นเห็นต่างกับ คำผกา นางสาวสยาม สตรีผู้เป็นศรีสง่าแห่งรัฐธรรมนูญ 18-08-2012

 

 
 

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=aMxbgY0lxIo

ทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ ล้าสมัยแล้วจริง ๆ หรือ ?

ทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ ล้าสมัยแล้วจริง ๆ หรือ ?

 

 


คาร์ล มาร์คซ์

โดย ศรีสองเมือง 

 

มีคนเคยเยาะเย้ยนักลัทธิมาร์กซผู้หนึ่งไว้ เมื่อไม่นานมานี้ ในทำนองว่าเขาผู้นั้นยังงมงายกับลัทธิมาร์กซ์อยู่  และน่าจะเป็นมาร์กซิสต์คนสุดท้ายในประเทศไทย  แต่ก็ไม่ได้เสนอทฤษฎีใหม่ที่มีเนื้อหาใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา  โดยเฉพาะความขัดแย้งในสังคมไทย       

โดยฐานะแล้ว ผมเป็นเพียงรากหญ้าคนหนึ่ง การที่จะพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสาระต่าง ๆ ในทฤษฎีการเมือง  ซึ่งก็เป็นเรื่องยากและใช้เวลานานกว่าผู้อื่นอยู่บ้าง ทำได้เท่าที่กำลังสติปัญญาและโอกาสจะเอื้ออำนวยให้ โดยมีความประสงค์ที่จะค้นหาว่า  แนวคิดของปรัชญาใด จะสามารถคลี่คลายปัญหาทางความคิดหรือข้อสงสัยของผมให้ตกไปได้บ้างเป็นเบื้อง แรก 


จนกระทั่งได้พบ ทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษวิธีของลัทธิมาร์กซ ที่เกิดจากการตกผลึกทางสติปัญญา ของมาร์กซและเองเกลส์ ที่มันสามารถตอบปัญหาทางความคิดของผม ซึ่งมีมานานแล้ว ให้ตกไปได้อย่างไม่มีอะไรต้องมาสงสัยค้างคาใจอีก และเมื่อมองย้อนกลับไป ทำให้ผมได้เห็นความ ” ไม่รู้ ” ของตนเองว่า เคยหลงผิดไปอย่างมากมายทีเดียว 

จึงตั้งใจว่า ต่อไปนี้ ก่อนที่จะเชื่อสิ่งใด จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องพินิจพิจารณาให้ถ่องแท้ จะเชื่อสิ่งใดง่าย ๆไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากเคยมีบทเรียนที่เจ็บปวด จากการถูกหลอกลวงให้หลงเชื่อและศรัทธา ในสิ่งที่จับต้องไม่ได้จากแนวคิดที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์มานาน  จึงพยายามฝึกฝนทดลอง ใช้แนวทางทฤษฎีของปรัชญานี้ มามองและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองมาตลอด 

การลองผิดลองถูกนั้น ได้ให้การศึกษาแก่ผมว่า
หากไม่มีการนำไปปฏิบัติ ก็จะไม่มีผลเลย  การจะยึดถือแนวทางของทฤษฎีใด ๆ ควรพิจารณาในหลาย ๆ มิติ  ไม่ว่าจะเป็น ฐานะ บทบาทและภาระหน้าที่ของมันที่มีต่อ ” ศาสตร์ ” และ ” สังคม ”  โดยพยายามมองเข้าไปให้ถึงโครงสร้างของมันว่า ประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้ หรือไม่   

๑. มันมีหน่วยวิเคราะห์อยู่ในระดับใด ?  ระดับบุคคล ? ระดับกลุ่มคน (ชนชั้น) หรือในระดับสังคม  หรือกว้างกว่านั้น  

-
ลัทธิมาร์กซ มีหน่วยวิเคราะห์อยู่ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับย่อยจนถึงระดับใหญ่

๒. มองถึงอุดมการณ์ของมัน ว่ารับใช้ใคร ?  


- ลัทธิมาร์ซได้แสดงจุดยืนของมันอย่างชัดเจนว่า
มันรับใช้ชนชั้นผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นคนส่วนข้างมากของสังคมที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ 

๓. มันมีเป้าหมายเช่นไร ? ต่อมวลมนุษยชาติ


- ลัทธิมาร์กซมีเป้าหมายชัดเจนที่จะปลดปล่อยมวลมนุษยชาติ ออกจากความสิ้นหวังยากไร้และขาดแคลนจากการถูกกดขี่ขูดรีด  ข้อนี้ ผมเห็นว่า เป็นแก่นแท้และจิตวิญญาณของมัน เลยทีเดียว

๔. มันมีลักษณะนามธรรมที่หลากหลายและสมบูรณ์เพียงใด ?
- ลัทธิมาร์กซ ได้หล่อหลอมเชื่อมโยง เอานามธรรมที่หลากหลายเข้าด้วยกัน อย่างสอดประสานกลมกลืน เช่น ความยากไร้ การกดขี่ขูดรีด การต่อสู้ทางชนชั้น การเปลี่ยนแปลงสังคม ฯลฯ 

๕. ในด้านความเป็น”ศาสตร์” มันมีความสามารถเพียงพอ ที่จะอธิบายปรากฎการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้มากน้อยเพียงใด
- มีเพราะมันเป็นองค์ความรู้ที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

๖. มีมวลชนผู้ศรัทธาสืบทอด โดยนำหลักการไปปรับใช้และปฏิบัติและได้ผลอยางประจักษ์หรือไม่


-
มีและนำไปปฏิบัติได้ผลประจักษ์มาแล้ว

หากปราศจากองค์ประกอบเหล่านี้ (หรือมากกว่านี้) แล้วนำไปมองปัญหา  ก็น่าจะเป็นได้เพียง
การบอกเล่า” หรือ “ ระบายความรู้สึก ความเพ้อฝัน หรือความปรารถนาส่วนตนที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตเบื้องลึก  ออกมาเสียมากกว่า  สำหรับทฤษฎีลัทธิมาร์กซนั้น มีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่อย่างสมบูรณ์

แม้จะผ่านกาลเวลามานานเป็นร้อยปี  มันได้รับการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์มาอย่างหนักหน่วงกว้างขวาง ผ่านการโจมตีบิดเบือน ในเนื้อหาสาระมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สาระหลัก ยังคงทนต่อการพิสูจน์ แม้ว่าในปัจจุบัน ” ทุน ” และสรรพสิ่ง จะพัฒนาแตกต่างไป จากที่มาร์กซได้วิเคราะห์ไว้ในยุคสมัยของเขามากมาย 
 
แต่เนื้อหาของมัน ก็ไม่ล้าสมัยไปเสียเลยทีเดียว มาร์กซก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่มีอัจฉริยภาพสูงมากคนหนึ่ง  ไม่ใช่ผู้วิเศษ ไม่ใช่นักปรัชญาจิตนิยม ในยุคที่เขามีชีวิตอยู่นั้น ยังไม่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี่ใหม่ ๆ ให้เห็นเป็นข้อมูล และไม่มีเครื่องมือดิจิตอลใช้เช่นในปัจจุบัน 

ในปี พศ. นี้ ยังมีทฤษฎีใหม่ ๆ บทใดบ้างที่พอจะชี้ทางออกให้กับมวลชนผู้ยากไร้ได้ดีเท่ากับทฤษฎีนี้ ยังมีนักปราชญ์คนใดบ้าง ที่สามารถเสนอแนวคิดทางปรัชญาที่มีฐานะพอ ๆ กันมาหักล้างทฤษฎีลัทธิมาร์กซให้ตกไปได้....ถ้ามี  โปรดชี้แนะด้วย จะได้น้อมรับไปศึกษา  

แต่ในเวลานี้
จำต้องยึดถือ ปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษแห่งลัทธิมาร์กซไว้ก่อน และไม่แน่ว่า ในอนาคตอาจจะมีผู้รู้คนหนึ่งคนใด มาพัฒนาหรือเสนอแนวทางที่ ผิดแผกไปจากนี้และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เพราะไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม ตามหลักข้อหนึ่งของ “วัตถุนิยมวิภาษวิธี”ของลัทธิมาร์กซ

(ที่มา) 

นักมาร์คซิสต์คนสำคัญ

นักมาร์คซิสต์คนสำคัญ 


Marxism ไม่ใช่แค่ความคิดของ คาร์ล มาร์คซ์
มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นสายความคิดที่มีชีวิต


 
Karl Marx & Friedrich Engels

Marx 1818-1883 Bonn & Berlin Unis เริ่มสนใจปรัชญาเยอรมัน ศึกษา Hegel แต่ตีความใหม่ โดยปฏิเสธพระเจ้า ใช้วัตถุนิยม แต่ไม่ใช่แบบกลไก (ความคิดมนุษย์และการกระทำสำคัญเสมอ)

เริ่มต้นเป็นนักประชาธิปไตย แต่มองว่าทุนนิยมเป็นอุปสรรค์

1844 พบ Engels ที่ Paris กลายเป็นเพื่อน สหายและคู่ร่วมงานที่แยกกันไม่ออก

1842 Engels ทำงานในบริษัทครอบครัวที่ Manchester เขียน The Condition of the English Working Class

ทั้งสองเขียน German Ideology 1845/6 เป็นจุดเริ่มต้นของ Marxism เสนอว่า การปฏิวัติสังคมขึ้นกับเงื่อนไขทางวัตถุที่ทุนนิยมกำลังสร้างขึ้น ชนชั้นกรรมาชีพมีบทบาทสำคัญ “ลัทธิคอมมิวนิสต์คือลัทธิแห่งการปลดแอกกรรมาชีพ”


องค์กรทางการเมือง League of the Just, Communist Correspondence Committee, Communist League (Manifesto)


1848 ปีแห่งการปฏิวัติ แต่จบลงด้วยความผิดหวัง (ข้อสรุปเกี่ยวกับความก้าวหน้าของนายทุน และความเป็นไปได้ของการปฏิวัตินายทุนในรูปแบบฝรั่งเศส)


ว่าด้วยทุน

เขียนบทความสำหรับ นสพ. ชนิดต่างๆ วิเคราะห์ข่าว เช่นสงครามในอเมริกา
สากลที่หนึ่ง
คอมมูนปารีส Civil War in France รัฐและการปฏิวัติ

Engels มีผลงานสำคัญเรื่อง รัฐ ชนชั้นและการกดขี่ทางเพศผ่านครอบครัว เขียนเรื่องการวิวัฒนาการมนุษย์ และนำ ว่าด้วยทุน เล่ม 3 มาพิมพ์


 
Lenin

มีความสำคัญในการพัฒนาความคิดและการปฏิบัติเรื่องพรรค สามารถสร้างพรรค Bolshevik ท่ามกลางการต่อสู้


เน้นการรวมศูนย์ความคิด (ไม่ใช่เผด็จการ) เน้น หนังสือพิมพ์


รื้อฟื้นความคิดปฏิวัติรัฐของมาร์คซ์


พัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวรรดินิยมและสงคราม สำคัญมากในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง


นำการปฏิวัติ 1917 ถึงชัยชนะ เน้นสากลนิยมและการปลดแอกตนเองของกรรมาชีพรากหญ้า

ตาย 1923 ขณะที่การปฏิวัติเริ่มมีปัญหา


Trotsky


นักเขียนที่มีความสามารถที่สุด เขียนประวัติการปฏิวัติรัสเซีย วิเคราะห์ทิศทางการปฏิวัติในยุคโลกาภิวัตน์ทุนนิยม ในปี 1906 (Permanent Revolution)

วิเคราะห์การขึ้นมาของ Nazi เขียนเรื่องศีลปะวัฒนธรรมและวรรณคดี


มีบทบาทคู่กับเลนินในการปฏิวัติ (สตาลินลบรูป) ผู้นำกองทัพแดง ใช้ยุทธศาสตร์การเมือง รถไฟปลุกระดม


เป็นคู่ต่อสู้หลักกับ Stalin และข้าราชการแดง แต่แพ้ ถูกไล่ออกจากประเทศและถูกฆ่าตายใน Mexico (พคทฯลฯ ห้ามอ่าน)


มีบทบาทสำคัญมากในการปกป้องแนวมาร์คซิสต์จากการบิดเบือนของสตาลิน
 
วิจารณ์นโยบายใน Spain และจีน
สร้างสากลที่ 4 –จุดกำเนิดองค์กรมาร์คซิสต์ที่ดำรงอยู่ทุกวัน


 
Rosa Luxemburg


นักปฏิวัติ Poland-Germany เป็นมาร์คซิสต์ที่ฉลาดที่สุดคนหนึ่ง
เป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยมตั้งแต่สาวๆ หัวหน้าพรรค Poland เมื่ออายุ 17

กล้าวิจารณ์ Bernstein และผู้ใหญ่อนุรักษ์นิยม เช่น Kautsky ในพรรค SPD เมื่อเขาเสนอว่าไม่ต้องปฏิวัติแล้ว

เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในสากลที่สองที่คัดค้านชาตินิยมและสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง (ร่วมกับ Karl Liebknecht, Klara Zetkin, Lenin, Trotsky, John McClean….)

ติดคุกนาน

พยายามแยกออกจาก SPD เพื่อสร้างพรรคปฏิวัติ ท่ามกลางการปฏิวัติเยอรมัน 1918 แต่สายไป ถูกรัฐบาล SPD ฆ่าตายกับ Liebknecht

บทความหลักๆ Reform or Revolution, The Mass Strike, เรื่องชาตินิยมที่เถียงกับเลนิน


 
Gramsci

อิตาลี่ ทำ นสพ.ระเบียบใหม่ ในปีแดง 1920 สนับสนุนการยึดโรงงานและกรรมกรควบคุมการผลิต
ติดคุกนานภายใต้ Fascists

ข้อเขียนสำคัญเรื่องปัญญาชน และยุทธวิธีในการทำการปฏิวัติ ที่ต้องช่วงชิงความคิดในสังคมเปิด ค้านกระแสหลัก

พัฒนาความคิดเกี่ยวกับจิตสำนึก
(George Lukacs ต่อยอด)


Tony Cliff

สร้างพรรคสายตรอทสกี้ และสากล IST ที่มีความสำคัญทุกวันนี้

เสนอทฤษฏี State Capitalism

กอบกู้แนวมาร์คซิสต์ในยุคสมัยใหม่จากแนวสตาลินและความหดหู่หลัง 1989

สมาชิกพรรคมีปัญญาชนสำคัญคือ Alex Callinicos, Chris Harman และ John Rees


(ที่มา)
http://www.turnleftthai.blogspot.dk/2012/02/blog-post_05.html 

กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์ เก็บข้อมูลโทษประหารชีวิตในไทย

กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์ เก็บข้อมูลโทษประหารชีวิตในไทย


 

กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์ ที่ใช้ละครเวทีถ่ายทอดความจริงและเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาเยือนประเทศไทย ศึกษาเรื่องการตัดสินโทษประหารชีวิตเพื่อนำไปเป็นข้อมูลสำหรับละครเวที เรื่องใหม่ 
 
​กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์ ที่ใช้ละครเวทีเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน สื่อสารความจริงและปัญหาที่เกิดขึ้นในเบลารุส รวมทั้งต่อกรกับการเซ็นเซอร์ในระบอบเผด็จการ ออกตระเวนเดินสายเยือนประเทศที่มีกฎหมายตัดสินโทษประหารชีวิต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทยเพื่อเก็บข้อมูลเรื่องการใช้โทษประหารชีวิตและผลกระทบภายในประเทศ สำหรับเตรียมรับละครเรื่องใหม่ที่พวกเขาจะเปิดการแสดงในเดือนตุลาคมนี้ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
 
โอกาสนี้กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์ยัง ได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดประสบการณ์งานแสดงและสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษย ชนกับกลุ่มละคร ศิลปิน และผู้สนใจในประเทศไทย  พวกเขาเล่าว่า กลุ่มละครเบลารุสเธียเตอร์ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินโทษประหารชีวิต ทั้งนี้เนื่องจากที่เบลารุสโทษประหารชีวิตนั้นส่วนใหญ่จะถูกใช้กับนักโทษการ เมือง , นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน และบางครั้งก็ถูกจัดฉากขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมทำให้นักโทษหลายคนตกเป็นเหยื่อ สิ่งที่คณะละครต้องการคือ ตีแผ่ความจริงที่เกิดขึ้นในเบลารุส และต้องการแรงสนุบสนุนจากคนทำละครทั่วโลก เมื่อมีมิตรจากต่างประเทศมากขึ้น ก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่ประชาชนในเบาลารุสจะร่วมต่อสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตย
 
กลุ่มละครเบลารุสฟรีเธียเตอร์กลุ่มนี้ต้อง เปิดการแสดงอย่างลับๆ และเผชิญความเสี่ยงสูงมาก ก่อนหน้านี้การแสดงหลายครั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจม ตรวจค้นและจับกุมผู้เกี่ยวข้อง กลุ่มผู้ชมละครจะได้รับการติดต่อผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือเพื่อนัดพบ สถานที่ ปัจจุบันพวกเขาได้ใช้บ้านร้างแห่งหนึ่งที่เบลารุสเป็นโรงละคร อย่างไรก็ตามพวกเขา กล่าวว่า แรงผลักดันของพวกเขา คือ การแสดงที่น่าสนใจและมีรสนิยมทางศิลปะ และพวกเขาคือแรงบันดาลใจที่แท้จริง
 
(ที่มา)

กลุ่มกรีนพีซ ร้อง 3 ปท.EU ปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 12 แห่ง

กลุ่มกรีนพีซ ร้อง 3 ปท.EU ปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 12 แห่ง

 

กลุ่มกรีนพีซ ร้อง 3 ปท.EU ปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 12 แห่ง


กลุ่มกรีนพีซได้เรียกร้องให้ 3 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 12 แห่งในทันที เนื่องจากผลการทดสอบเพื่อประเมินความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์  โดยอียูนั้นได้มีการมองข้ามข้อผิดพลาดของเตาดังกล่าวหลายประการ
         
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานของกรีนพีซระบุว่า เตาปฏิกรณ์ 12 แห่งนั้น ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม อังกฤษ และฝรั่งเศส
      
โดยเมื่อปีที่แล้ว ทางอียูได้ทำการทดสอบความสามารถในการรับมือกับภาวะวิกฤต เพื่อทดสอบความยืดหยุ่นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 143 แห่งที่โรงงานผลิตพลังงานในสหภาพยุโรปว่า จะสามารถรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวและเหตุน้ำท่วมได้หรือไม่ หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มโรงไฟฟ้าฟูกุชิม่า ไดอิชิที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2554
       
โดยกรีนพีซระบุว่า ผลการตรวจสอบดังกล่าวไม่ได้มีการพิจารณาถึงข้อผิดพลาดที่รุนแรง และยังไม่ได้นำสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นมาเป็นบทเรียนแต่อย่างใด

(คลิกฟัง)

รวบรวมการประท้วงนิวเคลียร์ทั่วโลก

 

 
 

(คลิกฟัง)

หมอตุลย์-สมศักดิ์ เจียมฯ ร่วมเวที "อึด ฮึด ฟัง" เปิดใจคุยเรื่องมาตรา 112-สถาบันฯ

หมอตุลย์-สมศักดิ์ เจียมฯ ร่วมเวที "อึด ฮึด ฟัง" เปิดใจคุยเรื่องมาตรา 112-สถาบันฯ

Posted Image




(16 ส.ค.55) มีการจัดสานเสวนา ประเด็น “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์...เสรีภาพในการแสดงออกและมาตรา 112” ภายใต้โครงการเวทีสันติประชาธิปไตย จัดโดยสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โดยความร่วมมือและสนับสนุนของ โครงการสะพานเสริมสร้างประชาธิปไตย และ USAID ที่ห้องประชุม ศศนิเวศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การเสวนาดังกล่าวมีผู้ร่วมพูดคุยจากกลุ่มต่างๆ อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มธ. ประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.เดอะเนชั่น นิธิวัต วรรณศิริ ผู้ประสานงานเครือข่ายเสรีราษฎร สมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ เครือข่ายญาติและผู้ประสบภัยจากมาตรา 112 พล.ท.อิสระ วัชรประทีป อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 1 พลเอกไวพจน์ ศรีนวล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมศรี หาญอนันทสุข ผู้อำนวยการเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (มูลนิธิอันเฟรล) สกุล สื่อทรงธรรม มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ฯลฯ

'นายแน่มาก' 18-08-2012

'นายแน่มาก' 18-08-2012 


Posted Image


(คลิกฟัง)

แถลงการณ์นายอัสเตอร์ดัมกรณีกองทัพไทยเข้าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท

แถลงการณ์นายอัสเตอร์ดัมกรณีกองทัพไทยเข้าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท

 


 

ในวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555 หนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยมติชนรายงาน ว่าผู้บัญชาการทหารบก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามอบหมายให้ พ.ท.สายัณห์ ขุนขจีฟ้องร้องดำเนินคดีหมิ่นประมาททางอาญาต่อนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษากฎหมายของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.)

การแจ้งความเกิดจากคำปราศรัยของนายอัมสเตอร์ดัมในกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 วันครบรอบที่กองทัพปราบปรามการชุมุนมอย่างทารุณซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของ ประชาชน 98 ราย ในระหว่างการปราศรัย ซึ่งสามารถเข้าไปดูวิดีโอแบบเต็มได้ที่นี่ นาย อัมสเตอร์ดัมประณามประวัติการสังหารหมู่พลเรือนของกองทัพไทยและวิจารณ์ รัฐบาลสหรัฐว่าขายอาวุธและฝึกกองทัพไทยเพื่อสังหารพลเรือนอยู่เป็นประจำ คำปราศรัยของนายอัมสเตอร์ดัมถูกแปลเป็นภาษาไทย ดังนั้นจึงมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อล่ามด้วยเช่นกัน พลเอกประยุทธ์กล่าวหาว่าข้อความดังกล่าวทำลายชื่อเสียงของกองทัพไทย

ข่าวเรื่องการแจ้งความทางอาญาต่อนายอัมสเตอร์ดัมและล่ามเกิดขึ้นในปลาย สัปดาห์นี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองทัพไทยและอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ได้ออก มาข่มขู่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งมีหน้าที่สอบสวนการปราบปรามการชุมนุมปี 2553 อย่างเปิดเผย รวมถึงตอบโต้สื่อที่ถามเรื่องการใช้พลซุ่มยิงสังหารประชาชนในปี 2553 อย่างรุนแรง เป็นเรื่องชัดเจนที่นายอภิสิทธิ์และพลเอกประยุทธ์รู้สึกจนตรอกมากขึ้น เรื่อยๆ ในความพยายามที่จะปกป้องระบบการทำผิดแล้วลอยนวลซึ่งบ่งบอกถึงถึงความมี ประสิทธิภาพของการทำงานของนายอัมสเตอร์ดัมและทีมงาน

นายอัมสเตอร์ดัมยังคงยืนยันตามคำปราศรัยของเขาและมุ่งมั่นทำงานเพื่อนำ ตัวผู้นำระดับสูง (รวมถึงพลเอกประยุทธ์และอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) มาลงโทษในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ก่อขึ้นในระหว่างการปรามปรามการ ชุมนุมของคนเสื้อแดงในเดือนเมษายนและพฤษภาคมปี 2553 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนในครั้งนี้คือ คนที่สังหารพลเรือนเพื่อปกป้องอำนาจและอภิสิทธิ์ของตนจะไม่สามารถรอดพ้นจาก การรับผิดในการกระทำของพวกเขาอย่างแน่นอน
  
(ที่มา)
http://robertamsterdam.com/thai/