หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

วิพากษ์โลกกลม-โลกแบนในสังคมไทย

วิพากษ์โลกกลม-โลกแบนในสังคมไทย

 

ภาพโดย : Lior Arditi 

โดย โคแบร์


ที่จริงผมไม่ได้จะถกเรื่องที่เกี่ยวกับโลกของเรากลมหรือแบนอย่างไรหรอกครับ แต่ผมสังเกตว่าปัญหาสังคมไทยในตอนนี้เรากำลังตั้งคำถามที่ผู้คนสงสัยกันมา นานแล้วเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้คือ ปัญหาการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติมากนักสำหรับระบอบประชาธิปไตย ปัญหานี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั้งในสื่อกระแสหลักและนอกกระแส ที่มีการนำเสนอประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป

ผมจึงมองว่า ในตอนนี้เรากำลังถกปัญหาเรื่องโลกใบนี้กลมหรือโลกใบนี้แบน เพราะทั้งประชาชน สื่อสารมวลชน ได้รับข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นประเด็นปัญหาสารธารณะที่จะต้องหยิบยกออกมาเพื่อให้เป็นที่กระจ่าง แจ้ง สำหรับข้อสังเกตที่ผมติดตามอยู่นั้น พบว่า ประชาชนหลายภาคส่วนมีความคิดความเชื่อที่ไม่ค่อยลงลอยกันเท่าไรนัก กับความเชื่อเรื่องโลกกลม-โลกแบน 


ผู้ที่มองว่าโลกใบนี้แบน ผมคิดว่าพวกเขาเปรียบเทียบได้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ คนเสื้อเหลือง กลุ่มคนเสื้อหลากสี กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ ที่มักจะมองโครงสร้างในสังคมไทยนั้น มันไม่ต้องมีอะไรปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากพวกเขาคิดว่าโครงสร้างเหล่านี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนไม่ควรเข้าไปแตะต้อง ควรปล่อยให้มันเป็นไปตามโครงสร้างให้มันบริหารไปเอง


สังเกตได้จากกการเคลื่อนไหวการต่อต้านการแก้ไขมาตรา 112 ที่ออกมาปกป้องโดยอ้างว่า เป็นการไม่ให้เกียรติ์ต่อสถาบัน จะมีการหมิ่นเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมองไปถึงอนาคตด้วยว่าอาจมีการล้มล้างสถาบันเกิดขึ้น ตรงนี้ผมเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมผู้ที่คิดว่าโลกแบนไม่ยอมเสนอทางแก้ไขปัญหา นอกจากการต่อต้านผู้คนที่คิดต่างจากตน การต่อต้านไม่ควรต่อต้านโดยไม่วิเคราะห์หาสาเหตุก่อนว่า ทำไมถึงมีการออกมาเรียกร้องแก้ไขมาตรา 112 แต่ก็ออกมาต่อต้านโดยที่ไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไร


(อ่านค่อ)
http://turnleftthai.blogspot.com/2012/03/blog-post.htm

Wake Up Thailand march19,2012

Wake Up Thailand march19,2012

 

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=povmXoB8rRA&feature=player_embedded#!

ที่นี่ความจริง อ หวาน อ ตุ้ม 19มีค55

ที่นี่ความจริง อ หวาน อ ตุ้ม 19มีค55

 

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=IbRrpFCgU5A&feature=player_embedded

นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐธรรมนูญ-จินตนาการใหม่

นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐธรรมนูญ-จินตนาการใหม่



บัดนี้ ก็ชัดอยู่แล้วว่า หากไม่มีการรัฐประหาร อย่างไรเสียก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญตามหลักการที่สภาได้เห็นชอบในการแก้ไข ม.291 สิ่งที่ควรทำก็คือ ช่วยกันติดตามและจับตามองทั้งกระบวนการร่างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ช่วยกันอภิปรายถกเถียงเรื่องเหล่านี้กันอย่างกว้างขวาง ดังนั้น นับตั้งแต่บัดนี้ ผมจะขอเสนอความเห็นเกี่ยวกับการร่างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเป็นระยะๆ จนกว่าการลงประชามติจะได้ผ่านไปแล้ว

ทำไมจึงควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ไม่ ว่านักรัฐศาสตร์และนักกฎหมายจะอธิบายว่ารัฐธรรมนูญคืออะไรก็ตาม แต่ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญคือข้อตกลงแบ่งสรรอำนาจระหว่างกันของกลุ่มคนที่มีกำลังพอ จะถือส่วนแบ่งของอำนาจในสังคมนั้นๆ (หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ชนชั้นนำและเครือข่าย)

แน่นอนว่าไม่มีรัฐธรรมนูญของประเทศใด ที่มีรูปลักษณ์หยาบคายได้ถึงขนาดนั้น การแบ่งสรรอำนาจกระทำในหลักการที่เชื่อกันว่ามีคุณค่าเป็นสากล เช่น หลักความเสมอภาค โดยไม่ต้องระบุลงไปว่า คนผิวสี, ผู้หญิง, ชาวพื้นเมือง ฯลฯ ไม่เกี่ยว เพียงแต่ข้อบัญญัติอื่นๆ ทั้งในกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายระดับรองลงมา รวมทั้งวิถีปฏิบัติที่สังคมยอมรับ อาจไม่สอดคล้องกับหลักความเสมอภาคเลยก็ได้

ในสังคม "ทันสมัย" นับตั้งแต่ได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นต้นมา ชนชั้นนำและเครือข่ายปรับเปลี่ยนสัดส่วนของกำลังตนเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้การแบ่งสรรอำนาจไม่อาจดำรงอยู่ตายตัวเป็นเวลานานๆ เหมือนดังสมัยโบราณ (เช่นสี่ร้อยกว่าปีในราชอาณาจักรอยุธยา เราใช้ "รัฐธรรมนูญ" ที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรอยู่ฉบับเดียว แม้มีการแย่งชิงราชสมบัติกันอยู่เป็นประจำ) ด้วยเหตุดังนั้น รัฐธรรมนูญที่ก้าวหน้าจึงเป็นรัฐธรรมนูญที่เปิดให้กลุ่มชนชั้นนำและเครือ ข่าย สามารถใช้เป็นฐานในการปรับเปลี่ยนดุลแห่งอำนาจระหว่างกันได้ รวมทั้งเปิดให้กลุ่มใหม่ๆ ซึ่งมีกำลัง พอจะผลักดันตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มชนชั้นนำและ/หรือเครือข่ายได้ เข้ามาแบ่งส่วนของอำนาจไปถือไว้บ้างด้วย จึงไม่จำเป็นต้องร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ทุกๆ 10 ปี

การปรับดุลแห่งอำนาจไปอยู่ที่กฎหมายรองและแบบปฏิบัติอื่นๆ ไม่ใช่ที่การแก้รัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว

แต่ รัฐธรรมนูญไทยไม่ใช่อย่างนั้น โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2550 เนื้อหาที่เป็นแก่นกลางของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ ความพยายามจะจับให้การแบ่งสรรอำนาจในกลุ่มชนชั้นนำและเครือข่ายหยุดนิ่งกับ ที่ ซ้ำยังเป็นการแบ่งสรรอำนาจที่ขาดความสมดุลในหลายด้าน โดยยังไม่ต้องพูดถึงการเกิดขึ้นใหม่ของกลุ่มที่มีกำลังเพิ่มขึ้นในสังคมพอจะ เรียกร้องส่วนแบ่งของอำนาจเพิ่มขึ้น แม้แต่ในหมู่ชนชั้นนำและเครือข่ายที่มีอยู่เดิม ก็ไม่อาจยอมรับการแบ่งสรรอำนาจที่ขาดความสมดุลได้ขนาดนั้น อย่างไรเสีย รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ดำรงอยู่ไม่ได้ในระยะยาวอยู่แล้ว
  

 

(อ่านต่อ)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331985117&grpid=03&catid=&subcatid=

10เหตุผล ทำไมประเทศไทยจึงห่วยแตก!!

10เหตุผล ทำไมประเทศไทยจึงห่วยแตก!!

 
















มาฟังนักโพสต์ไซเบอร์ สาธยาย "10 เหตุผล ทำไมประเทศไทยจึงห่วยแตก!!" ในยามที่การเมืองประชาธิปไตยแบบพี่ๆ น้องๆ กำลังจะตกลงแบ่งผลประโยชน์กันลงตัว

 1. ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยไม่เต็มบาท
:: แม่งฮาว่ะ เลือกตั้งรัฐบาลเข้าไป แต่รัฐบาลบริหารห่าอะไรไม่ได้ จะย้ายทหารสักตัวนึงยังย้ายไม่ได้ วันดีคืนดีทำกับข้าวออกทีวีก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

2. เก็บภาษีแล้วไม่ค่อยคืนผลประโยชน์สู่ประชาชน
:: ไอ้สัตว์ โรงเรียน โรงพยาบาล ตามต่างจังหวัด แม่งสร้างบ้างเหอะ กูสงสารชาวบ้าน

3. ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์
:: แม่งเข้ากระเป๋าใครหมดก็ไม่รู้

4. ไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร แต่กู้ชาติกลับคืนมาจากพม่า
:: หลอกตัวเองชิบหาย ไหนจะโดนญี่ปุ่นรุกรานจนต้องยอมจำนนอีก

5. มีแต่ฤดูร้อนตลอดปี
:: ร้อนขนาดนี้มึงจะแบ่งเป็น 3 ฤดูกาลทำหอกอะไร?

6. เป็นเมืองพุทธแต่เปลือกนอก
:: เซนซิทีฟทุกสิ่งทุกอย่าง ไอ้โน่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่เหมาะสม เซนเซอร์กระทั่งหัวนมโกฮัง คาสิโนก็สร้างไม่ได้ทั้งที่บ่อนเถื่อนเต็มประเทศ แทนที่จะเอารายได้เข้ารัฐ ควายยยย คนไทยก็งมงาย กราบไหว้สัตว์พิการ ดื่มน้ำส้วมอมฤทธิ์ เจลลดไข้จากสวรรค์ พุทธพ่อมึงเหรอ?

7. ธุรกิจผูกขาด
:: ห่าเหวอะไรก็ True, CP ทำกิจการผูกขาดครบวงจรจนร่ำรวย ชาวบ้านจะทำธุรกิจบ้างก็สู้ไม่ไหว เจ๊งไปตาม ๆ กัน เงินทองไหลไปกองอยู่กับคนไม่กี่ตระกูล

8. สกปรก ไม่เป็นระเบียบ
:: พื้นถนนมีแต่ฝุ่น เศษขยะกระจัดกระจาย กองขยะเหม็นเน่าเป็นจุด ๆ แม่น้ำลำคลองก็เน่าเสีย อากาศก็มีแต่มลพิษ สายไฟระโยงระยาง ฝาท่อผุพัง ไม่เคยหาทางแก้ไขกันอย่างจริงจัง

9. แบ่งชนชั้นวรรณะ
:: แบ่งแยกชาติกำเนิด เกิดในตระกูลดังมีสิทธิพิเศษ ทำอะไรก็ไม่ผิด เงินซื้อได้ทุกอย่าง

10. คนไทย
:: อันนี้คือเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ประเทศไทยห่วยแตก ถ้าจะสาธยายจริง ๆ คงต้องเริ่มหัวข้อใหม่ไปเลยว่า 10 เหตุผล ทำไมคนไทยจึงห่วยแตก!!

จักรภพ รำลึกวีรชน19พ.ค.55 ณ. ราชประสงค์


จักรภพ รำลึกวีรชน19พ.ค.55 ณ. ราชประสงค์




จักรภพ เพ็ญแข VDO Link "เวทีราษฎรร่วมกับแม่น้องเกด" นางพะเยาว์ อัคฮาด จัดเวทีปราศรัย รำลึกวีรชนฯ 19 พฤษภาคม 53 ในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2555
 
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=w5cZX-Ve4fM

แม่พเยาว์ อัคฮาด 

(คลิกฟัง)

http://www.youtube.com/watch?v=pfIpelhi_mU&feature=player_embedded 

คลิปรายการDivas Cafe' Produced by VoiceTV ประจำเดือน มีนาคม 2555

คลิปรายการDivas Cafe' Produced by VoiceTV ประจำเดือน มีนาคม 2555


จัดหนักธีรยุทธ บุญมี Divas Cafe 19 03 55 

http://www.youtube.com/watch?v=l8j1TOArazw&feature=player_embedded


(คลิกฟัง)
http://www.konthaiuk.eu/forum/index.php?topic=21043.0 

The Daily Dose 19มีนาคม55

The Daily Dose 19มีนาคม55




(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=0PVG8cIEc1E#!

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 19 มี.ค.55 อย่าจุดไฟเผาบ้านตัวเอง....

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 19 มี.ค.55 อย่าจุดไฟเผาบ้านตัวเอง.... 

 

Posted Image

ไม่มีป้าย ตรงไหน ให้รักพรรค
แต่ประจักษ์ ด้วยความคิด จิตสำนึก

มันก่อเกิด จากใจ ให้รู้สึก

จะผนึก หรือแตกแยก ให้แหลกราญ....


ประชาชน เชื่อมั่น แต่..ฝันสลาย

ไม่นึกอาย กลับเร็วรี่ บี้หักหาญ

มุ่งสร้างเรื่อง ขัดแย้ง แฝงด้วยมาร

หวังรัฐบาล ง่อนแง่น แค้น..เรื่องใด....


กลุ่มรักแดง รักนาย กลุ่มขายเพื่อน

ช่างเลอะเลือน แสร้งจริต คิดสาไถย

บอกว่ารัก ผูกสมัคร รักยังไง

ถึงทำให้ ภายในพรรค ทุลักทุเล....


รัก รมว.รักตัวเอง เก่งทั้งนั้น

ยังดึงดัน ให้ร้อนรุ่ม กลุ่มรักเจ๊

กลุ่มนายหญิง ยิ่งตอกย้ำ จนหยำเป

เริ่มหักเห เละทั้งพรรค สะบักสะบอม....


จุดไฟเผา บ้านตัวเอง เก่งเหลือหลาย

เติมวุ่นวาย เอกอุ ไม่ทะนุถนอม

พวกหน้าไหว้ หลังหลอก บอกต้องยอม

ตัวจริง-ปลอม..คิดเป็นไหม..ใครเลือกมา....


๓ บลา / ๑๙ มี.ค.๕๕
http://3blabla.blogspot.com

ปิยบุตร แสงกนกกุล: บทเรียนรอบโลก การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์

ปิยบุตร แสงกนกกุล: บทเรียนรอบโลก การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์

 


เสวนาในงานแขวนเสรีภาพฯ ปิยบุตรอภิปรายเรื่องบทบาทและพัฒนาการของสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ในประเทศต่างๆ รวมถึงที่มา ความหมายของ “เอกสิทธิ์” ของกษัตริย์ ล่วงละเมิดไม่ได้ภายใต้เงื่อนไข


การอภิปรายโดยปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อ 18 มีนาคม 2555 ในงาน "แขวนเสรีภาพ" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว [ช่วงแรก]

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=ny6zSSn1728 



การอภิปรายโดยปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อ 18 มีนาคม 2555 ในงาน "แขวนเสรีภาพ" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว [ช่วงที่สอง]

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=oZJg6pb0rJU


ประเทศที่ยังมีกษัตริย์เป็นประมุข

ประเทศที่เป็นกษัตริย์ประมุขของรัฐ หรือมีประมุขที่สืบทอดทางสายโลหิต ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่ประเทศ หากนับแบบอาจารย์เบน แอนเดอร์สัน ก็นับเหลือ 27 แต่ถ้ารวมประเทศหมดเล็กๆ น้อยๆ ให้หมดก็นับได้ 40 ประเทศ แต่จะเหลือแค่ไหน ไม่สำคัญเท่ากับประเทศที่เป็น Monarchy นั้นลดลงอย่างมาก ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา ในยุโรป ช่วงปี 1918 มีเพียง 3 ประเทศที่เป็นสาธารณรัฐ คือ ฝรั่งเศส โปรตุเกส และสวิสเซอร์แลนด์ ที่เหลือมีกษัตริย์ทั้งหมด หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่1 ปรากฏว่าในยุโรปมีประเทศที่สาธารณรัฐมี 15 รัฐ ส่วนอีก 15 รัฐนั้นมีกษัตริย์  หลังจากนั้นตั้งแต่ 1931 ประเทศต่างๆ ในยุโรปเป็นสาธารณรัฐมากขึ้น อย่างสเปนก็เอาสาธารณรัฐกลับมา ปัจจุบันก็เอากษัตริย์กลับมาอีก ส่วนอิตาลีมีการทำประชามติว่าจะให้ระบบกษัตริย์คงอยู่ไหม ผลปรากฏว่าไม่เอา  พวกยุโรปตะวันออกนั้นก็เลิกสถาบันกษัตริย์หมด ปัจจุบันเหลือ 10 ประเทศที่มีกษัตริย์ในยุโรป  คือ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน อังกฤษ สเปน ลิกเตนสไตน์ โมนาโค 

เท่าที่ดู ประเทศที่รื้อฟื้นเอาสถาบันกษัตริย์กลับมานั้นน้อยมาก เท่าที่เห็นมีสเปนและกัมพูชา ปัญหาอยู่ที่ว่าเหตุใดหลายประเทศยกเลิกสถาบันกษัตริย์ไป เพราะกษัตริย์เป็นอุปสรรคของประชาธิปไตยหรือเปล่า หรือกาฝากของสังคมหรือเปล่า และเหตุใดบางประเทศยังรักษาสถาบันกษัตริย์เอาไว้ได้

มันจึงแบ่งเป็นประเทศที่ สถาบันฯ ปรับตัว อยู่รอดปลอดภัยได้ กับ ประเทศที่สถาบันฯ ปรับตัวไม่ได้แล้วหายไป 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/03/39717