หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คดีตากใบยังไม่จบ ศาลนัดพิพากษาอุทธรณ์ ไม่เพิกถอนคำสั่ง ‘ขาดอากาศหายใจ’

คดีตากใบยังไม่จบ ศาลนัดพิพากษาอุทธรณ์ ไม่เพิกถอนคำสั่ง ‘ขาดอากาศหายใจ’

 

 

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ อุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคดีไต่สวนการตายของศาลจังหวัด สงขลา 8 มิถุนายน 2555


มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า เวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2555 ศาลอาญา กรุงเทพมหานคร นัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ ษ 43/2552 หมายเลขแดงที่ ษ 42/2552 กรณีญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 34 คน ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งไต่สวนการตายของศาลจังหวัดสงขลา เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย โดยมอบอำนาจให้นางแยน๊ะ สะแลแม เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา

คดีนี้ เกิดขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 ศาลจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่งในคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพหรือคดีไต่สวนการตายกรณีผู้เสียชีวิตใน ระหว่างการขนย้ายผู้ชุมนุมบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี  เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 78  คน  โดยศาลจังหวัดสงขลา มีคำสั่งว่า ผู้ตายทั้ง  78  คน  เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ในระหว่างอยู่ในความควบคุมตัวของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติราชการตามหน้าที่

(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40918

 

อาชญากรรมรัฐที่ตากใบ

ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ กองกำลังติดอาวุธของรัฐไทยได้สลายการชุมนุมอย่างสันติของชาวบ้านที่ตากใบ จังหวัดนราธิวาส ชาวบ้านที่มาประท้วงหน้า ส.น.ตำรวจในวันนั้นประกอบไปด้วย ชาย หญิง และเด็ก สาเหตุที่มาประท้วงก็เพื่อให้ตำรวจปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับในข้อหานำอาวุธ ไปให้พวกที่กบฏต่อรัฐอำมาตย์

อาวุธดังกล่าวเดิมมาจากภาครัฐที่บังคับให้ชาวบ้านถือไว้ และเขามอบอาวุธให้คนอื่นเพราะถูกข่มขู่ ชาวบ้านกลัวว่าผู้ที่ถูกตำรวจจับจะหายตัวไปหรือถูกซ้อมตามเคย จึงมาประท้วงเพื่อให้ปล่อยเพื่อนบ้าน ในวันนั้นมีการใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วงและใช้ก๊าซน้ำตาแล้ว มีการยิงกระสุนปืนใส่ชาวบ้านจนตาย 6 คน บาดเจ็บอีกมากมาย หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืนของรัฐไทยเป็นเด็กอายุ 14 ขวบ ในขณะที่ฝ่ายชาวบ้านไม่มีอาวุธแต่อย่างใด


หลังจากที่สลายการชุมนุมดังกล่าว ทหารและตำรวจบังคับให้ชายทุกคนนอนลงกับพื้น ถูกถอดเสื้อ ถูกเตะตี แล้วมีการมัดมือไว้ข้างหลัง ต่อมาทหารก็โยนชายเหล่านั้นขึ้นรถทหารที่ไม่มีหลังคา มีการบังคับให้นอนทับกันหลายชั้น ใครร้องเรียนประท้วงหรือไม่พอใจ จะโดนทุบตีและเหยียบและถูกทหารปรามว่า
“เดี๋ยวจะรู้ว่านรกจริงเป็นอย่างไร”

ชายเหล่านั้นไม่ได้กระทำความผิดอะไรทั้งสิ้น แค่มาประท้วงตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นเราต้องเข้าใจว่ารัฐไทยมองว่าเขาเป็น “เชลยศึก” ที่จะถูกลงโทษ ไม่ใช่ “ผู้ต้องหา” ที่มีสิทธิ

เชลยศึกดังกล่าวถูกนำไปส่งที่ค่ายอิงคยุทธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งใช้เวลาเดินทางกลางแดดหลายชั่วโมง พอรถทหารคันแรกถึงค่ายอิงคยุทธิ์ปรากฏว่ามีคนตายที่นอนอยู่ข้างล่างหลายคน 6 ชั่วโมงหลังจากนั้นรถคันสุดท้ายมาถึงค่ายทหารและมีคนตายทั้งหมด 78 ศพ ในหกชั่วโมงที่ทหารทราบว่าการขนส่งมนุษย์แบบนี้มีปัญหา ไม่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีขนคนแต่อย่างใด ดังนั้นเราต้องสรุปว่าเป็นการ “จงใจฆ่าประชาชน”

พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 ในยุคนั้น กล่าวต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ของสื่อมวลชนขณะที่เกิดเหตุการณ์ว่า “เราจะทำอย่างนี้อีกทุกครั้ง”

นอกจากแม่ทัพภาคที่ 4 แล้วผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับอาชญากรรมของรัฐครั้งนี้คือ ผู้บัญชาการตำรวจในพื้นที่ และที่สำคัญที่สุดคือนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร รัฐมนตรีกลาโหม และผู้บัญชาการทหารและตำรวจระดับชาติ นอกจากนี้รัฐบาลทักษิณต้องรับผิดชอบกับการที่ทนาย สมชาย นีละไพจิตร ถูกตำรวจฆ่าก่อนหน้านั้นอีกด้วย

หลังเหตุการณ์ที่ตากใบนายกรัฐมนตรีทักษิณออกมาชมทหารและตำรวจ และรัฐบาลอ้างว่าคนที่เสียชีวิตไป ตายเพราะ
"อุบัติเหตุ" สี่ปีหลังเหตุการณ์ นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวศ โกหกกับนักข่าวโทรทัศน์ช่อง Al Jazeera ว่าคนตายที่ตากใบตายเพราะ “ล้มทับกันเอง”

อย่าลืม“กรือแซะ”


ในยุครัฐบาลทักษิณมีเหตุการณ์นองเลือดในภาคใต้อีกเหตุการณ์หนึ่ง คือการนองเลือดที่
“กรือแซะ” ใน เดือนเมษายน ๒๕๔๗ ในกรณีนี้มีชายหนุ่มโพกผ้าศักดิ์สิทธิ์และเข้าโจมตีป้อมตำรวจด้วยดาบโบราณ การโจมตีป้อมตำรวจที่มีอาวุธทันสมัยครบมือด้วยดาบโบราณ มีลักษณะของการพลีชีพในเชิงสัญลักษณ์ เพราะชายหนุ่มเหล่านั้นคงทราบดีว่าต้องตายแน่ แต่บางคนที่ไม่ตายท่ามกลางเหตุการณ์และถูกจับคุม ก็โดนวิสามัญฆ่าตกรรมโดยรัฐ มีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่รัฐไทยจับผู้ต้องหามามัดมือและประหารชีวิตอย่าง เลือดเย็นที่ สะบ้าย้อย

นายทหารที่เป็นผู้บังคับบัญชาที่ กรือแซะ ชื่อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี นายทหารคนนี้เคยแจ้งกับหนังสือพิมพ์ว่าในอดีต
สมัย รบกับคอมมิวนิสต์ กองทัพบกจะเข้าไปในหมู่บ้านและยิงทิ้งใครที่สงสัยว่ากบฏต่อรัฐ แต่ตอนนี้ต้องแนบเนียนกว่านี้ ต้องไปขู่เมียแทน ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมอันเลวทรามในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทหารไทย

แต่อย่าเข้าใจผิดว่าประชาธิปัตย์รักสงบมากกว่าไทยรักไทย ภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์มีการเข่นฆ่าทรมาณประชาชน มีการปกป้องฆาตกรที่ฆ่าทนายสมชาย และประชาธิปัตย์พูดแต่เรื่องการ
“ประสานงานการปกครองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ไม่ได้พูดถึงการแก้ไขรากฐานของปัญหาทางการเมืองเลย สาเหตุหนึ่งก็เพราะประชาธิปัตย์กับทหารมือเปื้อนเลือดทำงานด้วยกัน

 

(อ่านต่อ)http://turnleftthai.blogspot.dk/search?updated-max=2011-12-02T13:48:00%2B07:00&max-results=12&start=59&by-date=false 

จดหมายเปิดผนึก 'RED USA' ถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญฯ ขอให้ลาออกทั้งคณะ

จดหมายเปิดผนึก 'RED USA' ถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญฯ ขอให้ลาออกทั้งคณะ

 

 

เรื่อง
ขอให้ลาออกทันทีทั้งคณะ
ก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายเพราะพวกท่านไปมากกว่านี้

 

ดังเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วน ใหญ่ก่อกำเนิดมาจากคณะรัฐประหาร จึงนับว่ามีที่มาที่ไม่ชอบธรรม แต่กำเนิดมาเพียงเพราะขบวนการยุติธรรมไทยขลาดกลัว ลนลาน ก้มหัวยอมรับให้คณะรัฐประหารเป็นรัฐาธิปัตย์ มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน  เมื่อก่อเกิดมาแล้วก็มัวเมาอยู่ในอำนาจและผลประโยชน์ที่คณะรัฐประหารปรนเปรอ ให้ ซึ่งอำนาจและผลประโยชน์น่าจะสิ้นสุดไปพร้อมๆ กับการสลายตัวของคณะรัฐประหารหลังจากที่มีการเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ยังด้านชาอยู่ในตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสการประนามหยามเหยียดจากประชาชน  การคงอยู่ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่เพียงแต่ทำให้ประเทศเป็นตัวตลก แต่ ยังฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การลงทุน และการเมืองระหว่างประเทศ นอกเหนือจากเป็นองค์กรคอยสุมไฟแล้ว  ยังช่วยโหมกระหน่ำกระพือไฟแห่งความแตกแยกของคนในชาติให้ร้าวลึกยิ่งขึ้น เพียงเพื่อการดำรงอยู่ของตนเอง พวกพ้องและเจ้านายที่ถือปลายโซ่ดึงปลอกคอของพวกท่านอยู่ด้านหลังโดยไม่คำนึง ถึงผลเสียที่เกิดกับประเทศชาติและประชาชนว่ามากมายเพียงใด

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำตัวเป็นตัวตลกในสายตาประชาคมโลก การตัดสินให้อดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร  สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยโดยใช้เพียงพจนานุกรมอ้างอิงในกรณีทำ รายการอาหารออกโทรทัศน์ สร้างความขบขันให้คนทั้งโลกพร้อม ๆกับความขบขันและเสียงหัวเราะเยาะใส่หน้า ผลเสียที่ติดตามมายังใหญ่หลวงนัก นั่นคือความไม่เชื่อมั่นในขบวนการยุติธรรมของไทย ส่งผลต่อการลงทุนและการทำนิติกรรมระหว่างประเทศเพราะต่างชาติไม่มั่นใจว่า เมื่อไรขบวนการยุติธรรมของไทยจะเล่นตลกที่ขำไม่ออก แต่ส่งผลกระทบต่อความ เป็นความตายของการลงทุนระหว่างประเทศ แต่ส่วนหนึ่งของคณะตุลาการที่กระชากนายสมัคร  สุนทรเวช ลงจากบัลลังก์นายกรัฐมนตรีด้วยข้อหารับจ้างตามพจนานุกรมนั้น  กลับไม่มองดูตัวเอง ที่ทำตัวเป็นลูกจ้าง มีรายได้จากการรับจ้างที่มากกว่าเสียอีก

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40917

สัมภาษณ์: พ่อ ‘ธันย์ฐวุฒิ’ ผู้ต้องขังคดีหมิ่นฯ

สัมภาษณ์: พ่อ ‘ธันย์ฐวุฒิ’ ผู้ต้องขังคดีหมิ่นฯ

 

สัมภาษณ์ พ่อของธันย์ฐวุฒิ (คดี 112)

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=PejIoJykLYs 


นายชีเกียง วัย 74  ปี บิดาของนายธันย์วุฒิ เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำพร้อมให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กับครอบครัว ความรู้สึก และความคาดหวังต่อการขอพระราชทานอภัยโทษ 

“พูดในนามพ่อของลูกคนหนึ่ง ตอนที่ลูกถูกจับมีอาการแย่มากเลย เคว้งคว้างไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง”

“ญาติ พี่น้องเขาก็กลัว ไม่กล้าเลย ไม่มีใครกล้ามาเยี่ยมเลย แม้แต่พี่น้องของหนุ่มเองก็ไม่กล้า แม่เขาก็กลัว แต่เรามันกลัวไม่ได้ เพราะเราเป็นพ่อ จะกลัวได้ไง ลูกคนหนึ่งติดคุกอยู่” 
 
“มันก็แย่มากขนาดเราขอประกันไป เที่ยวนี้เที่ยวที่หกที่เจ็ดแล้วมั้งก็ไม่ได้นะ”

“ตกใจ หมดแรงเลย โฮ ข่าวก็ออกมาหราเลย ธันย์ฐวุฒิ โดนตัดสินคดีหมิ่น 13 ปี ตอนนั้นหมดแรงเลย จริงๆ ตอนแรกๆ เราก็อยากให้เขารับสารภาพ บอก เออ ถึงไม่ได้ทำก็รับสารภาพไปเถอะอย่างน้อยมันก็ได้ลดครึ่งนึง”

“อย่าให้ถึง 13 ปีเลย  13 ปี แย่เลย แล้วเราจะอยู่ถึงเหรอ 13 ปี นี่ปีนี้ก็ 74 แล้ว อีก 13 ปี ก็ 80 กว่าคงไม่ไหว อยากจะออกมาเจอลูกก่อน อยากให้ลูกบวช”

(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40911

ที่นี่ความจริง อ.หวาน อ.ตุ้ม 05มิย55

ที่นี่ความจริง อ.หวาน อ.ตุ้ม 05มิย55 

 

 

(คลิกฟัง)


ศาลรัฐธรรมนูญศรีธนญชัย Divas Cafe 07มิย55

ศาลรัฐธรรมนูญศรีธนญชัย Divas Cafe 07มิย55

 

 

(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=t4lA3nfF490

"สมศักดิ์ เจียมฯ" เขียนถึงการ "ลอยตัว" ของนายกฯ และความรับผิดชอบเรื่องแก้รธน.ของส.ส.พท.

"สมศักดิ์ เจียมฯ" เขียนถึงการ "ลอยตัว" ของนายกฯ และความรับผิดชอบเรื่องแก้รธน.ของส.ส.พท.

 

http://www.matichon.co.th/online/2012/06/13390031301339003180l.jpg


นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัวหลายกระทู้ เกี่ยวกับการทำงานทางการเมืองของรัฐบาลและพรรคไทยรักไทย ในประเด็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีเนื้อหาดังนี้

ผมว่า คนของรัฐบาล (และพรรคเพื่อไทย) ไม่มีคนที่คมๆ ในการโต้แย้งเรื่องประเด็นทางกฎหมายนะ

ส่วนใหญ่ก็มุ่งที่ประเด็น ม.68 อัยการสูงสุด ซึ่งก็โอเค เพราะมันง่าย และดูเหมือนจะชัดเป็นรูปธรรมหน่อย แต่จริงๆ มันไม่เพียงพอ ต้องโต้ประเด็นเรื่องอำนาจในการแก้ไข รธน. ของสภา ในการแก้ไข 291 รวมทั้งในแง่ที่ให้ร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ และการไม่มีอำนาจในการมาคุมการร่าง รธน. ของศาล ฯลฯ

/////

อืม จริงๆ ว่าจะหาเวลาเขียนเรื่องนี้ ยาวกว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้ เอาว่า "รำพึง" แบบสั้นๆ

กรณีคุณยิ่งลักษณ์ "ลอยตัว" เรื่องการเมือง (พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ได้อ่าน เรื่อง แก้ รธน. ไม่พูด แม้ รบ.จะเป็นคนเสนอเอง)

ตกลงว่า เป็นเพราะ 

(ก) strategy คือ จงใจ เป็นยุทธศาสตร์การเมือง (กันให้ยิ่งลักษณ์ ทำ "เศรษฐกิจ ปากท้อง" เพื่อ "เก็บคะแนน" อย่างเดียว เลี่ยงการถูกด่า ฯลฯ 

หรือ 

(ข) คุณยิ่งลักษณ์เอง "มือใหม่" ไม่มีความสามารถที่จะออกมาพูดเรื่องการเมือง เลยต้อง "โยน" ให้คนอื่น

ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ตอนนี้ ก็ไม่มีตัวเด่นจริงๆ เหมือนกัน ใน รบ. ในเรื่องนี้ คุณยงยุทธ ก็ไม่ใช่ คุณเฉลิม นี่ อาจจะ "ดี" (?) ในเรื่อง "ด่า แบบลูกทุ่งๆ" แต่ในทางการเมือง คงไม่ไหว เหมือนกัน

หรือ เป็นเหตุผลทั้ง (ก) และ (ข) ประกอบกัน? (อย่างไหน มากกว่า?)

และ สภาพเช่นนี้ จะคงอยู่ไปเรื่อยๆ ตลอดอีก 3 ปีข้างหน้า จะไหวไหม?

/////

ปัญหาเรื่อง คุณยิ่งลักษณ์ "ลอยตัว" ทางการเมือง (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเป็นหลัก) + กับการที่ ฝ่าย รบ. ไม่มี "ตัวเด่น" ทางการเมืองมาออกหน้า (คุณยงยุทธ คุณเฉลิม รับผิดชอบ "งานการเมือง" ก็จริง แต่ทำหน้าที่นี้ โดยเฉพาะ ผ่านสื่อ อะไรไม่ได้ ไม่ดี) ผมว่า มันเป็นปัญหาอยู่นะ

ผมไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย เลยไม่รู้ว่า ตกลงกรณี พวก 111 นี่ จะวางบทบาทยังไง

เห็นตอนนี้ ก็มีการเอาคุณสุรนันทน์ มาเป็น เลขาฯ ฝ่ายการเมือง กับคุณศันสนีย์ มาเป็นโฆษก แต่ทั้ง 2 ตำแหน่งนี้ ยังเป็นตำแหน่งเล็กทางการเมือง (ตำแหน่ง เลขา ก็ไม่ใช่ตำแหน่งออกหน้า)

พี่หมอมิ้ง (นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช - มติชนออนไลน์) พี่อ้วน (นายภูมิธรรม เวชยชัย - มติชนออนไลน์) คุณพงศ์เทพ (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา - มติชนออนไลน์) พี่อ๋อย (นายจาตุรนต์ ฉายแสง - มติชนออนไลน์) หรือแม้แต่คุณหญิงสุดารัตน์ (รายหลังสุดเห็นบอกว่า ขอ "วางมือ" แต่นักการเมืองอ่ะนะ เปลี่ยนได้) และอาจจะมีคนอื่นอีก

ผมว่า เพื่อไทย ต้องหาทางให้คนเหล่านี้ "ออกแถวหน้า" มากกว่านี้นะ

(อ่านต่อ)http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1339003130&grpid=&catid=02&subcatid=0202

อัยการสูงสุดฟันธง! ไม่ส่งคำร้อง"ส.ส.-สว."แก้รธน.ให้ศาลรธน.พิจารณาตาม"ม.68" ชี้ไม่มีมูลล้มการปกครอง

อัยการสูงสุดฟันธง! ไม่ส่งคำร้อง"ส.ส.-สว."แก้รธน.ให้ศาลรธน.พิจารณาตาม"ม.68" ชี้ไม่มีมูลล้มการปกครอง

 

 

เวลา 19.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ว่า คณะทำงานอัยการที่มีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบุคคลและคณะบุคคล 6 ราย ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ 416 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) – สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เสนอแก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291 เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68  นัดประชุมพิจารณากันตั้งแต่เวลา 13.00 น.วันนี้( 7 มิถุนายน ) ล่าสุดหลังการประชุมคณะกรรมการเป็นไปอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 6 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น 

(อ่านต่อ)http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1339073559&grpid=00&catid=&subcatid=

Wake Up Thailand 07มิย55

Wake Up Thailand 07มิย55

 

 

(คลิกฟัง) 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=0wUw3MKDK_w

The Daily Dose 07มิถุนายน55

The Daily Dose 07มิถุนายน55 

 

(คลิกฟัง)

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=glYSKCKTSyg#!

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลขอเดา: "เพื่อไทย คง "ถอย" เรื่อง รธน."

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลขอเดา: "เพื่อไทย คง "ถอย" เรื่อง รธน."

 

 

หมายเหตุ: เช้าวันนี้ (7 มิ.ย. 55) สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุค ตั้งสถานะเผยแพร่สาธารณะ ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคาดการณ์การตอบโต้ของพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย "จะถอย" โดยมีรายละเอียดดังนี้

000

อันนี้ ต้องเช็คกันเองอีกที หรือ เช็คจาก นสพ.ไทยด้วยนะครับ ผมอ่านเอาจาก Bangkok Post เช้านี้ (ในฉบับพิมพ์ ทำเป็น "ล้อมกรอบ" หน้าแรก)

http://www.bangkokpost.com/news/politics/296893/pheu-thai-plans-charter-vote

โดยสรุป มี 2 เรื่องที่น่าสนใจ

(1) เรื่องในสภา "แหล่งข่าว" ในพรรคเพื่อไทย บอกว่า พรรคได้ตกลงกำหนดตัว สส.20 คน นำโดยคุณเฉลิม ให้อภิปรายวิพากษ์คำวินิจฉัยของศาล

หลังอภิปรายแล้ว จะเสนอญัตติว่า ให้สภาลงมติ คัดค้านคำสั่งศาล

ที่น่าสังเกตคือ ดูเหมือนว่า ตาม "แผน" ของ เพื่อไทย (ถ้า "แหล่งข่าว" นี้ถูกต้อง) จะไม่ถึงกับมีการดันให้มีการลงมติ วาระ 3 แก้ รธน.นะ (ตามหมายกำหนดการประชุมสภา ก็ไม่มีวาระนี้ มีแต่วาระ "รับทราบ" คำสังศาล เท่านั้น)

ดังนั้น ในทีสุด ผมกำลังสังหรณ์ว่า เพื่อไทย คงไม่ "ชน" กับศาลจริงๆ คือ คงไม่มีการให้มีการลงมติ วาระ 3 แต่จะแค่ให้ มี มติ คัดค้าน คำสังศาลเฉยๆ แต่ตัว วาระ 3 คงไม่ได้ทำตอนนี้ 

ซึ่งเอาเข้าจริง ถ้าเพียงแค่ "สภามีมติคัดค้านคำสั่งศาล" (แต่ไม่ได้ลงมติ วาระ 3 จริงๆ) ก็จะไม่มีผลทางกฎหมาย หรือการเมืองอะไรนัก เพราะ "มติ" ที่่ว่า ถ้าผลักให้มีลงจริง ก็ไม่มีผลอะไรต่อศาล เหมือนกัน และการดำเนินการ "ไต่สวน" ของศาล ก็อาจจะดำเนินต่อไปได้ตามปกติ

ผมเดาว่า นี่อาจจะเป็นอะไรที่ เพื่อไทย คิดว่า ทำเฉพาะหน้า แล้วรอดูสถานการณ์ต่อ หรือ รอตัดสินใจต่อ ก็ได้ (คือเรื่อง วาระ 3 จริงๆ ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเอายังไง) 

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40907