หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

“ความเป็นไทย”: อัตลักษณ์แห่งความดักดาน

Sat, 2011-09-03 21:47



ถ้าลองใช้โวหารชาตินิยมไทยดูบ้าง ข้าพเจ้าคิดว่าความเป็นไทยมากมายหลายอย่างเป็นตัวถ่วงความเจริญของชาติไทย และคนไทย หรือกล่าวอย่างกำปั้นทุบดินได้ว่า ความล้าหลังและลักษณะอนุรักษนิยมจัดของสังคมไทยมีสาเหตุหลักๆ มาจากความเป็นไทยนั่นเอง

และถ้าจะลองเลียนสำนวนชนชั้นสูงไทยเพื่อความเป็นศิริมงคล ความคิดและการงานสิ่งใดของฝรั่งหรือญี่ปุ่นที่คิดประดิษฐ์ขึ้นดีๆ ข้าพเจ้าเห็นว่าเราควรเลื่อมใสนับถือให้มาก เราไม่ควรตามโลกตะวันตกเฉพาะด้านความเจริญทางวัตถุ แต่ควรตามความเจริญในโลกสากลทางด้านความคิดจิตใจและความสัมพันธ์ทางสังคม ด้วย

แล้วถ้าจะลองเสนอนโยบายให้กระทรวง(ไม่มี)วัฒนธรรมพิจารณา ในเมืองไทยสิ่งที่ควรจะรักษา(แต่ไม่ใช่ตะบันขึ้นทะเบียน)คือมรดกวัฒนธรรมทาง ศิลปะ/วัตถุ(บางอย่าง เพราะไม่มีที่ไหนทำได้ทุกอย่าง) ไม่ใช่มรดกวัฒนธรรมทางความคิดจิตใจ และสิ่งที่ควรจะปรับเปลี่ยนรื้อถอนคือมรดกวัฒนธรรมทางความคิดจิตใจ ไม่ใช่มรดกวัฒนธรรมทางศิลปะ/วัตถุ (ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ “แช่แข็ง” ห้ามดัดแปลง) โดยพึงระวังว่าวิธีคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมและรสนิยมในการจัดการวัฒนธรรมจะเป็น ตัวกำหนดแนวทางในการอนุรักษ์ ทว่าปัญหาใหญ่หลวงในเรื่องการจัดการวัฒนธรรม ของรัฐไทยกลับคือการไร้ความคิด(ที่ถูก) และไร้รสนิยม(ที่ดี) แน่นอนว่าความคิดที่ถูกและรสนิยมที่ดีเป็นประเด็นถกเถียงได้ไม่รู้จบ แต่พึงระลึกด้วยว่าขณะนี้เรากำลังอยู่กับรัฐราชการที่มีความคิดที่ผิดและ รสนิยมที่เลวอย่างไม่อาจปกป้องและแก้ต่างได้

พูดอีกแบบก็คือ เราควรอนุรักษ์โขนและดนตรีมโหรีปี่พาทย์ แต่ลดละเลิกขนบศักดิ์สิทธิ์ของโขน-ดนตรีและโลกทัศน์แบบรามเกียรติ์ เราควรทำนุบำรุงโบราณสถาน วัดๆ วังๆ แต่ลดละเลิกโลกทัศน์แบบศักดินาและพุทธเถรวาทคับแคบ เราควรส่งเสริมการศึกษาภาษาไทย วรรณคดีไทย วัฒนธรรมไทย และศิลปะไทยทางวิชาการให้เข้มข้น จริงจัง และมีจิตวิพากษ์แบบตะวันตก แต่ลดละเลิกคติเชิดชูซาบซึ้งฟูมฟายในความเป็นไทยที่ไม่เป็นวิชาการ และบ่อยครั้งก็ไม่เป็นผู้เป็นคน.....
(อ่านต่อ) 

http://www.prachatai.com/journal/2011/09/36738 

ไม่เคยเปิดเผยในสื่อกระแสหลักของเมืองตอแหลแลนด์ :goodjob:

ทหารเผา / ชาวบ้านที่เห็นยืนยัน 


 มื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มคนเสื้อแดง ได้จัด 

"คอนเสิร์ตต้อนรับวันอิสรภาพ ลมหายใจที่ไม่แพ้"
  โดย มีกลุ่มแกนนำ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยฯลฯ เดินทางมาร่วมงานและทยอยกันขึ้นบนเวที เพื่อพูดคุยกับคนเสื้อแดงและกลุ่มแนวร่วมที่เข้ามาร่วมชมคอนเสิร์ตเป็นจำนวน มากกว่า 3,000 คน








ขบวนการ 'เสื้อแดง' เริ่มเดินเกม ทวงฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ "ทักษิณ"?!?



ขบวน การ 'เสื้อแดง' เริ่มเดินเกม ทวงฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ "ทักษิณ" ด้าน "ณัฐวุฒิ" ชี้ เป็นหน้าที่ของทางราชการ ที่ต้องชี้แจงกับประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนแผงหนังสือขณะนี้ ปรากฎว่า หนังสือพิมพ์มหาประชาชนสุดสัปดาห์ ปีที่2ฉบับ53 ระหว่างวันที่2-8ก.ย.นั้น มีการพาดหัวว่า ‘ทวง ราชทัณฑ์ 3ล้าน ฎีกาแดง’ โดยใช้รูปประกอบเป็นรูปพานสีทอง ซึ่งบนพานมีของลักษณะคล้ายรายชื่อปึกใหญ่ ส่วนภาพใกล้เคียง ยังมีคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ที่ทำท่าคล้ายกับกำลังหาบกล่องสีแดง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเนื้อหาในเล่มดังกล่าว พบว่า บทความดังกล่าว ไม่ได้ระบุชื่อของผู้เขียน แต่เนื้อหาโดยรวม มีการหยิบยกหนังสือฎีกาของคนเสื้อแดงมาตีพิมพ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาช่วงแรกเป็นการท้าวความไปเมื่อวันที่17ส.ค.52 ที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน (ชื่อและตำแหน่งขณะนั้น) นำมวลชนหลายหมื่นคน มาถวายฎีกาดับทุกข์ทั้งแผ่นดิน ที่ท้องสนามหลวง และมีพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่จะนำรายชื่อจำนวน 3,532,906 คน ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อสำนักราชเลขาธิการ ผ่านนายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ รองราชเลขาธิการ ณ ประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง

นอกจากนี้ เนื้อหายังกล่าวถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ด้วยว่า ไม่ทำตามขั้นตอน พยายามดึงเรื่องด้วยการส่งไปยังกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า

ทั้งนี้ เนื้อหาในบทความดังกล่าว ยังระบุว่า เมื่อวันนี้การเมืองเปลี่ยนผ่าน พรรคการเมืองที่คนเสื้อแดงให้การสนับสนุน ได้กลับมาเป็นรัฐบาล และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรมว.ยุติธรรม กำกับกรมราชทัณฑ์ จึงสมควร หากแกนนำนปช.และคนเสื้อแดง จะลุกขึ้นมาทวงถามเรื่องการตรวจสอบรายชื่อในใบฎีกา

"ขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ กำชับพล.ต.อ.ประชา ให้สอบถามไปยังกรมราชทัณฑ์ว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบไปถึงไหนแล้วด้วย หากยังไม่เสร็จ ก็ควรจะเร่งมือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และไม่ว่าผลของพระบรมราชวินิจฉัยออกมาอย่างไร คนเสื้อแดงก็พร้อมน้อมรับ และจะไม่เคลื่อนไหวใดๆนับจากนี้"

'ณัฐวุฒิ' โยน เป็นหน้าที่ส่วนราชการ รายงานความคืบหน้าต่อปชช.

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช.และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของส่วนราชการ ที่ควรจะรายงานความคืบหน้าต่อประชาชน ให้เกิดความเข้าใจและรับรู้ตรงกันว่า ขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว เหลือระยะเวลาอีกเท่าไหร่ กว่าจะตรวจรายชื่อครบ

"สิ่งที่ประชาชน 3 ล้านรายชื่อ เข้าชื่อถวายฎีกานั้น จะปล่อยให้เงียบหายไปเฉย ๆ ไม่มีความคืบหน้า คงจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง กระบวนการทั้งหมด ควรได้รับการเปิดเผย และเป็นหน้าที่ของฝ่ายราชการที่ดูแล ที่น่าจะให้ข้อเท็จจริง และรายละเอียดได้"

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนเสื้อแดงยังมีจุดประสงค์เดิม ที่ต้องการให้มีการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอยู่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ช่วงนั้นการลงชื่อเป็นเจตจำนงของประชาชนกว่า 3 ล้านชื่อที่ได้แสดงออกไป แต่ตอนนี้ ยังไม่มีข้อสรุป

ส่วนคนเสื้อแดงจะทวงถามไปยังน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือรมว.ยุติธรรม หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของขั้นตอนกระบวนการนั้น ทางราชการมีหน้าที่ที่ต้องเปิดเผยออกมาว่า ถึงไหนแล้ว แต่จะไม่ขอตอบว่า แกนนำคนเสื้อแดง จะเป็นคนไปทวงถามเรื่องนี้เองหรือไม่

"เพราะหากตอบว่า ใช่ ก็จะไปพาดหัวกันอีกว่า คนเสื้อแดงลุย แต่เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องชี้แจงกับประชาชน" นายณัฐวุฒิ กล่าว
......................................................................................................................................................................

ไม่สนับสนุนคับ การต่อสู้ไม่ใช่การร้องขอ....สมัยคณะราษฎ์ก็มีบทเรียนมาแล้วเรื่องแบบนี้ พี่น้องอย่าตามกระแส คิดทบทวนจากประวัติศาสตร์คับ...การที่เห็นต่างเพราะต้องการให้ฉุกคิด แม้แต่ อ.สุรชัย แซ่ด่านก็ยังเคยกล่าวถึงเรื่องการถวายอีกาขออภัยโทษ เท่ากับการยอมรับว่าทักษิณผิดนะคับ

อีกาคือจุดเริ่มของการฆ่า ยังจะกลับไปจุดเริ่มของการฆ่าอีก  จะพามวลชนไปตาย(กราบ)อีก ผมว่ามันกำลังพ่ายแพ้ประชาชน  พี่น้องทุกท่านก็มีประสบการณ์เรื่องอีกาแล้ว น่าจะเข้าใจนะคับ ต้องกดดันแกนนำ นปช.ไม่ให้ทำแบบนี้ พี่น้องก้าวหน้าทุกท่านช่วยกันนะคับ...