มาตรา 112 กฎหมายป่าเถื่อน
โดย สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
จาก โลกวันนี้วันสุข ฉบับที่๓๘๕ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
จาก โลกวันนี้วันสุข ฉบับที่๓๘๕ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษาคดีทิ่นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง เป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา ๑๑๒ (กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ)และความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ”ยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือ ไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย” คุณสุรภักดิ์จึงได้รับอิสรภาพในวันเย็นนั้นเอง
คดีนี้ ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ เจ้าพนักงานชุดจับกุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในชุดนอกเครื่องแบบประมาณ ๑๐ คน ได้บุกเข้าจับกุมนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง วัย ๔๐ ปี โปรแกรมเมอร์อิสระ ชาวจังหวัดบึงกาฬ ที่ห้องพักในซอยมหาดไทย ลาดพร้าว โดยกล่าวหาว่า คุณสุรภักดิ์กระทำความผิด เพราะเป็นเจ้าของเฟซบุคชื่อ “เราจะปกครองแผ่นดินโดยทำรัฐประหาร” ซึ่งมีการโพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทางการตำรวจได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์แบบพกพา คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แอร์การ์ด รวมทั้งแผ่นซีดีไปด้วย กรณีนี้ เป็นการจับกุมผู้ต้องหากรณี ๑๑๒ เป็นคดีที่สองในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากคดีนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หลังการจับกุม ได้มีการอ้างจากกลุ่มล่าแม่มดทางคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชื่อ “เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” ;ว่าเป็นผู้ข้อมูลแจ้งความให้เกิดการจับกุม จากนั้น ได้โพสต์ข้อความในสนทนาการเมืองเสรีไทยว่า “วันนี้สิ่งที่สังคมต้องเรียนรู้ให้เท่าทัน ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ไม่เคยส่งผลทำร้ายประชาชนคนไทยที่เป็นปกติชนเลย แต่กฎหมายนี้จะบังคับใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีบุคคล กลุ่มคน ที่มีจิตใจ มีพฤติกรรมในการหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่เราเคยได้รับแจ้งมา ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อภาพที่ไม่เหมาะสม การเผยแพร่คลิปเสียงที่ เป็นข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนมาเผยแพร่ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กฎหมายมาตรานี้จึงจะมีผลบังคับใช้ ฉะนั้นแล้วก็อย่ามาโอดครวญ จงก้มหน้ายอมรับโทษกับผลกรรมที่ตัวเองได้ทำไว้”