ถ้าไม่สร้างพรรคฝ่ายซ้ายในไทย การเมืองจะวนเวียนอยู่ในอ่างน้ำเน่าต่อไป
พรรคจะต้องเป็นแหล่งรวมของประสบการณ์และทฤษฎีการต่อสู้
แหล่งรวมของนักเคลื่อนไหวไฟแรง
และเป็นเครื่องมือในการประสานงานและปลุกระดมการต่อสู้ในหมู่กรรมาชีพและคนจน
โดย ลั่นทมขาว
ทุก วันนี้การจัดตั้งของทหาร การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย บวกกับการคุมมวลชนของ นปช. ให้คล้อยตามการปรองดองของเพื่อไทย ทำลายการต่อสู้ของเสื้อแดงที่ต้องการมากกว่านั้น สาเหตุหลักคือเราไม่มีพรรคฝ่ายซ้ายของเราเองที่จะช่วงชิงมวลชนจาก นปช. และเพื่อไทย เพราะคนก้าวหน้าในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงหรือนักสหภาพแรงงาน ไม่สนใจและไม่เข้าใจความสำคัญของการสร้างพรรค
ในยุคหลังป่าแตก สมัยรัฐบาลแปรม อดีตนักต่อสู้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จะผิดหวังกับ พคท. และหันหลังให้การสร้างพรรค ส่วนหนึ่งกลายเป็น เอ็นจีโอ แล้วการเมืองก็ลื่นไหลไปสู่การจับมือกับพันธมิตรฟาสซิสต์เพราะไม่ให้ความ สำคัญกับการวิเคราะห์การเมืองและการต่อสู้กับอำนาจรัฐ
แต่หลายปีผ่านไปแล้ว ข้ออ้างเรื่อง พคท. เพื่อปฏิเสธการสร้างพรรคและเน้นเครือข่ายหลวมๆ ตอนนี้ฟังไม่ขึ้น มันกลายเป็นเรื่องของ “ความเคยชินในการทำงาน” หรือ “การหวงความเป็นใหญ่หรือความอิสระของตนเองในกลุ่มเล็กๆ” มากกว่าอะไรอื่น และในขณะที่นักเคลื่อนไหวพูดในนามธรรมว่า “ควรสร้างพรรค” แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อให้เกิดขึ้น ผลคือการหักหลังขบวนการเสื้อแดงโดยเพื่อไทย ทักษิณ และ นปช. และในเมื่อขบวนการเสื้อแดงเคยเป็นขบวนการมวลชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติ ศาสตร์ไทย เราต้องสรุปว่าเป็นการเสียโอกาสมหาศาล และเป็นการละเลยภารกิจโดยคนก้าวหน้า
ทำไมต้องสร้างพรรคในรูปแบบที่เลนินเคยสร้าง?
พรรค สังคมนิยมในรูปแบบของ เลนิน คือพรรคที่อาศัยการจัดตั้งกรรมาชีพ ซึ่งเป็นชนชั้นที่มีอำนาจซ่อนเร้นทางเศรษฐกิจ บวกกับคนหนุ่มสาว และปัญญาชนก้าวหน้า
หลายคนเข้าใจผิดว่าแนวคิดแบบ เลนิน เป็นสิ่งเดียวกันกับแนวคิดแบบ สตาลิน-เหมา ที่ พคท. เคยใช้ แต่ในความเป็นจริงแนวคิดแบบ เลนิน จะเน้นสิทธิเสรีภาพ การเปิดกว้าง และการพัฒนากรรมาชีพและคนอื่นให้นำตนเองจากล่างสู่บนในระดับสากลเป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดมาร์คซิสต์เดิม ในขณะที่แนว สตาลิน เน้นเผด็จการจากบนลงล่างและการยอมจำนนต่อความสามัคคีระหว่างชนชั้นเพื่อ พัฒนาความเป็นชาติ ตัวอย่างที่ดีที่สุดของแนวสตาลินในไทยในยุคปัจจุบัน คือการนำของ อ.ธิดา และแกนนำอื่นๆ ของ นปช.