หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตย มีความเห็นว่า

คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตย มีความเห็นว่า





การ ให้มีนายกฯ คนกลาง ของชนชั้นนำ
ไม่ก่อประโยชน์ใดใด กับ ประชาชน และผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ในแผ่นดินนี้
เนื่องจาก...ขัดหลักการประชาธิปไตยและฉันทามติของมหาชน
และมีความเห็นเพิ่มเติม ว่า...

๑.รัฐบาลรักษาการ มิควรทรยศ ต่อ ฉันทามติมหาชน

๒.การต่อสู้ตามแนวทาง หลักการและอุดมการณ์ 
ประชาธิปไตย...เท่านั้นที่รัฐบาลรักษาการจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน

๓.ถ้าชนชั้นนำและรัฐบาลรักษาการ...คิดเอาเองว่า...เงินซื้อได้ทุกอย่าง...มีอำนาจก็จะบังคับได้ทุกอย่าง...แนะนำว่า...คิดผิดอย่างร้ายแรง...เพราะ...เป็นความคิดที่ไม่เข้าใจว่าประชาชนและผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ต้องการอะไร และเขาสู้เพื่ออะไร?

๔.การปฏิรูป ต้อง ดำเนินการในกระบวนการประชาธิปไตยและการทำประชามติ ประชาพิจารณ์

โจรครองเมือง " ทหารของพระราชา "

โจรครองเมือง " ทหารของพระราชา "

 

 
 

กปปส.เดินหน้าชุมนุมต่อ ระบุการขอคืนพื้นที่ของ ศรส. ไม่ส่งผลกระทบ
http://www.prachatai.com/journal/2014/02/51796 

คอร์รัปชั่นกับประชาธิปไตย

คอร์รัปชั่นกับประชาธิปไตย 


 

พวกอันธพาลชนชั้นกลางของสุเทพ ชอบเห่าหอนเรื่องคอร์รับชั่น แล้วนำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการทำลายประชาธิปไตย

แต่การที่สังคมมีหรือไม่มีการคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องของระดับประชาธิปไตยและระดับอำนาจของประชาชนที่จะปกครองตนเอง 

ทหารไทยเป็นผู้นำร่องในการกินบ้านกินเมือง ตั้งแต่สมัย จอมพลป. พิบูลสงคราม จอมพลผิน ชุณหะวัณ และพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ และมาพัฒนาเต็มรูปแบบภายใต้ “จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอก” สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ “จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ” ถนอม กิตติขจร กับ จอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่สำคัญคือเขาสามารถทำได้เพราะเคยใช้ความรุนแรงในการยึดอำนาจผ่านรัฐประหาร เผด็จการทหารไทยคือมหาโจรนั้นเอง แต่ม็อบสุเทพรักทหารเหลือเกิน! ทุกวันนี้มีประเพณีอันเลวทรามของทหาร ที่นั่งตำแหน่งคุมสื่อ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อมีอำนาจในการกอบโกยเต็มที่

ผู้นำและรัฐมนตรีทุกคนในไทย ที่ได้ตำแหน่งจากการทำรัฐประหาร แล้วรับเงินเดือนสูงๆ ต้องถือว่าคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเป็น อภิสิทธิ์ หรือ สุเทพ     ยิ่งกว่านั้นเวลาประชาชนพยายามเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งต้องถือว่าเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการ “ตรวจสอบผู้มีอำนาจ” ฝ่ายที่ยึดอำนาจมาอย่างไม่ชอบธรรมในไทยก็ไม่ลังเลใจในการฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น พอฆ่าแล้ว “เครือข่ายคอรัปชั่น” ของชนชั้นปกครองไทยก็มาฮั้วกันเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างฟอกตัวนิรโทษกรรมซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ

การที่สังคมไทยมีหลายส่วนที่ปกปิดไว้ด้วยกฏหมายเผด็จการชนิดต่างๆ ย่อมขัดกับหลักพื้นฐานในการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใส

ประเพณีการถือหลายตำแหน่ง และการรับเงินเดือนหรือเบี้ยเลี้ยงจากทุกตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ชนชั้นปกครองผูกขาดไว้ผ่านอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะประชาชนไม่สามารถเข้าไปห้ามได้ บ่อยครั้งมีการแต่งตั้งกันเองในหมู่เพื่อนฟูงผู้มีอำนาจ เช่นในองค์กร “อิสระ”

ถ้าเราจะกำจัดคอรัปชั่นในไทย มันมีหลายก้าวสำคัญที่เราสามารถทำได้ เราต้องนำคนที่เคยทำรัฐประหาร คนที่ได้ดิบได้ดีจากรัฐประหาร และคนที่ฆ่าประชาชนมือเปล่า มาลงโทษ เราต้องยกเลิกกฏหมายเผด็จการเช่น 112 หรือกฏหมายคอมพิวเตอร์ และกฏหมายที่คุ้มครองไม่ให้เราวิจารณ์ศาล แต่ถ้าจะทำสิ่งเหล่านี้คนธรรมดาต้องมีอำนาจมากขึ้น เพราะการเพิ่มอำนาจของประชาชนคือวิธีเดียวที่จะเริ่มกำจัดการคอร์รัปชั่น แต่ม็อบสุเทพและพรรคพวกเกลียดชังและดูถูกประชาชนธรรมดาอย่างเป็นระบบ

อย่าไปหลงเชื่อว่าชนชั้นกลางควรมีบทบาทสูงในการปราบคอร์รับชั่น เพราะเวลาคนชั้นกลางคัดค้านการคอร์รัปชั่น เขาแค่ไม่พอใจที่ตนเองและพรรคพวกไม่มีโอกาสไปร่วมกินด้วยกับคนที่มีอำนาจ และเขาเลือกปฏิบัติในการวิจารณ์การโกงกิน อย่างที่เราเห็นในกรณีสลิ่มที่ด่าการคอร์รัปชั่นของทักษิณ แต่เชิดชูรัฐประหารและไม่กล่าวถึงการโกงกินของทหาร 

พูดง่ายๆ เส้นทางที่จะนำไปสู่การกำจัดการคอร์รัปชั่นในสังคมคือ การเพิ่มอำนาจ ความมั่นใจ และการจัดตั้ง ในหมู่ชนชั้นกรรมาชีพผู้ทำงาน และเกษตรกรคนจน

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2014/02/blog-post_15.html    

ตอนผู้รับเหมาช่วงปฏิรูปประเทศไทย!!!

ตอนผู้รับเหมาช่วงปฏิรูปประเทศไทย!!!



     

ดร.ประแสง มงคลศิริ นปช.แถลงข่าว 14-2-2014
ดร.ประแสง นปช.แถลงข่าว 13-2-2014
ดร.ประแสง มงคลศิริ นปช. แถลงข่าว 12-2-2014
http://www.youtube.com/watch?v=49xRhTgNVw8

กลับมาดูโครงการจำนำข้าวอีกครั้ง

กลับมาดูโครงการจำนำข้าวอีกครั้ง 


 
การ นำภาษีของสังคมมาอุดหนุนโครงการบางอย่าง เพื่อเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนโดยเฉพาะคนจน เป็นเรื่องที่ชอบธรรม ยิ่งในสังคมไทยที่มีความเหลื่อมล้ำมากระหว่างคนรวยกับคนจน ยิ่งสมควรทำมากขึ้นอีก ชาวนาเป็นกลุ่มที่ยากจนกลุ่มแรกๆ ในสังคมไทยที่ถูกละเลยมาต่อเนื่อง

โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะมีคอรัปชั่นในบางขั้นตอนเช่นการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ หรือการขายข้าวราคาถูกมากๆ ให้กับนายทุนเอาไปขายต่อในราคาเดิม 

ส่วนคนที่คัดค้านในโครงการนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกเสรีนิยมกลไกตลาด เช่น TDRI ที่มักจะหยิบประเด็นการขาดทุนของโครงการมาแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าถึงที่สุดแล้วรัฐบาลอาจจะเป็นหนี้มากขึ้น หรือรัฐบาลอาจจะถังแตกได้ จากการเอาเงินมาอุดหนุนชาวนา

จุดยืนของประชาธิปัตย์และสุเทพก็ไม่ต่างจาก TDRI ซึ่งแสดงว่าม็อบสุเทพที่กำลังสร้างภาพจอมปลอมตอนนี้ว่าเป็น “มิตรชาวนา” ก็เป็นแค่การฉวยโอกาสอย่างหน้าด้าน

ยิ่งกว่านั้นม็อบประชาธิปัตย์ของสุเทพ มีส่วนสำคัญในการทำให้รัฐบาลยุบสภาและการเลือกตั้งติดคัด ซึ่งเป็นผลให้ชาวนาไม่ได้รับเงินจากโครงการ

การที่กลุ่มชาวนาไม่ออกมาพูดเรื่องนี้อย่างชัดเจน แสดงว่าพวกเขาอ่อนหัดทางการเมือง หรือสนใจแต่เรื่องตนเองแบบ “ประเด็นเดียว” แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเขาไม่เดือดร้อนจริง อย่างไรก็ตามเขาควรออกมาวิจารณ์การฉวยโอกาสของประชาธิปัตย์ในขณะที่ประท้วงเรียกร้องเงินที่ขาดหายไป

พวกเสรีนิยมอย่างประชาธิปัตย์และ TDRI มักมองว่ารัฐไม่ควรเอาเงินภาษีไปอุดหนุนโครงการต่างๆ ที่ก่อประโยชน์ให้กับคนในสังคมโดยเฉพาะคนจน แต่ถ้าเอาไปอุดหนุนคนรวยหรือกองทัพสามารถทำได้ 

Valentine's Day 2014

Valentine's Day 2014


 
Thammasak Art/Love story Valentine day/Music:Mozart
http://www.youtube.com/watch?v=qyiEhpw7-co&feature=share 

เรื่องของ "นายกฯคนกลาง"

เรื่องของ "นายกฯคนกลาง"


 

ในระยะนี้ เรื่องของ "นายกฯคนกลาง" ที่นักวิชาการหรือกลุ่มพลังทางการเมืองบางกลุ่มยังฝันและเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ สำหรับผมแล้วเรื่องของนายกฯคนกลางนั้นเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาในหลายมิติ

อาทิ เรื่องที่ว่านายกฯคนกลางนั้นควรจะเป็นใคร และสอง (ซึ่งผมว่าสำคัญกว่า) ก็คือ เงื่อนไขอะไรจะทำให้เกิดนายกฯคนกลางได้ และสาม การมีนายกฯคนกลางนั้นจะทำให้เราสูญเสียอะไรหรือได้อะไรบ้างท่ามกลางการดำเนินไปของการเมืองในวันนี้

เรื่องที่ว่านายกฯคนกลางควรจะเป็นใครนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเหมือนนิยายสืบสวนสอบสวนอยู่มิใช่น้อย เพราะเท่าที่ย้อนกลับไปพิจารณาเรื่องของนายกฯคนกลางในประวัติศาสตร์ไทยนั้น ก็จะพบว่านายกฯคนกลางนั้นอาจจะมีที่มาและความยึดโยงกับสถาบันต่างๆ ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดน่าจะอยู่ตรงที่ว่านายกฯคนกลางนั้นจะต้องเป็นคนที่ทุกคน "นึกไม่ถึง" (หุหุ)

ในแง่นี้คนที่มักจะถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในการเป็นนายกฯคนกลางนั้นเอาเข้าจริงมักไม่ได้เป็น ส่วนคนที่ได้เป็นนั้นมักจะเป็นคนที่อาจจะไม่ได้เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณะมากที่สุดเสมอไป แต่จะต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากทุกๆ ฝ่ายในระดับหนึ่งเสียมากกว่

การใช้ความรุนแรงและความกลัวปกป้องสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยจะไม่เป็นผลดีต่อสถาบันกษัตริย์เสียเอง

การใช้ความรุนแรงและความกลัวปกป้องสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยจะไม่เป็นผลดีต่อสถาบันกษัตริย์เสียเอง


 

ความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย

สถาบันกษัตริย์มั่นคงอยู่ได้ในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ด้วยกำลังและความหวาดกลัว สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงอยู่ได้ในระบอบประชาธิปไตยด้วยความรักและความศรัทธา ยิ่งปฏิบัติการใดๆของรัฐบาล ของเจ้าหน้าที่ราชการช่วยเสริมความรักและศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์ จะยิ่งทำให้สถาบันพระมหาษัตริย์มั่นคงในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะในระบอบประชาธิปไตย คำตัดสินสุดท้ายคือมติของประชาชน และประชาชนย่อมต้องการรักษาสิ่งที่เขารักและศรัทธา

การใช้กำลังความรุนแรงและความกลัวในความเชื่อของผู้ใช้ว่าปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไปทำลาย หรือไม่เป็นผลดี ต่อความรักและศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณกำลังใช้เครื่องมือผิดงาน ผิดสิ่งที่คุณต้องการจะปกป้อง ผมก็เชื่อว่าคุณทำด้วยความรักและปรารถนาดี ด้วยความจกรักภักอยากจะให้สถาบันมั่นคงในระบอบประชาธิปไตย แต่สถาบันจะอยู่ด้วยการที่คนทั้งหลายจะปกป้องสถาบันไปเที่ยวข่มขู่ คุกคามด้วยกำลังให้คนอื่นกลัวไม่ได้ มันไม่ได้ มันไม่เวิร์ค


อำนาจนำและพระราชอำนาจนำ (Hegemony & Royal Hegemony) เป็นบทสัมภาษณ์ของผมเมื่อหลายปีก่อน แต่คิดว่าอาจเป็นประโยชน์สำหรับช่วยวิเคราะห์ทำความเข้าใจบางแง่มุมของสถานการณ์ปัจจุบัน จึงขอนำเสนออีกครั้งสำหรับผู้ที่สนใจครับ

๑) Hegemony (หมายเหตุสังคม ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ๒๕๕๐) http://downtoearthsocsc.thaigov.net/1/modules.php?name=News&file=article&sid=36

๒) ไขข้อสงสัยใน "พระราชอำนาจนำ" (มติชนออนไลน์ ๒๕๕๕) http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326896257&grpid=06&catid=01

ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย

คณะนิติราษฏร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฏร แถลงข่าว "อำนาจและความรับผิดของ กกต. กรณีกำหนดวันลงคะแนนใหม่ไปเป็นเดือนเมษายน"

คณะนิติราษฏร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฏร แถลงข่าว "อำนาจและความรับผิดของ กกต. กรณีกำหนดวันลงคะแนนใหม่ไปเป็นเดือนเมษายน"
 



คณะนิติราษฏร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฏร แถลงข่าวในประเด็น
"อำนาจและความรับผิดของ กกต. กรณีกำหนดวันลงคะแนนใหม่ไปเป็นเดือนเมษายน"

ตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงมติที่ประชุม กกต. กำหนดวันทดแทนวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในและนอกเขตจังหวัดเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๗ ให้เป็นวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๗ และกำหนดวันทดแทนวันลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ถูกปิดไปในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ให้เป็นวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๗

คณะนิติราษฏร์เห็นว่า การใช้อำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดวันลงคะแนนใหม่ให้เนิ่นช้าออกไปจนถึงเดือนเมษายนนั้น มีประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายหลายประการ ทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อระยะเวลาและการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่และบริหารประเทศแทนประชาชนชาวไทยอย่างมีนัยสำคัญ จึงได้จัดแถลงข่าว เพื่อเสนอความคิดเห็น ต่อกรณีการใช้อำนาจดังกล่าว รวมทั้งความรับผิดทั้งทางกฎหมาย และทางการเมืองของกกต.

ในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา ๑๓.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้อง ๑๒๓ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจร่วมฟัง

รายละเอียดใน 

"ร.ต.อ.เฉลิม" แถลง ฉะ "สุเทพ" เลขาธิการ กปปส. ชุมนุมไม่สงบตามอ้าง พบอาวุธจำนวนมากในม็อบ

"ร.ต.อ.เฉลิม" แถลง ฉะ "สุเทพ" เลขาธิการ กปปส. ชุมนุมไม่สงบตามอ้าง พบอาวุธจำนวนมากในม็อบ


 
บช.น. เคลียร์พื้นที่แยกมิสกวัน-สะพานมัฆวานจาก คปท. ด้วยความเรียบร้อย
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2014/02/51783  

"ร.ต.อ.เฉลิม" แถลง ฉะ "สุเทพ" เลขาธิการ กปปส. ชุมนุมไม่สงบตามอ้าง พบอาวุธจำนวนมากในม็อบ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเเรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. แถลงของกลาง อาทิ ปุ๋ยยูเรีย ปลอกกระสุนปืน หัวน๊อต ประทัดยักษ์ ตะปู จำนวนมาก สามารถตรวจยึดได้ภายหลังตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ตั้งแต่แยกมิสกวัน ถึงแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บริเวณด้านหน้าอาคารบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

โดยระบุว่า การเข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมของ ศรส.ในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้ตำรวจปฏิบัติการด้วยความละมุนละม่อม และจากการตรวจพบอาวุธเหล่านี้แสดง ให้เห็นว่าผู้ชุมนุม มีเจตนาแอบแฝง หวังล้มรัฐบาลให้ นายกรัฐมนตรี ลาออก ดังนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จึงควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการเลิกการชุมนุม พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า การชุมนุมไม่ได้เป็นไปด้วยความสงบ และปราศจากอาวุธ ตามที่ นายสุเทพ กล่าวอ้างอีกทั้งอยากให้องค์กรอิสระโดยเฉพาะ ป.ป.ช.เห็นอาวุธต่างๆ ที่ยึดได้ว่าไม่ได้ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ

ส่วนบริเวณพื้นที่ชุมนุม กลุ่มนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. บริเวณเเยกนางเลิ้ง ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ทางตำรวจยังไม่ขอคืนพื้นที่ เนื่องจากผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปยังสถานที่อื่น เพราะหากเข้าพื้นที่โดยไม่มีผู้ชุมนุม เกรงว่า ผู้ชุมนุมจะอ้างว่าทรัพย์สินเสียหายได้

ยิงใส่บ้าน ‘สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล’ หลังกองทัพบกให้ข่าวจ่อจัดการหมิ่นสถาบัน

ยิงใส่บ้าน ‘สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล’ หลังกองทัพบกให้ข่าวจ่อจัดการหมิ่นสถาบัน



แถลงการณ์นิติราษฎร์ ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

12 ก.พ.2557 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพประกอบร่องรอยกระสุนที่กระจกประตูบ้านและรถยนต์ ระบุว่า “เมื่อครู่นี้ มีคนร้าย 2 คนเบุกเข้ามายิงใส่รถและบ้านผม (ทั้งด้วยกระสุนจริงกระสุนยาง) ขว้างก้อนอิฐใส่บ้าน ฯลฯ ขณะผมอยู่ในบ้าน และต่อหน้าเพื่อนบ้านหลายคน” 

(อ่านต่อ)

เป็นชุด จัดเต็ม ขบวนการ คนดี จัดหนัก รัฐบาล

เป็นชุด จัดเต็ม ขบวนการ คนดี จัดหนัก รัฐบาล


น่าสนใจและน่าคิด

น่าคิดว่า ในท่ามกลางความขัดแย้งที่มีคู่กรณีปรากฏชัดเจนอยู่อย่างน้อยสองฝ่าย เสียงเรียกร้องหาความรับผิดชอบพุ่งเป้าปลายหอกเข้าไปที่ฝ่ายเดียว

แม้กระทั่งกติกาก็ยกเว้นให้ได้ เพื่อคนกลาง คนดี การปฏิรูป และการพักร้อน!!??

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวของบุคคลระดับ "ขาใหญ่" สำหรับการเมืองไทยเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

 

เชิญสดับ

เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 6 ก.พ. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังเหตุการณ์ คมช.2549 เปิดแถลงว่า

ตนทำจดหมายเปิดผนึก 6 หน้ากระดาษส่งถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเตือนว่าหากรัฐบาลปัจจุบันยังรักษาการต่อไป สถานการณ์แย่ลงไปอีก

ส่งผลกระทบทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย นักท่องเที่ยวลดลง ความเชื่อมั่นนักลงทุนถึงขีดสุด และอัตราการว่างงานอาจเพิ่มสูงขึ้น

แม้ ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งเมื่อในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้ แต่ยังพบว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ รวมทั้งเรียกความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจได้

นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศควรลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ และเสียสละให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้

นำคนกลางเข้ามาบริหารประเทศแทน เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับและปฏิรูปประเทศร่วมกัน

(อ่านต่อ)