หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"วีรบุรุษสวนกล้วย"ทำอะไรให้คนเวียดนาม และเหตุใดความ(อ)ยุติธรรมจึงตามไล่ล่าเขา

"วีรบุรุษสวนกล้วย"ทำอะไรให้คนเวียดนาม และเหตุใดความ(อ)ยุติธรรมจึงตามไล่ล่าเขา

 


 

มื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเทียนลาง จังหวัดไฮฟอง พร้อมอาวุธครบมือเตรียมเข้าจับกุมสมาชิกครอบครัวตระกูลเวิง โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้เตรียมตอบโต้ด้วยกับระเบิดและปืนสั้นที่ทำขึ้นเอง และเมื่อการปะทะแบบกองโจรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 6 นาย



ตำรวจเข้าปิดล้อมพื้นที่เพาะปลูกของตระกูลเวิง

แต่แทนที่เหตุการณ์นี้จะทำให้พวกเขาตกเป็นเป้าของการประณามจากคนทั่วประเทศ เรื่องราวของเกษตรกรที่พยายามปกป้องที่ดินของตนที่จังหวัดไฮฟอง ผ่านการตอบโต้ด้วยความรุนแรง  กลับทำให้นายโดน วาน เวิง กลายเป็น"ฮีโร่"ระดับประเทศ และก่อให้เกิดกระแสการถกเถียงไปทั่วประเทศถึงประเด็นการเข้ายึดครองที่ดินของทางการอย่างไม่เป็นธรรม



เจ้าหน้าที่ตรวจหากับระเบิด

และแม้ว่านายเวิง และญาติพี่น้องของเขาอีก 3 คน จะยังคงอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลก็เริ่มหันกลับมาพิจารณาการกระทำของเขา  คดีดังกล่าวสร้างความสนใจให้แก่นายกรัฐมนตรีเหงียน เติน สุง กระทั่งสั่งการให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ กระทั่งวานนี้ ผลการสอบสวนเบื้องต้นชี้ว่า การฟ้องขับไล่ครอบครัวเวิง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่ออกคำสั่งให้ขับไล่จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ และเรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นเร่งแก้ไขสัญญาเช่าของครอบครัวเวิงโดยเร็ว

 

(อ่านต่อ) 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328960369&grpid=&catid=06&subcatid=0600

"ธงชัย วินิจจะกูล" สวม "แว่นตาอนาคต 50 ปีข้างหน้า" มองความเปลี่ยนแปลง-ขัดแย้ง-วิปลาศในสังคมไทย

"ธงชัย วินิจจะกูล" สวม "แว่นตาอนาคต 50 ปีข้างหน้า" มองความเปลี่ยนแปลง-ขัดแย้ง-วิปลาศในสังคมไทย

 


thongchai.flv 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=_5veuZWlfHs#! 



เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ประจำคณะประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน สหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “ระบอบสังคมการเมืองที่ขัดฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง” ในรายการสนทนาเพื่อหารายได้สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ตามข้อเสนอของนิติราษฎร์ จัดโดยกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ ปาฐกถาดังกล่าว มีสาระสำคัญบางส่วน ดังนี้

ทุกยุคสมัยมีคนจำนวนหนึ่งที่เกิดก่อนกาล พยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลง แต่กลับถูกทำร้ายแทบไม่ได้ผุดได้เกิด ทว่าอนาคตพิสูจน์ว่าประวัติศาสตร์ยืนอยู่ข้างเขา

ผมเชื่อมั่นว่า นิติราษฎร์และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อแก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) คือผู้เกิดก่อนกาลประเภทนี้ อนาคตจะพิสูจน์ว่าประวัติศาสตร์ของสังคมไทยยืนอยู่ข้างพวกเขา

เคยคิดไหมว่า อีก 50 ปีข้างหน้าประวัติศาสตร์จะบันทึกความขัดแย้งทางการเมืองและความขัดแย้งกรณี มาตรา 112 ในปัจจุบัน ว่าสะท้อนภาพใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยว่าอย่างไร ความรู้และทัศนะในอนาคตจะประเมินและวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ปัจจุบันว่าอย่าง ไร

แม้เราจะบอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ปีนี้ ปีหน้า หรือประมาณ 5-10 ปีข้างหน้า แต่แนวโน้มกระแสความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ของสังคมไทยและของโลกในแง่ระบอบการเมือง (ที่จะเป็นเสรีนิยมมากยิ่งขึ้น) กลับพอจะมองออกได้


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328995441&grpid=01&catid=01&subcatid=0100

สหภาพแรงงานลุกฮืออีก หลังรัฐบาลกรีซประกาศเดินหน้ามาตรการรัดเข็มขัด

สหภาพแรงงานลุกฮืออีก หลังรัฐบาลกรีซประกาศเดินหน้ามาตรการรัดเข็มขัด



สหภาพแรงงานกรีซหยุดงานประท้วงในกรุงเอเธนส์ เพื่อแสดงความไม่พอใจกรณีรัฐบาลกรีซเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่และแผน ปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซที่ถูกกดดันโดย IMF และกลุ่มประเทศ EU

Greece Reels as Government OKs More Austerity Measures 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=F3orZi0sRGA  

ที่มาวีดีโอ: PBSNewsHour



11 ก.พ. 55 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสหภาพแรงงานกรีซได้รวมตัวกันหยุดงานประท้วง 48 ชั่วโมง และรวมตัวกันในกรุงเอเธนส์ เพื่อแสดงความไม่พอใจกรณีรัฐบาลกรีซเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่และแผน ปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซที่ถูกกดดันโดย IMF และกลุ่มประเทศ EU โดยกลุ่มผู้ประท้วงบางส่วนเผายางรถยนต์ และทุบทำลายกระจกร้านค้า กลุ่มผู้ประท้วงบางส่วนได้ขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงใส่ตำรวจปราบจลาจล ด้วย ด้านตำรวจตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม


รัฐบาลกรีซได้ประกาศเตรียมที่จะปรับลดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำลง 20% พร้อมกับปรับลดเงินบำนาญข้าราชการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) ในการอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซครั้งที่ 2 มูลค่า 130 พันล้านยูโร ก่อนที่พันธบัตรรัฐบาลกรีซมูลค่า 14.5 พันล้านยูโร จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 20 มีนาคม 2555 นี้  ทั้งนี้รัฐบาลกรีซกล่าวว่ายังต้องเดินหน้าหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ในรายละเอียดเพิ่มเติมของมาตรการปรับลดเงินบำนาญข้าราชการ ขณะที่รัฐมนตรี 2 คนในรัฐบาลผสมของกรีซได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงมาตรการดังกล่าวแล้วด้วยเช่นกัน

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39209

วิญญาณหลอนของการล้อมสังหาร

วิญญาณหลอนของการล้อมสังหาร

 

 

เมื่อนั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นโพธิ์ใหญ่แสนร่มเย็นในมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์กลางกรุงเทพมหานครอันเก่าแก่ ยากยิ่งที่จะจินตนาการถึงภาพความรุนแรงชวนคลื่นไส้ที่แทบจะกลืนกินทั้งธรรม ศาสตร์ในปี 1976 ปีซึ่งผมเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองโกลกาต้า

เทียบกับปัจจุบันแล้ว เวลานั้นแทบจะเป็นอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ สงครามเวียดนามพึ่งจบสิ้นลง แต่สงครามเย็นยังคงร้อนระอุ ไม่มีอะไรที่อย่างเคเบิ้ลทีวี ในหลายประเทศยังไม่มีแม้แต่ทีวีด้วยซ้ำ เวลานั้นเป็นยุคสมัยของวิทยุ

ในวันที่ 6 ตุลาคมปีดังกล่าว กองกำลังติดอาวุธ ตำรวจ และ กลุ่มผู้ชุมนุมขวาจัดได้บุกเข้าทำร้ายเหล่านักศึกษาฝ่ายซ้ายนับพันอย่างโหด ร้ายป่าเถื่อน ในขณะที่เหล่านักศึกษากำลังชุมนุมประท้วงการกลับมาของถนอม กิตติขจร อดีตผู้นำเผด็จการทหารที่ถูกขับออกนอกประเทศหลังการลุกฮือขึ้นต่อต้านใน เหตุการณ์ 14 ตุลา เมื่อปี 1973

คุณสามารถหาดูคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ในวันนั้นได้ไม่ยากทางอินเตอร์เน็ต  ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการคือ 46 คน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงนั้นเป็นที่สงสัยว่าอาจจะมากกว่านั้นกว่า เท่าตัว การประกาศนิรโทษกรรมอย่างทั่วไปทำให้ไม่มีการจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดมาลงโทษ

บรรยากาศในวันนั้นที่เหล่านักศึกษาถูกยิง ทุบตี กระทืบ ลากไปกับพื้นสนามหลวง และ แขวนคอบนต้นไม้ โดยมีกลุ่มคนโห่ร้องสนับสนุน แม้แต่พาเด็กเล็กมายืนชมอย่างเพลิดเพลิน อันเป็นผลมาจากการปลุกระดมโดยแกนนำฝ่ายขวากล่าวหาว่าเหล่านักศึกษาต้องการ ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ บรรยากาศน่าหวาดหวั่นของช่วงเวลาอำมหิตนั้นได้กลับมาอีกครั้ง

ณ วันนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้กลับมาเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งอีกครั้ง กลุ่มอาจารย์กฎหมาย 7 คนซึ่งเรียกตัวเองว่า “นิติราษฎร์” หรือ “นิติศาสตร์เพื่อราษฎร” ได้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112  หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย นอกจากนี้ยังเสนอว่าในอนาคตพระมหากษัตริย์ควรจะต้องสาบานตนว่าจะรักษารัฐ ธรรมนูญก่อนขึ้นรับตำแหน่งเพื่อป้องกันมิให้การรับรองคณะรัฐประหารเกิดขึ้น

ข้อเสนอของนิติราษฎร์นี้นำมาสู่การโต้เถียงอย่างดุเดือด แม้ประเทศไทยจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐ ธรรมนูญภายหลังจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1932 แล้ว แต่อย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งมีพระชนมายุกว่า 84 พรรษานั้น ได้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจสูงสุดของประเทศ และ อาจเรียกได้ว่าในรัชสมัยของพระองค์ราชวงศ์จักรีรุ่งเรืองเป็นที่สุด 

แม้ว่าสถาบันกษัตริย์จะอยู่เหนือการเมืองอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงการถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบันฯยังเป็นอาวุธทาง การเมืองที่ร้ายแรงของกลุ่มอำนาจต่างๆ รวมทั้งพรรคการเมือง และ กองทัพซึ่งมีรากฐานความจงรักภักดีมิใช่ต่อรัฐบาลพลเรือน แต่เป็นสถาบันกษัตริย์

ในวันที่ 30 มกราคม สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ทำการห้ามกลุ่มนิติราษฎร์ไม่ให้จัดการ รณรงค์เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ด้วยกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายขึ้นถ้ายังให้ดำเนินการต่อ จากวันนั้นภายในธรรมศาสตร์ได้มีการชุมนุมประท้วงเล็กน้อยทั้งจากฝ่ายที่สนับ สนุน และ ต่อต้านนิติราษฎร์ หลายวันถัดมาอธิการบดีจึงต้องยอมถอยครึ่งก้าวโดยกล่าวว่าถ้าเป็นการเสวนาทาง วิชาการสามารถจัดได้

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกผู้ทรงอิทธิพลได้แสดงตัวชัดเจนว่าคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์ โดยเตือนให้รีบยุติการรณรงค์โดยเร็ว ในสัปดาห์นี้ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ. สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ก็ได้ตบเท้าออกมาค้านนิติราษฎร์ด้วยว่า “ทุกกองทัพได้จับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดหวั่นว่าอาจกระทบ ต่อความมั่นคงของชาติ ผมเห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่ว่าการรณรงค์นี้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรเลย”

ไม่ชัดเจนว่าเขาได้ใช้หลักการอะไรมาสรุปว่าคน “ส่วนใหญ่” เห็นว่าเป็นการรณรงค์ที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเท่าที่ทราบยังเคยมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหรือประชามติอย่าง แท้จริงในประเด็นนี้

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39215

รายงานเสวนา สถาบันกษัตริย์ กับสังคมประชาธิปไตย

รายงานเสวนา สถาบันกษัตริย์ กับสังคมประชาธิปไตย

มุมมองจากพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เวียงรัฐ เนติโพธิ์ และสุรพศ ทวีศักดิ์ กรณีสถาบันกษัตริย์กับอุดมการณ์ประชาธิปไตยผ่านการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ กับสมบูรณาญาสิทธิราชย์, ศาสนาพุทธ และ ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านของจักรพรรดิญี่ปุ่น

วันที่ 11 ก.พ. 2555 กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญจัดงานปาฐกถาและเสวนา เพื่อหารายได้สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ตามข้อเสนอนิติราษฎร์ โดย ช่วงแรกเป็นการปาฐกถาเรื่อง “ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง โดย ธงชัย วินิจจะกูล

และช่วงต่อมาคือ สถาบันกษัตริย์กับสังคมประชาธิปไตย โดย เวียงรัฐ เนติโพธิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สุรพศ ทวีศักดิ์-นักปรัชญาชายขอบ และพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์: อำนาจเหนือโลก VS อำนาจที่มาจากประชาชน


โดยพิชิตกล่าวเปรียบเทียบตำแหน่งแห่งที่ ของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย กับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ว่าในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จุดศูนย์กลางก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่สถาบันพระมหากษัตริย์มาสูอำนาจได้โดยอ้างอำนาจเหนือโลก อ้างสิทธิในการปกครองไพร่ฟ้าทั้งหลายโดยอ้างอำนาจเหนือโลกราษฎรจะชอบหรือไม่ นั้นเป็นสิ่งไม่จำเป็น องค์พระหากษัตริย์นั้นสัมบูรณ์ เป็น Absolute Monarchy กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จึงเป็นต้นกำเนิดของกฎหมาย เป็นจอมทัพ เป็นสิ่งเดียวกับความเป็นชาติหรือรัฐ ราษฎรที่ถูกปกครองเรียกว่า Subject หรือไพร่ มีความสัมพันธ์กันสองทาง คือ ทางหนึ่งพระมหากษัตริย์ผูกพันว่าจะให้แกราษฎรด้วยความเมตตา-Grace ขณะที่ราษฎรก็ต้องตอบแทนด้วย Royalty คือ ความจงรักภักดี

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39218

อ่านปาฐกถา "ธงชัย วินิจจะกูล: ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง" ฉบับเต็มที่นี่

อ่านปาฐกถา "ธงชัย วินิจจะกูล: ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง" ฉบับเต็มที่นี่

 

อ่านปาฐกถา "ธงชัย วินิจจะกูล: ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง" ฉบับเต็มที่นี่

 

ปาฐกถาของ “ธงชัย วินิจจะกูล” ในงานเสวนาซึ่งจัดโดยกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ “เคยคิดไหมว่า อีก 50 ปีข้างหน้าประวัติศาสตร์จะบันทึกความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันอย่างไร จะบันทึกความขัดแย้งกรณีมาตรา 112 ว่าสะท้อนภาพใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยอย่างไร ประวัติศาสตร์จะมองย้อนกลับมาแล้วประเมินและวิเคราะห์ปัจจุบันจากความรู้และ ทัศนะของอนาคตอย่างไร”

หมายเหตุ: เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) ธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยวิสคอลซิล เมดิสัน สหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “ระบอบสังคมการเมืองที่ขัดฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง” ในรายการสนทนาซึ่งจัดโดยกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ เพื่อหารายได้สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ตามข้อเสนอของนิติราษฎร์ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนิน โดยมีรายละเอียดของการปาฐกถาดังนี้

 

(อ่านต่อ)

http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39214

คุณทักษิณ ถ้าไม่ลำบากนักช่วยอธิบายเรื่องนี้หน่อย

คุณทักษิณ ถ้าไม่ลำบากนักช่วยอธิบายเรื่องนี้หน่อย


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประท้วงป๋าเปรมบ้าน4เสา นปก 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=dz2HDuz7FYA

บรรยากาศหน้าเวที ทักษิณแฉเปรม ๒๗ มีนา ๕๒

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=C9LX_-B4IfI  

5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก นปก.บุกสี่เสาไล่เปรม
( 22 กรกฎาคม 2550 , บ้านสี่เสา เทเวศร์ ) แนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการ หรือ นปก.ในยุคที่ยังใส่เสื้อเหลือง เคลื่อนขบวนไปขับไล่พล.อ.เปรม พ้นตำแหน่งประธานองคมนตรีที่หน้าบ้านพักสี่เสา เทเวศร์ จบลงด้วยการถูกปราบปรามและกวาดจับแกนนำไปขังคุก ต่อมาได้รวมตัวใหม่ในนาม นปช.และใช้เสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ โดยมีการกล่าวโจมตีพล.อ.เปรมอย่างต่อเนื่องว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโค่น ล้มทักษิณ

ทักษิณแฉเปรมเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ

( 27 มีนาคม 2552 )ทักษิณ แฉ"ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"ในการชุมนุมใหญ่ปี 2552 โดยพุ่งเป้าชนไปที่พลเอกเปรมอย่างชัดแจ้ง ผลของการชุมนุมหนนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงกรานต์เลือด ปี2552

*******
จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง (............)


(อ่านค่อ)

http://thaienews.blogspot.com/2012/02/blog-post_11.html

ด่วน! หลักฐานแน่นปั๋ง ‘วาทตะวัน’ เปิดโปง ‘ชายชุดดำ’ คือกองกำลัง CIA !!!
...เปิดหลักฐาน พร้อมรายงานเอกสารเฉบับเด็ดของ CIA ที่น่า...ตื่นตาตื่นใจ!!! …


ข่าวลับ-ของลับ!!!
 
content/picdata/348/data/photo6.jpg

มื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ก.พ.55) ผมได้ฟังรายการ ‘เช้าทันโลก’ โดยมี คุณ สังกมา สารวัตร นักข่าวรุ่นคุณป้า ซึ่งตอนนี้ผันตัวไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ
        เธอได้เล่าถึงเรื่อง หน่วยงานข่าวกรองกลางของสหรัฐ (Central Intelligence Agency) หรือ C.I.A. ซึ่งระยะนี้สื่อสีเหลือง ASTV ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ตั้งข้อสงสัยว่า
        เข้าแทรกแซง กิจการต่างๆในประเทศไทย หรือเปล่า!?

        คุณสังกมาฯได้เอ่ยถึงสื่อมวลชนคนสำคัญ ชื่อนายบ็อบ วู้ดเวิร์ด (Bob Woodward) นักข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ที่มีชื่อเสียง จากการเปิดโปงเบื้องหลังของคดี วอเตอร์เกต (Watergate) ของสหรัฐ ซึ่งคดีดังกล่าว พุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น คือ
        ริชาร์ด นิกสัน

        ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นนักการเมืองมายาวนาน โดนข้อกล่าวหาว่าทุจริต เพราะส่งคนเข้าล้วงความลับของฝ่ายตรงข้าม คือ พรรคดีโมแครต ซึ่งมีที่ทำการอยู่ใน
ตึกชื่อ Water Gate คดีดังกล่าว จึงมีชื่อเรียกขานตามชื่อสถานที่เกิดเหตุ
        ตรงนี้...ต้องเรียนเพิ่มเติมว่า

        บ็อบ วู้ดเวิร์ด ไม่ได้เจาะข่าวเรื่องนี้เพียงลำพัง หากแต่เขายังมีเพื่อนร่วมงาน อีกคนหนึ่งคือ นายคาร์ล เบิร์นสไตน์ (Carl Bernstein) รวมกันเป็นนักข่าวหัวเห็ดสองแรงแข็งขัน ช่วยกันขุดคุ้ย จนได้เบาะแส นำไปสู่การสอบสวนตามกระบวนการ
        ผลการสอบสวนชี้ชัดว่า ประธานาธิบดีนิกสันมีส่วนพัวพันในความผิดดังกล่าว จนต้องลาออกจากตำแหน่งไป อย่างไร้เกียรติที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
        คุณบ๊อบ วูดเวริด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวข้อพาดพิง C.I.A. หลายเล่ม โดยพยายามเปิดโปง การกระทำของหน่วยงานนี้ ว่ามีส่วนดำเนินการในเรื่องร้ายๆ เกี่ยวกับประเทศอื่น
เพราะคุณนักข่าวคนนี้ มีความเชื่ออย่างฝังหัว ว่า

(อ่านต่อ)
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=348

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับบทบาทการลงทุนทางธุรกิจ

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับบทบาทการลงทุนทางธุรกิจ


 

(คลิกดู) 

http://www.mediafire...9431fyqzqy78aw9

รายละเอียดกิจกรรม อดอาหารประท้วง (Free My Dad) ไท ปณิธาน พฤกษาเกษมสุข

รายละเอียดกิจกรรม อดอาหารประท้วง (Free My Dad) ไท ปณิธาน พฤกษาเกษมสุข

 

Posted Image


Posted Image

Posted Image

Posted Image

Posted Image

 

สถานที่ : หน้าศาลอาญา
11-16 กุมภาพันธ์ 2555


เริ่มเวลา 16.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 08.00 น.

รายละเอียดกิจกรรม

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 13.00 น. นัดแถลงข่าวที่รัฐสภา
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 16.00 น. นัดรวมพล
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555 บุคคลสำคัญเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 โกนหัวร่วมกับคนอื่น 12คน
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 10.00 น. ให้ดอกไม้
เวลา 12.30 น. นำไปมอบให้พนักงานของศาล
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 อดอาหารร่วมกับผู้สนใจตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 ไปยื่นหนังสือให้กระทรวงยุติธรรม และเข้าเยี่ยมคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข


ส่วนคุณ สมยศ ได้เดินทางจาก เรือนจำกรุงเทพฯ ตอน 6 โมงเช้าเมื่อวาน
(08-02-55) ไปถึงสงขลา เมื่อเวลา 6 โมงเย็น เพื่อเตรียมขึ้นศาลที่สงขลา
วันจันทร์ (13-02-55) แล้วจึงจะเดินทางกลับ
 


Posted Image

Posted Image

Posted Image
คุณ ส.ศิวรักษ์ มาให้กำลังใจด้วย

Posted Image

Posted Image

Posted Image

Posted Image

ลูกชายสมยศ อดอาหารประท้วง 112 ชั่วโมง

http://www.youtube.com/watch?v=3f9bvhA14-A&feature=player_embedded#!

พรรคร่วมรบ.กรีซ"ผ่าทางตัน"มาตรการรัดเข็มขัดได้แล้ว กลุ่มผู้ประท้วงยังปะทะตำรวจเดือด

พรรคร่วมรบ.กรีซ"ผ่าทางตัน"มาตรการรัดเข็มขัดได้แล้ว กลุ่มผู้ประท้วงยังปะทะตำรวจเดือด

 



Protesters clash with Greek riot police over austerity 

http://www.youtube.com/watch?v=Nm5th5ThgB4&feature=player_embedded 


รัฐสภากรีซมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติข้อตกลงหนี้ที่ได้รับ การเรียกร้องจากกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร (ยูโรโซน) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ 130,000 ล้านยูโร   โดยสำนักนายกรัฐมนตรีกรีซแถลงว่า ที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลมีมติเอกฉันท์ในเช้าวันนี้  ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภากรีซในวันอาทิตย์ และได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซน




ขณะเดียวกัน ตำรวจปราบจลาจลกรีซปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุจลาจล เนื่องจากไม่พอใจมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ที่เกิดขึ้นจากแรงกดดันของกลุ่ม ยูโรโซน โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งร่วมผละงานกับสหภาพแรงงานเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงเข้าใส่ตำรวจปราบจลาจล ระหว่างเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงเอเธนส์ และบางส่วนก่อจลาจลเผายางรถยนต์และทุบทำลายกระจกร้านค้า ขณะที่ตำรวจตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ เพื่อสลายการชุมนุม

ด้านนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส กล่าวเรียกร้องให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากประเทศอาจต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่ควบ คุมไม่ได้ หากข้อตกลงในการลดค่าใช้จ่ายหนี้ไม่เป็นผล และเขาจะไม่ยอมให้ประเทศตกอยู่ในสภาพล้มละลายเด็ดขาด ก่อนหน้านี้ มีรัฐมนตรีกรีซที่ขอลาออกจากประเด็นดังกล่าวแล้วถึง 5 คน โดยนายปาปาเดมอสกล่าวว่า รัฐมนตรีคนใดที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวก็ไม่สมควรอยู่ร่วมคณะรัฐบาล


กลุ่มผู้ประท้วงนัดหยุดงาน เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลกรีซเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่และแผนปฏิรูป เศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐขนานใหญ่ ขณะที่กลุ่มยูโรโซนยื่นคำขาดให้รัฐสภากรีซต้องลงมติรับรองแผนดังกล่าวในวัน อาทิตย์นี้  ทั้งนี้ กรีซต้องการเงินกู้เพิ่มเติมภายใต้วงเงิน 130,000 ล้านยูโร เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดวันที่ 20 มีนาคม โดยในวันนั้นเป็นวันที่พันธบัตรรัฐบาลกรีซครบกำหนดการไถ่ถอนคืน ซึ่งกรีซจะต้องนำเงินไปจ่ายเกือบ 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ล่าสุดรัฐมนตรี 2 ราย ในรัฐบาลผสมได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงแผนดังกล่าว

 

(อ่านต่อ) 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328930180&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ข่าว รัฐประหาร ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ การต่อสู้ 2 กระแส

ข่าว รัฐประหาร ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ การต่อสู้ 2 กระแส 




ทั้งๆ ที่ใกล้กับวันแห่งความรัก วาเลนไทน์ เดย์ ด้านหนึ่ง บรรยากาศแห่งการปรองดอง สมานฉันท์ ก็ปรากฏให้เห็นที่ทำเนียบรัฐบาล

การเดินทางไปของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะประธาน

การเดินทางไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะที่ทหารมีบทบาทโดดเด่นในการช่วยเหลือประชาชน

แต่อีกด้านหนึ่ง ก็มีบรรยากาศแห่งคัดค้าน ต่อต้าน ท่าทีปรองดอง สมานฉันท์

พรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่าการจัดงานด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาทไม่เหมาะสม บางฝ่าย บางกลุ่ม ประเมินว่า การเชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะประธานเท่ากับเป็นการมัดมือชก ไม่เปิดทางให้ปฏิเสธ

เหมือนการจับ "ป๋า" เป็น "ตัวประกัน"
ขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องการรัฐประหารก็กระหึ่มขึ้นนับแต่มีการทำบุญใหญ่ของกลุ่มที่เคยมีส่วนในการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

ขณะเดียวกัน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ก็ประกาศชุมนุมใหญ่ผ่านคอนเสิร์ต "หยุดการรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ"
เสมือนกับว่าหากไม่ต้านรัฐประหาร ก็มิอาจเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญได้
 

ผู้คนมักให้ความสนใจกับการแถลงของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ โดยเฉพาะการอ้างฐานข้อมูลจาก 2 แหล่งสำคัญ

1 ฐานข้อมูลข่าวกรองสหรัฐ

1 ฐานข้อมูลทหารแตงโมที่ยังมีบทบาทอยู่ในกองทัพและทำงานด้านข่าวกรอง

"ในวงวอร์รูมของกลุ่มคนที่จะทำการรัฐประหารเขาได้ปรามาสพลังของประชาชนว่าเขาจะทำการยึดอำนาจให้เสร็จก่อนเดือนเมษายน"
กระทั่งลืมไปว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยก็กล่าวเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

"ฝ่าย ตรงข้ามพยายามจุดชนวนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วโยนบาปมาให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง คนกลุ่มนี้ทำเป็นกระบวนการทั้งนักการเมืองที่สูญเสียอำนาจ กลุ่มทหารที่ไม่ชอบพรรคเพื่อไทย นักวิชาการที่เลือกข้าง จนถึงสื่อมวลชนที่เลือกขั้ว"
ประมวลแล้วจำแนกแยกแยะเป็น 4 กลุ่ม 4 ฝ่าย


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328948979&grpid=01&catid=&subcatid=

"ธงชัย" ชี้112ถูกใช้เป็นเครื่องมือของนักลัทธิกษัตริย์นิยม ระบุนิติราษฎร์ช่วยเสนอทางออก

"ธงชัย" ชี้112ถูกใช้เป็นเครื่องมือของนักลัทธิกษัตริย์นิยม ระบุนิติราษฎร์ช่วยเสนอทางออก

 



ธงชัย วินิจจะกุล ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง

http://www.youtube.com/watch?v=tm11QBz0bVI&feature=g-user-u&context=G2c715f5UCGXQYbcTJ33bl2QA7Ix_f6-bMtBN_GU8CgaMRQs_X5P0 


เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ ได้จัดปาฐกถาในรายการสนทนาเพื่อหารายได้สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ตามข้อเสนอของนิติราษฎร์ โดยนายธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์คณะประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ได้ปาฐกถาในหัวข้อ “ระบอบสังคมการเมืองที่ขัดฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง”



เนื้อหาส่วนหนึ่งของการปาฐกถาระบุว่า นักวิชาการคณะนิติราษฎร์และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อแก้ไขมาตรา 112 คือผู้เกิดก่อนกาล ที่พยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลง แต่กลับถูกทำร้ายแทบไม่ได้ผุดได้เกิด ทว่าอนาคตกลับพิสูจน์ว่าประวัติศาสตร์จะยืนอยู่ข้างพวกเขา


นายธงชัยกล่าว ถึงประเด็นเรื่องกฎหมายอาญาม.112 ว่า ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีการใช้กฎหมายนี้พร่ำเพรื่อนัก และไม่ใช่เครื่องมือบังคับควบคุมความคิดของคน ความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจึงจัดอยู่ที่การหมิ่นประมาท และแทบไม่มีนัยหรือผลกระทบทางการเมือง


แต่กฎหมายหมิ่นฯ เริ่มเป็นอาวุธทรงพลังก็ต่อเมื่อนักลัทธิกษัตริย์นิยมเอากฎหมายมาตราดัง กล่าวมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยสถาปนา “ประชาธิปไตยแบบอำมาตย์” เมื่อช่วง 40 ปีที่ผ่านมา โดยถือว่าความผิดนี้ไม่ใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่เป็น “ภัยต่อความมั่นคงของชาติ”

ส่งผลให้คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตกอยู่ใต้กระบวนการยุติธรรมที่ผิดปกติ เช่นเดียวกับบรรดาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงอื่นๆ ภายใต้ระบอบเผด็จการอันยาวนานของไทย

ความบิดเบี้ยวสำคัญของกระบวนการยุติธรรมที่ผิดปกติ ก็คือ การที่มักถือว่าจำเลยกระทำความผิดร้ายแรงจนกว่าจำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าตน บริสุทธิ์ ดังนั้น จึงมักไม่ให้ประกันตัว และภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับจำเลยแทนที่จะตกอยู่กับฝ่ายโจทก์ นอกจากนี้ การพิสูจน์ความผิดอาญาโดยปกติต้องเคร่งครัด หากไม่ชัดเจนต้องยกประโยชน์ให้จำเลย แต่คดีความมั่นคงมักตีความกฎหมายอย่างกว้างให้ครอบคลุมการกระทำที่ต้องสงสัย แม้ไม่ชัดเจนก็ตาม ซึ่งคดี “อากง” ช่วยอธิบายความผิดปกติเหล่านี้ได้ดี
 
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328970753&grpid=03&catid=&subcatid=

เสียงร่ำร้องจากคุก

เสียงร่ำร้องจากคุก

 

Posted Image 

 

นักโทษ 112 ... รู้สึกสลดมาก ทั้ง โจ หนุ่ม อากง ณัฐ หมี พวกเขาบอกว่าถูกทอดทิ้งและหมดกำลังใจมาก โดยเฉพาะอากงบอกว่า เราไม่ผิดทำไมไม่เชื่อ เขาฝากถึงแกนนำคุณตู่ อ.ธิดา คุณเต้น ก่อแก้วมาว่าช่วยพวเขาออกไปที อย่าเอาพวกเขามาบูชายันต์เลย พวกเขาไม่ใช่แกนนำปล่อยเขาเถอะ ช่วยให้ได้ประกันตัวออกไปเหมือนกี้อริสมันต์ด้วย เพราะพวกเขาไม่มีมวลชนที่จะคิดทำการใดได้ โปรดช่วยเขาที เขาบอกว่าตั้งแต่ย้ายนักโทษ 43 คนไปที่ใหม่ พวกเขาก็ถูกทอดทิ้งไม่มีใครเยี่ยมเขาเลย ฝากช่วยเขาด้วยพวกเขาเข้าใจว่าลืมเขาแล้ว

เมื่อเวลาผ่านไป ในแต่ละวัน ได้เปิดหน้ากากให้ทราบ ว่า "ใครเป็นใคร" กระชาก ความจริง ออกมา ให้ประชาชนได้รับทราบว่า "ใคร" คิดอย่างไร "ใคร"ทำอย่างไร "ใคร" ทรยศ "ใคร"
และ "ใคร" ที่จริงใจ กับการต่อสู้


Posted Image 

แก้ไขปีเป็นปี 55 เพราะพิมพ์ผิด คุณสุรชัยเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากในเรือนจำ  


Posted Image

วาเลนไทน์: เซ็กซ์เสรีและการสงวนตัว กับการปะทะทางวัฒนธรรม

วาเลนไทน์: เซ็กซ์เสรีและการสงวนตัว กับการปะทะทางวัฒนธรรม

 
























ด้วย พระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ ขอความสันติ ความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

14 กุมภาพันธ์ของทุกปีคือ “วันวาเลนไทน์” หรือ “วันแห่งความรัก” วันดังกล่าวได้กลายเป็นวันที่มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับคนหลายๆ คน รวมทั้งวัยรุ่นไทย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ววันวาเลนไทน์มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับเรื่องราว วิถีชีวิต หรือประวัติศาสตร์ของคนไทยน้อยมาก

ความเป็นมาเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ก็เป็นเรื่องค่อนข้างจะคลุมเครือ สืบหาหลักฐานที่แน่นอนไม่ได้มากนัก ได้แต่สันนิษฐานกันไป ไม่มีต้นกำเนิดของเรื่องหรือบันทึกที่ชัดเจนในตำรับตำราหรือหนังสือหลักๆ เรื่องราวเท่าที่สันนิษฐานกันพอสรุปได้ดังนี้

วาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึงนักบุญ เซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ความรัก และความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง แต่สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ 

ซ้ำร้ายภายใต้การปกครองของกษัตริย์ "คลอดิอุสที่ 2" ยังมีการออกกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเลิกนับถือศาสนาคริสต์ และห้ามมีแต่งงานของพวกคริสเตียนอีกต่างหาก

ทว่ายังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" หรือที่ได้รับการยกย่องเป็น เซนต์ วาเลนไทน์ ในภายหลัง คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษทรมาน แสนสาหัสอยู่ในคุก

ในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในคุก ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 พระองค์จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินัส ด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39211

'เจษฎ์ โทณะวณิก' ชี้ประชาชนลงชื่อขอแก้ ม.112 ไม่ได้

'เจษฎ์ โทณะวณิก' ชี้ประชาชนลงชื่อขอแก้ ม.112 ไม่ได้


Posted Image

คณบดีนิติศาสตร์ ม.สยาม ออกโรงแย้งโต้ ประชาชนเข้าชื่อขอแก้ไข ม.112 ไม่ได้ เพราะเข้าหมวด 2 พระมหากษัตริย์ รธน. ม. 163 ไม่เปิดช่องให้ทำได้ แนะการแก้ไข ม. 112  ต้องเสนอในรูปของ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม
 
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 55 ที่ผ่านมาเว็บไซต์คมชัดลึกรายงาน ว่ากรณีการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ซึ่งคณะนิติราษฎร์ อ้างว่า ม. 112 เป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 36 ในหมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน โดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ ม.112 กลับบัญญัติจำกัดสิทธิเสรีภาพในการคิด การเขียน  ดังนั้น จึงสามารถเข้าชื่อประชาชน 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ได้นั้น
 
นายเจษฎ์ โทณะวณิก  คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ระบุว่า กรณี ม. 112 ไม่เหมือนกับการหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป หรือดูหมิ่นเจ้าพนักงานหรือหมิ่นศาล  เพราะ ม.112 มุ่งคุ้มครองประมุขของรัฐ เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และเกี่ยวกับมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ด้วย
 
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39208