หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การขึ้นสู่อำนาจของฟาสซิสต์ เป็นรัฐประหารหรือไม่?

การขึ้นสู่อำนาจของฟาสซิสต์ เป็นรัฐประหารหรือไม่?

 
โดย อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล

ขบวนการของสุเทพและพวก พรรคประชาธิปัตย์ เครือข่ายมหาวิทยาลัย คล้ายกับ การขึ้นสู่อำนาจของฟาสซิสต์และมุสโสลินี

เสนอให้เรียกคนเหล่านี้ว่า พวกเผด็จการฟาสซิสต์ ครับ
มี การประเมินกันทางประวัติศาสตร์และกฎหมายรัฐธรรมนูญว่า การเดินเท้าเข้าสู่กรุงโรมของกองกำลังชุดดำ และการแต่งตั้งมุสโสลินีเป็นนายกรัฐมนตรี ในปี ๑๙๒๒ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นสู่อำนาจของฟาสซิสต์ เป็นรัฐประหารหรือไม่?

ฝ่ายหนึ่ง เห็นว่าเป็น โดยอธิบายว่า กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ ๓ ไม่ยอมลงนามในการประกาศกฎอัยการศึก แต่ให้รัฐบาลพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งมุสโสลินีซึ่งเป็นพรรคเสียงข้างน้อยเป็นนายกรัฐมนตรี

ฝ่ายที่สอง เห็นว่าไม่ถึงขั้นรัฐประหาร แต่เป็นเพียงการใช้กองกำลังปั่นป่วนกดดันเพื่อเป็นรัฐบาล โดยยังไม่เปลี่ยนระบบใดๆ การที่กษัตริย์แต่งตั้งนายกฯจากเสียงข้างน้อย ไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตรงกันหมดว่า กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลสนับสนุนมุสโสลินี (นี่เป็นเหตุผลประการสำคัญที่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ อิตาลีมีการออกเสียงประชามติก่อนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่า จะเป็นสาธารณรัฐหรือมีกษัตริย์ต่อไป ผลปรากฏว่า ร้อยละ ๕๔.๓ เลือกสาธารณรัฐ ร้อยละ ๔๕.๗ เลือกกษัตริย์)

เมื่อกองกำลังชุดดำใช้วิธีการ Insurrection จนมุสโสลินีเสียงข้างน้อยได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาก็เริ่มต้นออกมาตรการต่างๆที่ทำให้ฟาสซิสต์รุกคืบเข้าไปในสถาบันการ เมืองทั้งหลาย

เริ่มจาก กฎหมาย Acerbo ในวันที่ ๑๘ พ.ย.๑๙๒๓ ที่ส่งผลให้ฟาสซิสต์ได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้น

ตามมาด้วยกฎหมาย ๒๔ ธันวาคม ๑๙๒๕ และกฎหมาย ๓๑ มกราคม ๑๙๒๖ ที่ให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารและมุสโสลินีเพิ่มขึ้น

ต่อมา มีการตรากฎหมายวันที่ ๑๗ พ.ค. ๑๙๒๘ เปลี่ยนการได้มาของสภาผู้แทนราษฎร ให้มาจากการแต่งตั้งของสาขาอาชีพต่างๆ

และสุดท้าย ตรากฎหมาย ๙ ธันวาคม ๑๙๒๘ กำหนดให้ คณะกรรมการฟาสซิสต์ เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ

สมควรกล่าวเป็นข้อสังเกตด้วยว่า ตั้งแต่กองทัพชุดดำก่อการ Insurrection จนมุสโสลินีเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อด้วยการออกกฎหมายที่ทำให้มุสโสลินีกลายเป็น Il Duce ผู้เผด็จการและอิตาลีเป็นเผด็จการฟาสซิสต์แบบเบ็ดเสร็จนั้น มีนักกฎหมายรัฐธรรมนูญจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุน อาทิ เช่น Alfredo Rocco ซึ่งต่อมามุสโสลินีตั้งให้เป็น รมต ยุติธรรม Santi Romano ซึ่งต่อมามุสโสลินีตั้งให้เป็นประธานสภาแห่งรัฐ (เทียบเท่าศาลปกครองสูงสุดและคณะกรรมการกฤษฎีกานั่นเอง)

แนวทางของฟาสซิสต์ ภายใต้มันสมองของ Alfredo Rocco และการนำของมุสโสลินี มีหลักพื้นฐาน คือ

๑. ต่อต้านรัฐสภาแบบผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง เน้นอำนาจรวมศูนย์ที่ผู้นำ

๒. ต่อต้านเสรีนิยม ยกเลิกสิทธิและเสรีภาพ

๓. ต่อต้านปัจเจกชนนิยม เน้นการรวมกลุ่มเป็นเอกภาพในนามของชาติ รัฐ หรือสหภาพวิชาชีพ

๔. ชาตินิยม

เก็บความอย่างกระชับจาก Joel Hautebert, "Fascisme et Coup d'Etat", in Le Coup d'Etat. Recours à la force ou dernier mot du politique?, 2007, pp.149-167

หลังยุบสภา เราต้องหันมาให้ความสำคัญกับพรรคของคนชั้นล่าง

หลังยุบสภา เราต้องหันมาให้ความสำคัญกับพรรคของคนชั้นล่าง 


 

ถ้า มองการเมืองผ่านแว่นผลประโยชน์ทางชนชั้น เราจะเห็นสมาคมพ่อค้าออกมาร้อนรน มิได้สนับสนุนม็อบหนักๆ แบบที่เคยเป็น เราเดาได้ว่าชนชั้นนำทั้งชนชั้นกำลังสูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน หากวิกฤตการเมืองยืดเยื้อ

แน่นอนหลายคนโล่งอกในระยะสั้น ที่สถานการณ์ผ่อนคลายลงไปบ้าง หลังการยุบสภา ความชอบธรรมของม็อบก็ลดลงไปเยอะ ถึงแม้อาจจะไม่เลิกม็อบเสียทีเดียว อาจจะต้อแปลงร่างแปลงกาย เพื่อคงความได้เปรียบทางการเมืองไว้ แต่เชื่อหรือไม่ ว่ามีการตกลงยอมความกันแล้วในบรรดาชนชั้นนำ เราจะไม่เห็นการปฏิรูปการเมืองประชาธิปไตย ไปข้างหน้าที่ไกลกว่านี้

ฝ่ายประชาธิปไตย ประสบผลแห่งความพ่ายแพ้อีกครั้ง ไม่ต่างจากปี 53 ข้อดีเดียวคือไม่มีใครต้องตาย กับติดคุกเพิ่ม เราดีใจที่ได้ไปคูหาเลือกตั้ง แต่เราต้องไม่ดีใจล่วงหน้ามากเกินไป เพราะการเข้าคูหาครั้งนี้ จะแตกต่างจากหลังปี 53 เราจะไม่มีตัวเลือกเพื่อผลักดันประชาธิปไตยก้าวหน้า หลงเหลืออยู่แล้ว

พรรคเพื่อไทยกลายเป็นซากศพ ที่ไม่เหลือวิญญานแห่งประชาธิปไตยให้หวัง ตลอดเวลาสองปี พวกเขายินยอมร่วมมือกับกองทัพมือเปลื่อนเลือดมาตลอด สมยอมกันมาตลอด และนี่คืออีกเหตุผล ว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น ยุบสภา เลือกตั้ง คงผลประโยชน์ร่วมของชนชั้นนำไว้เช่นเดิม

หลังยุบสภาประเด็นคือประชาธิปัตย์จะบอยคอดอีกครั้งหรือไม่ และถ้าการเลือกตั้งไปโดยราบรื่น เราก็แค่กลับมาอยู่สภาพเดิม โดยที่พวกมือเปื้อนเลือดจากการฆ่าเสื้อแดงจะไม่ถูกนำมาขึ้นศาล รัฐธรรมนูญทหารกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นักโทษ 112 ติดคุกต่อ และทหารและพรรคพวกยังใช้อำนาจอยู่เบื้องหลัง

เราต้องให้ความสำคัญกับความอ่อนแอทางการเมืองของกรรมาชีพและเกษตกร ซึ่งมีมาตั้งแต่การล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์ มันถึงเวลานานแล้วที่คนส่วนใหญ่ที่เป็นกรรมาชีพคนทำงานและเกษตรกร จะต้องมีพรรคของชนชั้นตนเอง ในยุโรปประชาธิปไตยไม่เคยเกิดจากคนชั้นกลาง คนชั้นกลางยุโรปสนับสนุนฮิตเลอร์และพวกฟาสซิสต์ต่างหาก ขบวนการที่สร้างพื้นที่ประชาธิปไตยอย่างจริงจังในยุโรปคือขบวนการแรงงานและพรรคการเมืองของเขา และถ้าเรามีองค์กรทางการเมืองของคนระดับล่าง แทนที่จะมีแต่พรรคเพื่อไทยของนายทุนใหญ่ เราจะต่อสู้เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยได้ แทนที่จะนั่งแบบมือไม้อ่อนแค่ดูพรรคเพื่อไทยประนีประนอมกับมารเผด็จการ


(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/12/blog-post_9.html  

รัฐบาล “ยุบสภา” ทำถูกแล้วหรือไม่ -ทางออก คือ?

รัฐบาล “ยุบสภา” ทำถูกแล้วหรือไม่ -ทางออก คือ?


โดย เอกชัย ไชยนุวัติ

 
“สุดท้าย ข้อตกลงร่วมกันหรือคุณค่าที่เราเชื่อเหมือนกันหรือไม่ เราเชื่อว่าคนเท่ากันหรือไม่ ถ้าคนเท่ากันมันเดินเข้าไปเลือกตั้ง คุณจะเป็นใครตอนไปเลือกตั้งก็ 1 เสียงเท่ากัน คุณจะใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือคุณจะใส่รองเท้าแตะคุณก็ 1 เสียง ถ้าเชื่อและยอมรับตรงนี้ได้ กติการ่วมกันมันเดินไปได้ 

9.39 น. 9 ธันวาคม 2556 วันเริ่มต้นสงครามครั้งสุดท้ายของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่ประกาศ “ทุบหม้อข้าว” ยกระดับการชุมนุมเคลื่อนพลไป “ทำเนียบรัฐบาล” เพื่อกู่ร้องชัยชนะมวลมหาประชาชน

อย่างไรก็ตามระหว่างมวลมหาประชาชนกำลัง กรีฑาทัพสู่ทำเนียบ ในช่วงสายวันเดียวกัน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ตัดสินใจขอพระราชทานทูลเกล้าถวายร่างพระราชกฤษฎีกาสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556 เพื่อ “ยุบสภา” หวังป้องกันการเกิดเหตุรุนแรงจนเกิดความสูญเสีย โดยจะจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด โดยขณะนี้คณะรัฐมนตรีจะอยู่ “รักษาการ” แทนไปก่อน

ท่ามกลางความงุนงงของหลาย ๆ ฝ่าย กับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ ติดต่อ “เอกชัย ไชยนุวัติ” รองคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หนึ่งในผู้คว่ำหวอดในวงการกฎหมายและการเมือง เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในขณะนี้ว่าจะจบลงเช่น ไร

รัฐบาล “ยุบสภา” ทำถูกแล้วหรือไม่ และ “ทางออก” ตอนนี้ต้องทำอย่างไร

ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้

@ในสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขณะนี้ นายกรัฐมนตรีประกาศ “ยุบสภา” ถือว่าทำถูกต้องแล้วหรือไม่

ผมได้เขียนในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย เสนอให้ยุบสภา แต่มีหลายคนไม่เชื่อบอกว่าต้องกุมอำนาจต่อไป ขณะที่ผมบอกว่าการยุบสภานั้นถือเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชน และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่ามีฝ่ายใดผิด หรือฝ่ายใดถูก และไม่ต้องวิเคราะห์เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือ กปปส. ทำถูกต้องหรือไม่ แต่การคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย สามารถทำได้ไม่แปลกอะไร

@จะเกิดสถานการณ์อะไรต่อไป หลังรัฐบาลยุบสภา แต่ กปปส. ยังไม่ยอมหยุด

ต้องบอกว่าตอนนี้มีกลุ่มใหญ่ ๆ 2 ฝ่ายคือ 1.ฝ่ายที่ต้องการเลือกตั้ง กับ 2.ฝ่ายที่ไม่ต้องการเลือกตั้ง

1.ฝ่ายที่ต้องการเลือกตั้ง แน่นอน เป็นฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ 2.ฝ่ายที่ไม่ต้องการเลือกตั้งคือ ฝ่ายกลุ่มคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) และกลุ่มอื่น ๆ ที่ต้องการเสนอ “นายกฯพระราชทาน” ตาม “ม.7” ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มันทำไม่ได้ เพราะนายกฯต้องมาจาก “ตัวแทนของประชาชน” ตามเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ ที่เขียนไว้ใน “ม.171” ซึ่งระบุว่า นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. ที่เป็นผู้แทนของประชาชน

ดังนั้นถ้ายึดตามเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ คุณไม่สามารถทูลขอนายกฯพระราชทานมาได้ แต่ก็มีคนที่ไม่ยึดเจตนารมย์อย่าง คุณสมคิด (เลิศไพฑูรย์) อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ และคุณสุรพล (นิติไกรพจน์) อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญปฏิรูปการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2549 ทั้งที่ 2 คนนี้เป็นผู้เขียนรัฐธรรมนูญปี 2550 ขึ้นมา

@”สภาประชาชน” จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

เกิดขึ้นได้จริง ถ้ามีการเลือกตั้งตามระบบ อย่างไรก็ตามการกระทำตอนนี้ของคุณสุเทพ มันไม่มีในฐานกฎหมาย และถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจ มันก็ทำไม่ได้ ซึ่งอันนี้เป็นข้อแรกที่ต้องประชาชนทุกคนต้องเข้าใจ ดังนั้นสภาประชาชนจึงทำไม่ได้ตามกฎหมาย เป็นได้แค่เพียงโวหาร

ผมเสนอให้คุณสุเทพ เสนอหัวข้อสภาประชาชนเข้าไปสู่ระบอบการเลือกตั้ง แล้วก็ให้ประชาชนเลือกเข้ามา หลังจากนั้นก็ตั้งสภาประชาชน ซึ่งถ้าเรายังเชื่อในระบอบประชาธิปไตย เราต้องทำอย่างนี้

@”ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” ที่คุณสุเทพกล่าวบ่อยครั้ง มันคืออะไร และเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่

มันไม่มีจริงหรอก ไม่มีประชาธิปไตยที่ไหนสมบูรณ์ ถ้าพูดในภาษาอังกฤษมันหมายถึง Dynamic คือต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา และปรับตามความต้องการของประชาชน

สมมติ รัฐธรรมนูญฉบับหน้า เขียนว่า ส.ว. ต้องมาจากการลากตั้งทั้งหมด ก็ต้องทำตามที่ประชาชนต้องการ เพราะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ถ้าจะบอกว่าอย่างนั้นก็เป็นประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์ ก็ไม่ได้ เพราะมันไม่มี มันเป็นการเรียกร้องของประชาชนในแต่ละช่วงว่าเขาต้องการอะไร เพราะประชาธิปไตยต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก

“อยู่ที่ความเชื่อว่าคนเราเท่า กันหรือไม่ ถ้าเชื่อว่าเท่ากัน เราก็กลับไปสู่การเลือกตั้ง มี 1 เสียงเท่ากัน แต่ถ้าไม่เชื่อว่าเท่ากัน มันก็จะมีระบบอื่น ๆ ขึ้นมาแสดงให้เห็นว่า เราไม่เชื่อว่าเราเท่ากัน”

@มองการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร หลังจาก ปชป. ลาออกหมดทั้งพรรค

การเลือกตั้งไม่มีครั้งไหนที่บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือทำให้มันบริสุทธิ์มากที่สุด ดังนั้นการไม่ลงเลือกตั้งของ ปชป. เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และเป็นหน้าที่ของพรรคอื่น ๆ ที่ต้องให้ประชาชนเข้าใจ ทำอย่างไรให้ประชาชนเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย

ผมไม่ประณามว่า ปชป. ไม่ลงเลือกตั้ง มันเป็นเรื่องของเขา และเป็นหน้าที่ของพรรคอื่นหาเสียง ให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา

@ปัญหาความขัดแย้งนี้จะจบลงอย่างไร

คนไทยส่วนใหญ่ต้องตกลงกันให้ได้ ว่ากติกาที่เราจะอยู่ด้วยกันคืออะไร 1.เอานายกฯพระราชทานไหม 2.เอาปฏิวัติไหม 3.เราจะเอาเลือกตั้งไหม ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ มันก็ไม่จบ

“สุดท้าย ข้อตกลงร่วมกันหรือคุณค่าที่เราเชื่อเหมือนกันหรือไม่ เราเชื่อว่าคนเท่ากันหรือไม่ ถ้าคนเท่ากันมันเดินเข้าไปเลือกตั้ง คุณจะเป็นใครตอนไปเลือกตั้งก็ 1 เสียงเท่ากัน คุณจะใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือคุณจะใส่รองเท้าแตะคุณก็ 1 เสียง ถ้าเชื่อและยอมรับตรงนี้ได้ กติการ่วมกันมันเดินไปได้”

(ที่มา)
http://www.isranews.org/isranews-article/item/25758-hu.html?fb_action_ids=760268653987532&fb

แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหยุดการเคลื่อนไหวที่ทำลายระบบประชาธิปไตย


แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหยุดการเคลื่อนไหวที่ทำลายระบบประชาธิปไตย 

copyleft 
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหยุดการเคลื่อนไหวที่ทำลายระบบประชาธิปไตย 

แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน "หยุดการเคลื่อนไหวที่ทำลายระบบประชาธิปไต­ย" และตอบคำถามผู้สื่อข่าว

นิธิชี้ยุบสภาคือทางออกประเทศ เเต่เป็นทางตันของกปปส.

นิธิชี้ยุบสภาคือทางออกประเทศ เเต่เป็นทางตันของกปปส.


 

นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ กล่าวกับวอยซ์ทีวีในวันนี้กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุบสภาในวันนี้ว่า ถามว่าทางออกส่วนหนึ่งคือ ทำให้คนจำนวนมากที่ไม่ร่วมชุมนุมหรือมาร่วมชุมนุมว่าการยุบสภาเป็นทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดในระบอบประชาธิปไตยที่ต้องประคองไว้ในสังคมไทย ต้องเริ่มต้นตรงนี้ ข้อเสนอของกปปส.ต้องการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากรัฐบาลรักษาการนั้น ทำไม่ได้เพราะการยุบสภานั้นต้องระบุวันเลือกตั้ง รัฐบาลรักษาการมีอายุไม่เกินหกสิบวัน เมื่อถามว่ากปปส.ต้องการให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง นายนิธิกล่าวว่า ข้อเสนอของกปปส.นั้นต้องการให้เกิดสูญญากาศ ตนเดาไม่ถูกว่าเเกนนำกปปส.บางคนไม่มีทางเลือกอื่นเลย ลองคิดว่าประชาชนหรือผู้ชุมนุมพอใจการยุบสภาเเล้วกลับบ้านนั้น ถามว่าทางเดินต่อไปของกปปส.คืออะไร คำตอบคือทางตันของกปปส.เเต่มันคือทางเปิดของประเทศ วันที่8ธ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เเถลงข่าวส.ส.ทั้งพรรคลาออก เเละนายอภิสิทธิ์บอกนายกฯให้คืนอำนาจเเก่ประชาชนเเละเรียกร้องยุบสภา เมื่อรัฐบาลทำเเบบนี้ เเต่พรรคประชาธิปัตย์อาจบอยคอตเลือกตั้ง มันจะเกิดเหตุเปิดประชุมสภาไม่ได้เพราะส.ส.ไม่ครบ เเละอาจเกิดเหตุผู้สมัครส.ส.ได้รับคะเเนนเลือกตั้งไม่ถึงงร้อยละยี่สิบ 

นายนิธิกล่าวว่า การเมืองในอนาคตคือ หากเกิดกรณีที่มีรัฐบาลโดยไม่มีฝ่ายค้านเพราะการบอยคอตเลือกตั้ง มันคือรัฐบาลประชาธิปไตยเเม้ไม้มีฝ่ายค้านเเต่รัฐบาลอยู่ได้ หากไม่มีอำนาจนอกระบบเเทรกเเซง ปัญหาคือรัฐบาลข้างหน้าอาจสร้างฝ่ายค้านในสังคมขึ้นมา โดยเรียกประชุมกมธ.นอกสภาได้คือนำ คนนอกมาร่วมพิจารณากฎหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

The Daily Dose

The Daily Dose

 
การเมืองที่ชัดเจน คนเชื่อเลือกตั้ง vs คนระเเวงนักการเมืองคอรัปชั่น
The Daily Dose ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2556
เเก้ปัญหาการเมืองไทยให้พรรคที่เเพ้เลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลได้!
http://www.dailymotion.com/video/x1870fn_การเม-องท-ช-ดเจน-คนเช-อเล-อกต-ง-vs-คนระเเวงน-กการเม

ประวัติศาสตร์ คือนรกของท่านผู้ที่ละเมิดเสียงประชาชน

ประวัติศาสตร์ คือนรกของท่านผู้ที่ละเมิดเสียงประชาชน




"วันนี้ชัดเจนแล้ว ว่าเป็นเรื่องระหว่าง
เอาประชาธิปไตย กับ ไม่เอาประชาธิปไตย


จงมีศรัทธาในความเสมอภาค และเท่าเทียมครับ
มิเช่นนั้น ท่านจะเจอสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น
และในที่สุดแล้ว ท่านจะแพ้อย่างแน่นอน


ประวัติศาสตร์ คือนรกของท่านผู้ที่ละเมิดเสียงประชาชน
เพราะมันจะจารึกความชั่วของท่านไปตลอดกาล"

จักรภพ เพ็ญแข

บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีหลัก ตอแหลไทยแลนด์

บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีหลัก ตอแหลไทยแลนด์




 

บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีหลัก
ฆ่าคนเหมือนปลาผักกลับเป็นใหญ่
โละเลือกตั้งอ้างประชาธิปไตย
ตุลากรรมเป็นใจให้ยึดเมือง
คนชั้นกลางเหยียบชั้นล่างอ้างมีสิทธิ์
คนชั้นล่างถูกปิดปากทุกเรื่อง
กำหมัดทุบอกแน่นด้วยแค้นเคือง
จะขี่คอต่อเนื่องถึงเมื่อใด?

ทันสถานการณ์

ทันสถานการณ์



 

นายกฯแถลงยุบสภาแล้ว

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย้ำไม่ต้องการให้สูญเสียอีก ตัดสินใจยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกตั้งใหม่ ขณะที่สาทิตย์ ยันจะเดินหน้าบุกไปทำเนียบฯเหมือนเดิม จี้ให้ออกรักษาการ ตั้งสภาประชาชน

9 ธ.ค.56 เมื่อเวลา 08.55 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่าได้ทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเพื่อยุบสภาผู้ แทนราษฎรแล้ว เพราะถือว่าเป็นแนวทางประชาธิปไตย กล่าวย้ำว่าไม่ต้องการให้ประเทศและคนไทยต้องสูญเสียอีก จึงตัดสินใจยุบสภาเพราะถึงจุดที่มีความขัดแย้ง คืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกตั้งใหม่

นายกฯ กล่าวด้วยว่าขอเชิญชวนทุกกลุ่มการเมือง ลงเวทีเลือกตั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามแม้จะยุบสภาไปแล้ว คณะรัฐมนตรีจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ โดยในการแถลงข่าวนายกรัฐมนตรีให้เหตุผลในการยุบสภาว่า

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50280 

ในหลวงโปรดเกล้าพรฎ.ยุบสภาแล้ว เลือกตั้ง 2 ก.พ.57

9 ธ.ค.2556 หลังจากเมื่อเวลา 08.55 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่าได้ทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเพื่อยุบสภาผู้ แทนราษฎรแล้ว  ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทวีตผ่าน @teeratr ระบุว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ลงมาเรียบร้อยแล้ว อีกสักครู่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา”

(ที่มา)
http://prachatai.com/journal/2013/12/50305 

  
"สาทิตย์" ลั่นไม่เอารัฐบาลยิ่งลักษณ์รักษาการ

9 ธ.ค. 2556 เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงาน บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เวลา 09.30 น.  ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ผู้ชุมนุมได้ตะโกนโห่ร้องอย่างต่อเนื่อง โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.ประกาศบนเวที ว่าการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นเพียงชัยชนะเบื้องต้นเท่า นั้น แต่การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป เพื่อเป้าหมายให้รัฐบาลชุดนี้ออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ โดยเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญสามารถจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่เป็นรัฐบาลของ ประชาชนได้



เมื่อเวลา 10.40 น. นายสาทิตย์ สั่งเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศต่อไป พร้อมกับป่าวประกาศตามหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยอ้างว่าหลบไปอยู่ที่ไหนยังไม่ทราบ 

(อ่านต่อ)
กกต.คาดเลือกตั้งใหม่ไม่เกิน2ก.พ.57 พท.ประกาศทีมA,Bกลับมาพร้อมลงสมัคร

"สดศรี"คาดจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ชี้ ส.ส.ปชป.ที่ลาออกหากยังเป็นสมาชิกพรรคฯ ก็สามารถลงสมัครใหม่ได้ เพื่อไทยพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง "จารุพงศ์" ลั่น "ทีม A-ทีม B กลับมาแล้ว"


9 ธ.ค.56 เมื่อเวลา 12.16 น. TNN24 รายงาน นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า หลังจากที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศยุบสภา คณะกรรมการกาารเลือกตั้ง หรือ กกต. ต้องรอพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ภายหลัง รัฐบาลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะพ้นจากตำแหน่งทันที และตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภาย ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 8 เขต ถือเป็นโมฆะ

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50285 

กลุ่มส.ว.อิสระ ขอ "กปปส." เข้าสู่กติกาลงเลือกตั้ง

9 ธ.ค. 2556 เว็บไซต์ข่าวสดรายงาน ว่า ที่รัฐสภา นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา แกนนำส.ว.กลุ่มอิสระเพื่อแก้วิกฤติชาติ 56 กล่าวถึงการประกาศยุบสภาของนายกฯว่า กปปส.พูดชัดเจนแล้วว่ายุบสภา ลาออกยังไม่พอ เขาต้องการให้เกิดสุญญากาศการบริหารราชการคือไม่มีรัฐบาลนำไปสู่การขอพระราช ทานมาตรา 7 บีบสถานการณ์ให้เป็นแบบนั้น แต่มันติดที่ปัญหาข้อกฎหมายเขียนไว้ชัดว่า นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งและเป็น ส.ส. ดังนั้นต้องมีการพิจารณาในประเด็นนี้ให้รอบคอบ ดังนั้นหากถามว่าวันนี้เราอยากให้บ้านเมืองสงบหรือมีปกครองด้วยระบอบ ประชาธิปไตยหรือไม่ ตนมองว่าคนที่กำลังเรียกร้องให้คนอื่นเคารพกติกา เคารพรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่เคารพเสียเองแล้วบ้านเมืองจะไปอย่างไร 

นายวิชาญกล่าวว่า เมื่อนายกฯยุบสภาก็ไปสู่การเลือกตั้ง แต่กปปส.ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะมองว่าเลือกตั้งก็ซื้อเสียง แล้วจะมีกกต.ไว้ทำไม หมายถึงเราไม่เคารพอำนาจของประชาชน ที่อ้างมาตรา 3 กำลังจะบอกว่าปวงชนเฉพาะของ กปปส. เท่านั้น แล้วประชาชนส่วนใหญ่ที่รอใช้สิทธิ์อยู่จะทำอย่างไร และขอเรียกร้องให้ กปปส.หยุด กลับบ้านไปสู่การเลือกตั้ง ให้ประชาชนเลือกมา ตรงไหนมีการทุจริต ก็แจ้ง กกต.มีกฎหมายดำเนินการ ไม่เช่นนั้นถือว่ากปปส.ไม่เคารพรัฐธรรมนูญเสียเอง
(อ่านต่อ)
นปช.เลื่อนชุมนุม 10 ธ.ค. ย้ำยิ่งลักษณ์อย่าลาออก

9 ธ.ค.2556 แกนนำ นปช. นำโดย ธิดา ถาวรเศรษฐ และ จตุพร พรหมพันธ์ แถลง นปช. เลื่อนการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ออกไปก่อน เพื่อรอประเมินสถานการณ์ แต่ไม่ใช่การยอมจำนนแต่อย่างใด

จตุพร กล่าวว่า ขอบอกไปยังยิ่งลักษณ์ว่า อย่าลาออกเด็ดขาด เพราะไม่มีประชาชนคนไทยที่ไหนอนุญาตอีกแล้ว ให้อยู่รักษาการเพื่อเอาอำนาจไปถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงในวันเลือกตั้ง พร้อมระบุการยุบสภาเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ จตุพร กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ประกาศว่าไม่ปฏิวัติรัฐประหารโดยเด็ดขาด ดังนั้น เมื่อประเทศไม่มีรัฐประหาร ก็เหลือแต่กลุ่มของสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งขอให้เป็นภาระหน้าที่ของคนไทย 64 ล้านคน เมื่อถึงเวลาต้องสำแดงพลัง ณ จุดนัดหมาย ว่าไม่เห็นด้วยกับสุเทพ ถ้าเขาไม่ยอม อย่างไรก็ตามย้ำว่าต้องไม่เผชิญหน้า ยึดแนวทางสันติวิธี ด้วยปริมาณที่เยอะกว่า เพื่อบอกว่ามวลมหาประชาชนที่แท้จริงคือประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่ยอม รับระบอบอื่นที่จะมาปกครองแผ่นดินนี้

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50296
  
สุเทพ เทือกสุบรรณประกาศขอคืนอำนาจอธิปไตย เพื่อทำการ 'ประชาภิวัฒน์'

หลังเคลื่อนขบวนชุมนุม 9 สาย เลขาธิการ กปปส. ประกาศขอคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชน ละจะทำการ 'ประชาอภิวัฒน์' เพื่อการปฏิรูปประเทศไทยเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และ กปปส. จะยึดมั่นพันธะกรณีระหว่างประเทศ รักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศทุกประการ

9 ธ.ค. 2556 - ในการชุมนุมของ "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่ สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" หรือ กปปส. วันนี้ ซึ่งมีการเดินขบวนใหญ่ 9 สาย และมีการตั้งเวทีใหญ่ที่แยกนางเลิ้งในช่วงบ่ายนั้น ต่อมาเมื่อเวลา 17.50 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นเวทีแถลงข่าว โดยมีการเปิดเพลง แสงสุดท้าย ของบอดี้แสลม และเพลงเจ้าตาก ของแอ๊ด คาราบาว และเพลงสู้ไม่ถอย ของกรรมาชน ฯลฯ ก่อนการแถลง

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50302