หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทำไมรัฐบาลไม่ควรยุบสภา

ทำไมรัฐบาลไม่ควรยุบสภา


 
 

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ควรยุบสภาหรือลาออก ตามคำเรียกร้องของคนชั้นกลางเสื้อเหลืองที่มาประท้วงภายใต้การนำของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เราฟันธงแบบนี้ทั้งๆ ที่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง และการปกป้องกฏหมายเผด็จการ 112 ของรัฐบาล

ในประการแรก การยุบสภาจะไม่ทำให้ผู้ประท้วงพอใจแต่อย่างใด เพราะเขาไม่สนใจประชาธิปไตยและรู้ดีว่าถ้ายุบสภา ประชาธิปัตย์ สุเทพ และพรรคพวกของเขา ไม่มีวันชนะการเลือกตั้ง เราควรคำนึงถึงการยุบสภาของอดีตนายกทักษิณในปี ๒๕๔๙ เพราะพอจัดการเลือกหลังจากนั้นตั้งพรรคฝ่ายค้านไม่ยอมลงสมัคร เพราะรู้ว่าจะแพ้ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถครองใจคนส่วนใหญ่ได้ การไม่ลงสมัครของพรรคฝ่ายค้านเพิ่มวิกฤต จนตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วนำไปสู่รัฐประหาร ข้อแก้ตัวของฝ่ายเหลืองตอนนั้นและในขณะนี้คือ เขามองว่าประชาชนส่วนใหญ่ “ขาดวุฒิภาวะพอที่จะมีสิทธิ์เลือกตั้ง” ซึ่งเป็นข้ออ้างของฝ่ายเผด็จการมาแต่ไหนแต่ไร พวกนี้จะไม่พอใจจนกว่าคนล้าหลังของเขาขึ้นมาตั้งรัฐบาลด้วยวิธีใดก็ได้

ในประการที่สอง อภิสิทธิ์กับสุเทพเป่าประกาศว่ารัฐบาล “ขาดความชอบธรรม” เราอาจถกเถียงในเรื่องนี้ได้ แต่เราเถียงไม่ได้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งขาดลอยในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง ต้องให้ทหารตั้งเป็นรัฐบาลแทน

แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าคือ คนที่กล่าวหาว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรม เป็นพวกมือเปื้อนเลือด เพราะเขาดำรงตำแหน่งสูงในรัฐบาลตอนที่มีการเข่นฆ่าประชาชนเสื้อแดงที่ไม่ถืออาวุธ เรานึกไม่ออกว่าศีลธรรมฉบับไหนในโลกมองว่ามาตกรมีความชอบธรรม ดังนั้นเราไม่ต้องไปให้ความสำคัญกับคำพูดของสุเทพหรืออภิสิทธิ์ เขาพร้อมจะฆ่าคนเพื่อรักษาอำนาจเผด็จการ
นักวิชาการหลายคนเสนอว่ารัฐบาลควรจัดทำประชามติโดยเร็ว เพื่อถามประชาชนว่าต้องการยกเลิกหรือแก้รัฐธรรมนูญทหารปี ๕๐ ทั้งฉบับหรือไม่ เราเห็นด้วย ควรรีบทำ แต่ขณะที่ทำประชามติไม่ต้องยุบสภาแต่อย่างใด ถ้ารัฐบาลชนะประชามติ ก็พิสูจน์ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับรัฐบาล ถ้าแพ้ประชามติ รัฐบาลก็ควรลาออกและยุบสภา นี่คือกระบวนการประชาธิปไตยรัฐสภาในระดับสากล

คำถามคือรัฐบาลกล้าทำประชามติแบบนี้หรือไม่ เพราะที่แล้วมาก็จับมือประนีประนอมกับทหารมาตลอด 

ส่วนเรื่องตลกร้ายของ “ม็อบสมบูรณาญาสิทธิราชย์” และสุเทพ ที่พูดถึง “สภาประชาชน” หรือ “รัฐบาลประชาชน” เราไม่ต้องให้ความสำคัญเลย เพราะเป็นคำโกหกตอแหลของกลุ่มคนที่ดูถูกประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เคารพมติประชาชน และมัวแต่เรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร พวกนี้ไม่มีแม้แต่เศษขี้เล็บของความชอบธรรมเลย 
  
ทางออกเดียวของฝ่ายประชาธิปไตย คือสู้ต่อ ขยายประเด็นประชาธิปไตยก้าวหน้าให้มากๆ เพื่อช่วงชิงความชอบธรรมทางการเมือง ยุทธศาสตร์ก่นด่าฝ่ายตรงข้าม เช่นที่ นปช ใช้อยู่จะได้ผลไม่มาก หากแต่ต้องพยายามเสนอรูปธรรมสังคมประชาธิปไตยก้าวหน้าออกมาเยอะๆ เช่น รัฐสวัสดิการ จะขยายการปกครองสู่ท้องถิ่น เลือกตั้งผู้ว่า เลือกตั้งศาล เพิ่มอำนาจให้คนทำงานในสหภาพแรงงาน หรือเรื่องอื่นๆ ที่จะลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร เป็นต้น 

การต่อสู้กับม็อบชนชั้นนำที่ไม่นิยมประชาธิปไตย ต้องสู้ด้วยการช่วงชิงทางการเมืองโดยยืนอยู่บนผลประโยชน์ของชนชั้นล่าง ผ่านการจัดตั้งทางการเมือง ผ่านกลุ่มผลประโยชน์ของชนชั้นล่าง ในภาคแรงงาน ชาวนา เป็นต้น ต้องมีการจัดตั้ง สภาแรงงานประชาธิปไตย สภาชาวนาประชาธิปไตย ในหลายระดับ จัดทำข้อเสนอเพื่อผลประโยชน์ของคนข้างล่าง อย่างเป็นรูปธรรม

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/     

บทความเกี่ยวกับข้อเสนอการยุบสภา

บทความเกี่ยวกับข้อเสนอการยุบสภา



 
โดย พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์  


คนที่เสนอให้ยุบสภาในเวลานี้มีสองกลุ่ม

กลุ่มแรกเป็นพวกอธิการบดี ผู้บริหารมหาวิทยาลัย นักวิชาการแอ๊บเหลือง และเป็นข้อเสนอ "ภายใน" ของพรรคประชาธิปัตย์ คนพวกนี้เสนอยุบสภา ไม่ใช่เพราะอยากมีเลือกตั้ง ไม่ใช่เพราะเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะชนะเลือกตั้งได้ แต่เพราะเป็น "ธง" ที่รับมาอีกที สร้างเป็นกระแสกดดันให้รัฐบาลหลงเชื่อว่า ถ้ายุบสภาแล้ว ก็จะยอมหยุดไล่รัฐบาล เลิกม็อบ แล้วไปตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง

 ถ้ารัฐบาลยุบสภาจริง ม็อบปชป. ที่ยึดสถานที่ราชการก็จะไม่ยอมหยุด พรรคประชาธิปัตย์จะบอยคอยการเลือกตั้ง วิกฤตการเมืองไม่มีทางออก เป็นข้ออ้างให้นำเอา "ระบอบคนดี" เข้ามาปกครองแทน พร้อมกับกวาดล้าง "คนเลว" ให้หมดสิ้น

 กลุ่มที่สองเป็นพวกที่ "หวังดี" เป็นนักวิชาการก็มี เสนอให้ยุบสภาโดยอ้างว่า "เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเนื้อของประชาชนอีก" และเป็นการแสดงความรับผิดโดยพรรคเพื่อไทยที่หักหลังประชาชนด้วยการผลักดัน นิรโทษกรรมเหมาเข่ง

 คนกลุ่มนี้เอาแต่ "ส่องแว่น" อยู่ที่พรรคเพื่อไทย โทษว่า วิกฤตทั้งหมดขณะนี้เป็นความผิดของพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียวล้วน ๆ พรรคเพื่อไทยต้องถูกลงโทษ คนกลุ่มนี้ไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด เชื่ออย่างไร้เดียงสาว่า ยุบสภา ลงโทษรัฐบาลแล้วฝ่ายต่อต้านพอใจ เรื่องจะจบ เชื่อว่า ถึงยังไง ก็ต้องมีเลือกตั้ง ข้อเรียกร้อง "สภาประชาชนและปฏิรูปประเทศไทย" ของม็อบเทือกเป็นแค่วาทะเล่น ๆ เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์และ "เส้นใหญ่" ที่หนุนม็อบเทือกยังต้องการให้มีการเลือกตั้งอยู่

 ประสบการณ์เจ็ดปีมานี้ไม่ได้สอนอะไรแก่คนกลุ่มนี้ให้เข้าใจถึงจุดมุ่งหมาย ที่แท้จริงของพวกเผด็จการเลย การยุบสภานี่แหละที่จะนำไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่ของประชาชน เมื่อม็อบเทือกไม่ยอมหยุด ทั้งม็อบและพรรคประชาธิปัตย์บวกตุลาการ ประสานกันรุกไล่รัฐบาลรักษาการณ์ที่ไม่มีสภาคอยคุ้มกันและไม่มีอำนาจบริหาร จนตกขอบในที่สุด

 ถึงเวลานั้น ไม่ใช่แค่นายกฯยิ่งลักษณ์ รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตรเท่านั้นที่อยู่ไม่ได่้ แม้แต่แกนนำ นปช. แกนนำเสื้อแดงทั่วประเทศ มวลชนอีกมายมาย และนักวิชาการที่เห็นใจฝ่ายประชาธิปไตยก็จะไม่มีที่ยืนอีกด้วย!! 

(ที่มา)
http://thaienews.blogspot.dk/2013/11/blog-post_7879.html 

Wake up Thailand

Wake up Thailand






Wake up Thailand ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ตอนที่ 2
ประธานศาล รธน.ปี 46 มองศาล รธน.& การเมือง ยุค 'เทพ' ครอง
http://www.dailymotion.com/video/x17pyip_ประธานศาล-รธน-ป-46-มองศาล-รธน-การเม-อง-ย-ค-เทพ 

Wake up Thailand ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ตอนที่ 1 
ม็อบ 'เทพ' ยกระดับเพิ่มความสับสน 
http://www.dailymotion.com/video/x17pwxt_ม-อบ-เทพ-ยกระด-บเพ-มความส-บสน
 
Wake up Thailand ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ตอนที่ 2
ฮิวแมนไรท์ วอทช์: ความคิดเห็นต่อการชุมนุมต้านกฎหมายนิรโทษกรรม 
http://www.dailymotion.com/video/x17of2d_ฮ-วแมนไรท-วอทช-ความค-ดเห-นต-อการช-มน-มต-า 
  
Wake up Thailand ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ตอนที่ 1
แจกกระสุนตาย 99 ศพ จบด้วยการเป็นกบฏ 
http://www.dailymotion.com/video/x17oe0m_แจกกระส-นตาย-99-ศพ-จบด-วยการเป- 

Divas Cafe

Divas Cafe
  


Divas Cafe ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556
แน่ใจนะว่าจะสุดซอยที่เกาหลีเหนือ
http://www.dailymotion.com/video/x17q0me_แน-ใจนะว-าจะส-ดซอยท-เกาหล 

 
Divas Cafe ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556
อยากมีประชาธิปไตยใจต้องอึด 
http://www.dailymotion.com/video/x17oh1k_อยากม-ประชาธ-ปไตยใจต-องอ-ด 

'ไทม์' ชี้ประชาธิปัตย์ สร้างเงื่อนไข 'รัฐประหาร'

'ไทม์' ชี้ประชาธิปัตย์ สร้างเงื่อนไข 'รัฐประหาร'



 
 
นิตยสารไทม์ชี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยสมกับชื่อพรรค เรียกร้องให้โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นำม็อบยึดสถานที่ราชการ หวังกองทัพเข้ายึดอำนาจ เล่นการเมืองแบบอันธพาล

เว็บไซต์ของนิตยสารไทม์ เสนอรายงานในวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ในชื่อ "พรรคประชาธิปัตย์ของประเทศไทยตั้งชื่อผิดอย่างน่าหัวร่อ" ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองสีเสื้อในเมืองไทยได้กลับมาปะทุอีกครั้ง เหล่าคนเสื้อเหลืองผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายึดกระทรวงต่างๆใน เมืองหลวงและศาลากลางอย่างน้อยใน 19 จังหวัด
เมื่อวันอังคาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำการประท้วง ได้ตอกย้ำเสียงเรียกร้อง "การปฏิวัติประชาชน" เพื่อจัดตั้งสภาประชาชนของพวกรอยัลลิสต์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ไทม์ได้ชี้ถึงความดีเด่นดังของประเทศไทยหลายประการ เช่น  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปเยือนปีละหลายล้านคน, เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับต้นของโลก, มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประชาธิปไตยของไทยก็เป็นแบบอย่างให้แก่เพื่อนบ้านในพม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม

แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติในด้านระบอบประชาธิปไตยที่แย่ที่ สุด พวกคนเสื้อเหลืองนับหมื่นกำลังเดินขบวนทั่วประเทศ แต่การเรียกร้องให้จัดตั้งสภาของพวกรอยัลลิสต์นั้น ยากที่จะเรียกว่าเป็นการปฏิวัติประชาชน

อำนาจประชาชนได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์แล้วโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้ง 15 ล้านคน ที่ได้โหวตเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยของเธอเมื่อปี 2554 พรรคการเมืองต่างๆที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพเมื่อปี 2549 ได้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างล้นหลามตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา

แน่นอน มหาเศรษฐีโทรคมนาคมผู้นี้ มีบาดแผลหลายอย่าง เช่น การทำธุรกิจของเขาในอดีต, สงครามปราบปรามยาเสพติดเมื่อปี 2546, การบงการการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่น่าประหลาดใจที่พรรคฝ่ายค้านไม่ได้โจมตีเขาด้วยเรื่องเหล่านี้

ชวนกลับไปดูหนังเรื่อง The Mist แล้วย้อนกลับมาดูม็อบสุเทพกับปรากฏการณ์การหายไปของเหตุผล

ชวนกลับไปดูหนังเรื่อง The Mist แล้วย้อนกลับมาดูม็อบสุเทพกับปรากฏการณ์การหายไปของเหตุผล

 

 


ในปี 2007 ภาพยนตร์เรื่อง The Mist (กำกับโดย Frank Darabont) ได้ออกฉายในโรงภาพยนตร์ต่างๆ ทั่วโลก โดยตาม "ภาพ" หรือหน้าหนังแล้ว มันเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดต่างมิติที่มารุกรานโลก แต่เอาเข้าจริงๆ มีฉากสัตว์ประหลาดไม่ถึงครึ่งเรื่องหรอก ในหนังเกือบสองชั่วโมงมีฉากสัตว์ประหลาดออกมาคงสัก 30 นาทีได้ (อย่างมาก 40 นาที) และผมเองคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มี "ประเด็น" (message) หลักที่คนละเรื่องกับสัตว์ประหลาดเลย เพียงแค่เล่าประเด็นนั้นผ่านการอุบัติขึ้นของสัตว์ประหลาดก็เท่านั้น และตัวประเด็นหลักที่ว่านี้เองที่ผมคิดว่ามันตรงกับสถานการณ์การเมืองไทยใน ปัจจุบันเป็นอย่างมาก

ทีนี้เราวกกลับมาถึงอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะพูด ถึงกันแบบย่อๆ เล็กน้อย นั่นก็คือม็อบที่ราชดำเนินซึ่งนำโดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับทางพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล โดยได้เริ่มออกมานำการเมืองตามท้องถนนจากการประท้วงเพื่อต้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย จากนั้นเมื่อรัฐบาลถอยกรูดอย่างสุดซอยแล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายกระทันหันมาเป็น คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องที่มาของ สว. และก็ยกระดับไปเรื่อย จนสุดท้ายได้ยกระดับอย่างสุดซอยมาที่การล้มระบอบทักษิณ โดยประกาศก้องว่ารัฐบาลล่าออก หรือยุบสภาก็จะไม่เลิก แล้วก็เที่ยวเข้ายึดสถานที่ราชการ และกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ กันอย่างครึ้กครื้นไปทั่ว

(อ่านต่อ)

นิธิ ชี้ยึดสถานที่ราชการไม่กระทบรัฐยุคดิจิตัล แนะรัฐบาลอดทน

นิธิ ชี้ยึดสถานที่ราชการไม่กระทบรัฐยุคดิจิตัล แนะรัฐบาลอดทน


 
 
นิธิ เอียวศรีวงศ์ ชี้ยึดสถานที่ราชการไม่กระทบอำนาจรัฐยุคดิจิตัล

นิธิ เอียวศรีวงศ์ แนะ รัฐบาลอดทน เชื่อไม่มีม็อบไหนอยู่ยาว ชี้ ยึดสถานที่ราชการได้ก็ไม่มีผลกระทบต่อรัฐ เพราะรัฐยุคดิจิตัลไม่ได้มีข้อจำกัดในการทำงาน และสิ่งที่สำคัญม็อบไม่ได้มีอำนาจอาญาสิทธิ์อื่นมารองรับเพื่อสถาปนาอำนาจ ใหม่

นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ยังระบุด้วยว่าพอใจท่าทียิ่งลักษณ์ในการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ เพราะไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เตือนอย่าจุดไฟเพิ่มเชื้อให้ม็อบอยู่ยาว ทั้งนี้ ปัญหาของรัฐบาลคือการเปิดโอกาสสร้างเชื้อไฟให้ม็อบได้จากกรณีการผลักดัน นิรโทษกรรม ดังนั้นต้องระมัดระวังที่จะไม่ทำอะไรที่ทำให้ม็อบลุกฮือขึ้นได้อีก

การยึดกระทรวงทบวงกรมตอนนี้ จะส่งผลขัดขวางการทำงานของรัฐจริงหรือไม่

(อ่านต่อ)