หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การปล้นและยึดครองอเมริกาโดยสเปน

การปล้นและยึดครองอเมริกาโดยสเปน


อาณาจักรแอสเทค(Aztec) ค.ศ. 1325–ค.ศ. 1521

โดย C. H.

ชาวยุโรปที่เห็นเมืองของอารยะธรรม แอสเทค (ในเมคซิโกปัจจุบัน) และของอารยะธรรม อิงคา (ในเปรูปัจจุบัน) ราวๆ ค.ศ. 1520-1530 จะต้องทึ่งในความเจริญร่ำรวยของสังคมแน่นอน เมือง เชนอชทิทแลน ของ แอสเทค เจริญพอๆ กับเมืองต่างๆ ในยุโรป และเมือง คุสโค ของพวกอิงคา ถึงแม้ว่าจะเล็กกว่า แต่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรใหญ่ที่มีถนนสมัยใหม่เชื่อมโยงระยะทาง 3000 ไมล์ ยาวกว่าถนนในยุโรปหรือในจีนในยุคเดียวกัน อารยะธธรมของชาวอเมริกากลางและใต้ อาศัยการพัฒนาระบบชลประทาน เพื่อเพิ่มผลผลิตเกษตร
   
แต่ภายในไม่กี่เดือน สองอารยะธรรมอันยิ่งใหญ่นี้ ถูกรุกรานและทำลาย โดยกองทัพขนาดเล็กของโจรสามัญจากสเปน ผู้นำกองทัพโจรนี้คือ เฮร์แนน คอร์เทส ซึ่งรุกรานพวก แอสเทค และทางใต้ ฟรานซิสโก พิสาโร ก็ยึดอาณาจักร อิงคา พิสาโร เป็นคนไร้การศึกษาเขียนอ่านไม่ได้อีกด้วยกองทัพโจรของสเปน เริ่มเดินทางไปสู่ทวีปอเมริกาในปี ค.ศ. 1492 ภายใต้การนำของ คริสโตเฟอร์ คอลลัมบัส ซึ่งเป็นกับตันเดินเรือที่ ไปขอทุนจากสองกษัตริย์สเปน เพื่อบุกเบิกเส้นทางค้าขายกับจีน โดยหวังเดินเรือไปทางตะวันตก แทนที่จะไปทางตะวันออกผ่านอัฟริกาและอินเดีย แต่แทนที่จะถึงจีน คอลลัมบัส ไปขึ้นบกที่เกาะในทะเลคาริเบี้ยน

ในเวลาเพียงยี่สิบปี พวกกองทัพโจรจากสเปน สามารถบุกเข้าไปยึดและทำลายอาณาจักรแอสเทค และ อิงคา ได้ และสามารถขโมยเงิน และทองคำ เพื่อส่งกลับไปสเปนในจำนวนมากวิธีเอาชนะของพวกโจรสเปนคือด้วยการโกหก หลอกผู้นำพื้นเมือง และการฉวยโอกาสอาศัยความขัดแย้งระหว่างผู้นำเหล่านั้นด้วย มีการแพร่เชื้อโรคใหม่ๆ จากยุโรปโดยไม่ได้เจตนา ซึ่งทำให้คนพื้นเมืองล้มตายจำนวนมาก นอกจากนี้อาวุธของทหารสเปนเป็นอาวุธเหล็ก มีเกราะเหล็ก และมีปืนพื้นฐาน ในขณะที่แอสเทค กับ อิงคา มีแต่ปลายดาบและหอกที่ทำจากหิน นอกจากนี้สภาพสังคม แอสเทค และ อิงคา กำลังถึงจุดวิกฤตเพราะวิถีชีวิตของชนชั้นปกครอง ที่อาศัยการขูดรีดคนข้างล่างอย่างป่าเถื่อน เริ่มเปลืองทรัพยากรจนระบบการผลิตที่หยุดพัฒนา เริ่มรองรับไม่ได้  

ผลของการยึดอเมริกาโดยสเปน คือคนพื้นเมืองล้มตายไปเกือบ 75% และที่รอดชีวิตมาได้ก็ถูกใช้เป็นแรงงานทาส เพื่อขุดเงินและโลหะมีค่าส่งกลับไปที่ยุโรป 


(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/10/blog-post.html

ด. “เด็ก”

ด. “เด็ก” 


 
ในสังคมเกษตรที่ไม่มีสวัสดิการจากการทำงาน เด็กจะมีภาระสำคัญในการดูแลคนชรา แต่เมื่อทุนนิยมขยายตัวมากขึ้น ผู้ใหญ่จะเริ่มมีสวัสดิการที่จะดูแลตัวเองเมื่อเกษียณ บทบาทของเด็กก็เปลี่ยนไปพร้อมกับขนาดของครอบครัวที่เล็กลงด้วย

โดย ลั่นทมขาว
 
ทัศนะที่คนในสังคมมีต่อเด็ก เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ก่อนระบบอุตสาหกรรมและทุนนิยม เด็กจะไม่ถูกฝึกฝนในโรงเรียนและจะเรียนรู้ท่ามกลางการช่วยเหลือคนในครอบครัว ทำงาน โดยมีพ่อแม่ลุงป้าน้าอาหรือพี่คอยให้คำแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นสังคมเกษตร  ในยุคนั้นการ “เล่น” ไม่ถูกมองว่าสำคัญ ทั้งๆ ที่เด็กคงเล่นในขณะที่ทำงานหรือเรียนรู้
   
ในยุคต้นๆ ของการพัฒนาอุตสาหกรรม ชีวิตของเด็กแย่ลงมาก เพราะจะต้องไปทำงานในโรงงานในสภาพที่ป่าเถื่อน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันตกในศตวรรษที่๑๙ และยังเกิดขึ้นทุกวันนี้ในประเทศยากจน ในไทยก็มีปรากฏการณ์นี้เหลืออยู่บ้าง โดยเฉพาะในหมู่ลูกๆ ของคนรับใช้ตามบ้าน ถ้าเด็กเหล่านั้นเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน
   
สาเหตุที่มีการใช้แรงงานเด็กในยุคต้นๆ ของการพัฒนาอุตสาหกรรมก็เพราะแรงงานเด็กราคาถูก และครอบครัวคนจนมีรายได้ไม่พอ ทุกคนในครอบครัวจึงต้องทำงาน ในกรณีสหรัฐอเมริกา การพัฒนาทุนนิยมตอนต้นอาศัยแรงงานทาสอีกด้วย ซึ่งรวมถึงทาสที่เป็นเด็ก ทุกวันนี้ยังมีแรงงานทาสหลงเหลืออยู่บ้างในเอเชียและอัฟริกา แต่จะเป็นทาสที่ถูกขายเพื่อจ่ายหนี้เป็นส่วนใหญ่
   
ในสังคมเกษตรที่ไม่มีสวัสดิการจากการทำงาน เด็กจะมีภาระสำคัญในการดูแลคนชรา แต่เมื่อทุนนิยมขยายตัวมากขึ้น ผู้ใหญ่จะเริ่มมีสวัสดิการที่จะดูแลตัวเองเมื่อเกษียณ บทบาทของเด็กก็เปลี่ยนไปพร้อมกับขนาดของครอบครัวที่เล็กลงด้วย
   
เมื่อทุนนิยมและระบบอุตสาหกรรมพัมนามากขึ้น แรงงานที่ต้องการจะเป็นแรงงานฝีมือมากขึ้น และนอกจากนี้แรงงานต้องมีสุขภาพดีแข็งแรง เหมาะสมกับการทำงาน ดังนั้นเริ่มมีการนำระบบการศึกษาภาคบังคับมากใช้ เริ่มมีการให้ความสำคัญกับสุขภาพและการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นแรงงานรุ่นต่อไปในอนาคต จึงมีการออกกฏหมายห้ามใช้แรงงานเด็ก และกฏหมายที่บังคับให้เด็กไปโรงเรียน แต่ถ้าเด็กจะได้รับการศึกษา ไม่ต้องทำงาน และมีสุขภาพดี พ่อแม่เขาต้องได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นเพื่อเลี้ยงเด็ก และรัฐต้องลงทุนในระบบการศึกษาและระบบสาธารณสุข และสำหรับทุนนิยมมันเป็นการ “ลงทุน” ที่คุ้มค่า เพราะการผลิตจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสร้างมูลค่าต่อหัวคนทำงานมากขึ้น เรื่อยๆ
   
เวลาเราพิจารณาระบบการศึกษาสำหรับเด็ก เราจะเห็นว่าทุนนิยมขัดแย้งในตัวเอง
   
คือในแง่หนึ่งผู้ที่คุมระบบทุนนิยมต้องการแรงงานที่มีการศึกษาและฝีมือ ซึ่งแปลว่าระบบการศึกษาต้องเน้นการพัฒนาฝีมือ และที่สำคัญต้องเน้นการฝึกฝนให้เด็กคิดเองและแก้ปัญหาหลากหลายได้ ไม่ใช่นำเด็กมาท่องจำทุกอย่างตามวินัยของไม้เรียวครู ซึ่งแปลว่าสัดส่วนเด็กต่อครูในห้องเรียนต้องน้อยลง ต้องสอนโดยให้เด็กเป็นศูนย์กลาง คือเน้นว่าเด็กแต่ละคนมีลักษณะพิเศษของตนเองที่พัฒนาได้ ต้องไม่พัฒนาตามพิมพ์เขียวเดียวกันที่ใช้กับทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการ “เล่น” เพื่อเรียนรู้ และเด็กที่ผ่านระบบการศึกษาแบบนี้จะเหมาะสมมากกับเศรษฐกิจและการทำงานสมัย ใหม่
   
แต่ในอีกแง่หนึ่งผู้ที่คุมระบบทุนนิยมต้องการประหยัดงบประมาณรัฐ โดยเฉพาะเวลามีวิกฤตเศรษฐกิจที่มาจากการลดลงของกำไรกลุ่มทุน การสอนเด็กแบบที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางมักใช้งบประมาณสูง ยิ่งกว่านั้นการสอนเด็กให้คิดเองเป็นและแก้ปัญหาเอง ทำให้ประชาชนที่เติบโตจากเด็กรุ่นนั้นถูกควบคุมลำบาก ไม่เชื่อฟังคำสั่งง่ายๆ ถ้าไม่มีเหตุผล ซึ่งระบบการศึกษาในสังคมทุนนิยมมักจะมีเป้าหมายไว้เพื่อกล่อมเกลาให้คนจงรัก ภักดีต่อผู้มีอำนาจเสมอ นอกจากนี้ถ้าระบบการศึกษามีประสิทธิภาพสูง คนที่จบออกมาจะไม่พอใจในการทำงานซ้ำซาก และจะไม่พอใจเมื่องานฝีมือที่ไม่น่าเบื่อมีน้อยเกินไปจนต้องตกงาน
   
ดังนั้นในระบบทุนนิยมจะมีการจงใจคัดเลือกคน ให้เด็กส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ และให้คนส่วนน้อยเป็นฝ่ายสำเร็จ วิธีที่มักใช้กันคือการสอบ และการสอบไม่ใช่การเลือกคนฉลาดหรือเก่ง เพราะมันมีเงื่อนไขหลายอย่างที่นำไปสู่การสอบผ่านและคะแนนดี ซึ่งถ้าดูในภาพรวมจะเห็นว่าเด็กจากครอบครัวที่มีฐานะมักผ่านข้อสอบในอัตรา สูงกว่าเด็กจากครอบครัวยากจน ในโลกจริงคนที่สอบผ่านและเข้าไปเรียนเป็นหมอได้ ไม่ได้ “ฉลาด” กว่าคนอื่นส่วนใหญ่ เพียงแต่เขามีโอกาสมากกว่าคนอื่น ดังนั้นในสังคมใหม่ที่เป็นสังคมนิยม เราจะยกเลิกการสอบส่วนใหญ่ เราจะใช้ระบบการศึกษาที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลาง เราจะไม่จำกัดการศึกษาไว้แค่ในวัยเด็ก และเราจะยกเลิกความเหลื่อมล้ำทางอำนาจระหว่างเด็กและครู เพื่อให้เด็กเรียนรู้อย่างเสรีจนพัฒนาตนเองได้เต็มที่ในทุกด้าน
   
ในทุนนิยมสมัยนี้ เรายังมองว่าเด็กเป็น “ทรัพย์สิน” ของผู้ใหญ่ คือเราอ้างสิทธิ์ที่จะควบคุมชีวิตเด็ก เราไม่ให้เด็กมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเต็มที่ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือเลือกวิถีชีวิตอย่างเสรี ดังนั้นภายใต้สังคมนิยม เราจะต้องร่วมกันค้นหาวิธีปลดปล่อยเด็กให้มีเสรีภาพมากขึ้น และสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เคารพเด็กเหมือนเป็นมนุษย์เต็มตัว 

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/09/blog-post_7375.html 

ความลับไม่มีในโลก

ความลับไม่มีในโลก




 
https://www.facebook.com/photo.php?v=10151899091041154
Vajiralongkorn versus Yuvathida(คลิกฟัง)

A leaked telephone conversation between Crown Prince Maha Vajiralongkorn of Thailand and his second wife Yuvathida Polpraserth aka "Mom Benz"
  



ทำไมนายวชิราลงกรณ์ไม่สมควรที่จะเป็นประมุข
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-39-03/88-2011-02-21-18-11-51.html

ขอเชิญร่วมงาน "งานรำลึก 37 ปี 6 ตุลา วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556"

ขอเชิญร่วมงาน "งานรำลึก 37 ปี 6 ตุลา วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556"



ตัวอย่างลิเกการเมืองเรื่อง ปาฏิหารย์บัลลังค์เลือด : ฉลอง 40 ปี 14 ตุลา
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=3uBfqGNcKx8#t=181

คำนำ: ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง

คำนำ: ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง

 


http://www.sameskybooks.net

หนังสือ ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง รวมบทความว่าด้วยประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ของ ธงชัย วินิจจะกูล ที่เขียนขึ้นระหว่างปี 2547 – 2555 ในฐานะนักประวัติศาสตร์ ธงชัยได้คลี่ให้เห็น เค้าโครงประวัติศาสตร์ประชา – ธิปไตยไทย แบบเป็นกระแสซ้อนกัน โดยดูจากประวัติศาสตร์ ในช่วงยาว ซึ่งเริ่มจากการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 มาจนถึงประชาธิปไตย แบบอำมาตย์ท่ามกลางวิกฤตการเมืองเหลือง – แดงที่ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

ในสายธารประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันยาวนาน ธงชัยวิเคราะห์ให้เราเห็นการต่อสู้ต่อรองของผู้เล่นมากหน้าหลายตา ทั้งการปะทะกันระหว่างสถาบันกษัตริย์และฝ่ายนิยมเจ้า กับคณะราษฎรและผู้เอาใจช่วยระบอบใหม่ที่มีจุดยืนร่วมกันว่า“อำนาจสูงสุดนั้น เป็นของราษฎรทั้งหลาย” เพื่อกำหนดสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ การปะทะกันระหว่างกองทัพกับฝ่ายเสรีนิยมที่จบลงด้วยชัยชนะอย่างไม่กระโตก กระตากของสถาบันกษัตริย์ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองและกลุ่มทุน กับขบวนการพลเมืองซึ่งหันไปเป็นพันธมิตรกับฝ่ายนิยมเจ้า

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เล่นที่ธงชัยวิเคราะห์แจกแจงบทบาทไว้อย่างละเอียดและลุ่มลึกที่สุดก็คือ สถาบันกษัตริย์ที่คนส่วนใหญ่มองว่ามีสถานะ “เหนือการเมือง”

กล่าวได้ว่า การวิเคราะห์วิพากษ์บทบาทสถาบันกษัตริย์ของธงชัยเป็นเสียงเตือนที่มาก่อนกาล ดังจะเห็นได้จากภาค 1 “ประชาธิปไตยแบบไทย” ซึ่งทั้งหมดเขียนขึ้นก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ธงชัยชี้ให้เห็นว่า สถานะเหนือการเมืองของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งในระบบการเมืองไทย และกำลังได้รับความเชื่อถือสูงยิ่งขึ้นเมื่อความไว้วางใจต่อรัฐสภาลดต่ำลงธง ชัยเตือนหนักๆ  ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า ความพยายามต่อสู้กับรัฐบาลบ้าอำนาจด้วยวาทกรรมพระราชอำนาจเป็นเรื่องที่ อันตรายอย่างยิ่ง และยังแนะด้วยว่า จะข้ามให้พ้นประชาธิปไตยแบบหลัง 14 ตุลาที่สถาบันกษัตริย์ได้ขึ้นมามีบทบาทนำมากขึ้นนั้นต้องมองให้ออกว่า ประชาธิปไตยไทยเป็นระบบการเมืองแบบสามเส้า ได้แก่ มวลชน ทุนกับนักการเมือง และฝ่ายกษัตริย์นิยม โดยมีสถาบันกษัตริย์อยู่เหนือระบบการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/10/49067

ขอเชิญชม "งิ้วธรรมศาสตร์ 19" เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอน สะสางคดี 6 ศพ

ขอเชิญชม "งิ้วธรรมศาสตร์ 19" เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอน สะสางคดี 6 ศพ




ขอเชิญชม "งิ้วธรรมศาสตร์ 19" เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอน "สะสางคดี 6 ศพ"
ในวัน อาทิตย์ ที่ 6 และ อาทิตย์ ที่ 13 ตุลาคม 2556 เวลา 20.00 น. มี 2 รอบเท่านั้น 
ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ที่นั่งพร้อม 2 พันกว่าที่นั่ง ที่สำคัญ คือฟรีตลอดงาน 

การกด Like เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

การกด Like เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

 


 
โดย ชำนาญ จันทร์เรือง

เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน 2556 ที่ผ่านมาศาลสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินให้การกดปุ่ม “Like” (หรือ “ชอบ”ในเว็บภาษาไทย)บนเฟซบุ๊กถือเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยศาลอุทธรณ์ของรัฐเวอร์จิเนียที่เมืองริชมอนด์ได้มีคำพิพากษาคดีที่เจ้า หน้าที่ของสำนักงานตำรวจ(Sheriff)ร้องต่อศาลว่าเขาถูกไล่ออกเนื่องจากการใช้ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นซึ่งในกรณีนี้ก็คือการกด “Like”เพจเฟซบุ๊กของคู่แข่งทางการเมืองของหัวหน้าของตนเอง

คำพิพากษาจำนวน 81 หน้าระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้นี้ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง โดยการกด “Like” เพจหาเสียงของผู้สมัครทางการเมืองนั้น แสดงถึงการที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กยอมรับผู้สมัครนั้นและสนับสนุนการหาเสียงครั้ง นี้โดยการเข้าไปมีส่วนร่วม ในกรณีนี้จึงถือเป็นการแสดงออกทางการเมืองผ่านทางอินเตอร์เน็ต

นอกจากนั้นคำพิพากษายังระบุว่าการกระทำของเขามีลักษณะเช่นเดียวกับการ แสดงออกโดยคำพูด ซึ่งการกด “Like”เพจหาเสียงของนักการเมืองสามารถสื่อออกมาได้ถึงการรับรองตัวบุคคลทาง การเมืองดังกล่าวของผู้ใช้และสนับสนุนการหาเสียงด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับ เพจ สิ่งนี้คือการแสดงออกที่เทียบเท่ากับการติดป้ายทางการเมืองไว้ที่สวนหน้า บ้าน ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นการแสดงออกอย่างอิสระเสรี

จากคำพิพากษาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการกด “Like”บนเฟซบุ๊กนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนเพราะเป็นการแสดงความ คิดเห็นด้วยสัญลักษณ์ทำนองเดียวกับการพูดและการเขียนซึ่งได้รับการคุ้มครอง จากรัฐธรรมนูญทั้งของสหรัฐอเมริกาและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแม้ว่าจะ ไม่ได้ใช้ถ้อยคำตรงกันทุกประการก็ตาม

ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ส่วนที่ ๗ ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน และ ส่วนที่ ๘ ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการศึกษา ตั้งแต่มาตรา ๔๕ จนถึง มาตรา ๕๐ ได้บัญญัติไว้ชัดเจน อาทิ

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/10/49047


ครอบครัวด่านวัฒนานุสรณ์ ยังรอพระราชทานอภัยโทษ

ครอบครัวด่านวัฒนานุสรณ์ ยังรอพระราชทานอภัยโทษ

 

  
 

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้ต้องหาผิดม.112 ได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว 
http://news.voicetv.co.th/thailand/83870.html 


ครอบครัวและมวลชนคนเสื้อแดง รอต้อนรับการปล่อยตัวนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ  หลังทราบข่าวว่า เขาได้รับการพระราชทานอภัยโทษแล้ว แต่ท้ายที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้รับหนังสือคำสั่งปล่อยตัวแต่อย่างใด
 
(อ่านต่อ)
http://news.voicetv.co.th/thailand/83931.html

W0RLD UPDATE

W0RLD UPDATE

 
'โอบามาแคร์' คืออะไร? ทำไม 'รีพับลิกัน' ไม่ปลื้ม?
สหรัฐฯ 'แช่แข็งประเทศ' กระทบนักท่องเที่ยวอย่างหนัก

โอบามาชี้รีพับลิกัน 'เรียกค่าไถ่' เพื่อยุติวิกฤติแช่แข็งประเทศ 

'โอบามาแคร์' คืออะไร? ทำไม 'รีพับลิกัน' ไม่ปลื้ม?

หลังจากที่พรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ พยายามระงับการให้งบประมาณโครงการประกันสุขภาพที่เรียกว่า "โอบามาแคร์" จนเกิดวิกฤติงบประมาณ ทำให้สหรัฐฯ ต้องปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราว  หลายคนอาจสงสัยว่า "โอบามาแคร์" คืออะไร และเหตุใดรีพับลิกันจึงรังเกียจโครงการนี้นัก  รายงานนี้มีคำตอบ
 
"โอบามาแคร์" เป็นชื่อเล่นที่ใช้เรียกกฎหมายว่าด้วยการประกันสุขภาพและระบบสาธารณสุข ที่ถูกผลักดันโดยรัฐบาลของนายบารัค โอบามา  กฎหมายนี้เป็นการปฏิรูประบบสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่กำเนิดโครงการ "เมดิเคด (Medicaid)" และ "เมคิแคร์ (Medicare)" เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว

ในสหรัฐฯ นั้น รัฐบาลไม่จัดสวัสดิการสาธารณสุขให้คนมากเท่าในยุโรป และระบบประกันสุขภาพก็ยังอยู่ในขั้นแบเบาะ  เป้าหมายหลักของ "โอบามาแคร์" คือการทำให้บริการระบบสาธารณสุขเป็นสิทธิที่ทุกคนควรมี และไม่ขึ้นกับความรวยหรือจนมากเท่าที่เป็นอยู่

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand


 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ตอนที่ 2
40ส.ว. โหนอยู่นั้นระวังร่วง
http://www.dailymotion.com/video/x15h7lt_40ส-ว-โหนอย-น-นระว- 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ตอนที่ 1
คิดอะไรไม่ออกบอกต้อง 'มาตรา7'
http://www.dailymotion.com/video/x15h6x0_ค-ดอะไรไม-ออกบอกต-อง- 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ตอนที่ 2
ถ้าแน่จริงให้สนธินำพันธมิตรฯแก้ '112'
http://www.dailymotion.com/video/x15fp4w_ถ-าแน-จร-งให-สนธ-นำพ- 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ตอนที่ 1
มีช่องทางเอาคืนองค์กรอิสระ แต่ที่ผ่านมาไม่รู้จักเอา
http://www.dailymotion.com/video/x15fn0k_ม-ช-องทางเอาค-นองค-กรอ-สระ-แต-ท-ผ-า 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 1 ตุลาคม  2556 ตอนที่ 2
ทฤษฎีใหม่สามัคคีชวน หลีกภัยยอมแตกแยกเพื่อล้มทรราช
http://www.youtube.com/watch?v=kFEMYiuthIo 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 1 ตุลาคม  2556 ตอนที่ 1
ล้นฟ้าหรือเหนือฟ้า
http://www.youtube.com/watch?v=rhW1L-698hw 

  
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 30 กันยายน 2556 ตอนที่ 2
เอาข้อมูลเขื่อนแม่วงก์มาถกกันแทนที่จะเซ็นเซอร์
http://www.youtube.com/watch?v=aua6YQlNktE&feature=share 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 30 กันยายน 2556 ตอนที่ 1
ส่งปฏิทินให้จรัญดู ปีนี้ไม่ใช่ 2549 
http://www.dailymotion.com/video/x15fp4w_ถ-าแน-จร-งให-สนธ-นำพ 

Divas Cafe

Divas Cafe  
 


Divas Cafe ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2556
'ปชป.โมเดล โกอเมริกา'
http://www.dailymotion.com/video/x15hbil_ปชป-โมเดล-
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2556
ก่อนตาย อยากให้สนธิ..
http://www.dailymotion.com/video/x15fs6l_ก-อนตาย-อยากให-สนธ 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2556
ลับ ลวง พราง..ขวางแก้รัฐธรรมนูญ 
http://www.dailymotion.com/video/x15dznh_ล-บ-ลวง-พราง-ขวางแก-ร-ฐธรรม