หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เราอาจเข้าสู่โหมด เลือดล้างแผ่นดิน ด้วยกัน อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด!?!

เราอาจเข้าสู่โหมด เลือดล้างแผ่นดิน ด้วยกัน อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด!?!



Photo


ฝ่ายทหาร มองเกมไว้แล้วว่า ต้องเป็นคนปิดฉาก ปิดบนซากศพ ที่อาจจะมากกว่า 6 ตค.19 และ 19 พค 53

บทวิเคราะห์ โดย อ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์

แนวทางของนายกฯยิ่งลักษณ์ก็คือ จะยอมถอยทุกอย่าง ยอมให้ทุกเรื่อง และจะไม่ใช้กำลังกับม็อบเถี่อนโดยเด็ดขาดไม่ว่าตำรวจจะสูญเสียสักเท่าไร แต่จะไม่ยอมอยู่เรื่องเดียวคือ การลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ ถ้าอยากให้ออกไป ก็ต้องมาปลดหรือทหารยึดอำนาจเท่านั้น

ฉะนั้น ฉากต่อไปที่เราจะได้เห็นจึงเป็นการจัดการกับนายกฯยิ่งลักษณ์โดยตรงด้วยการใช้เครื่องมือ เช่น ปปช.หรือศาลรธน. ให้นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องหยุดหรือต้องพ้นสภาพไป ผมคาดว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าปลายเดือนมกราคม

ขั้นต่อไป ให้ปปช.ฟันสส.และสว.300 กว่าคน ให้วุฒิสภาเหลือแต่พวกสว.ลากตั้งและสว.เลือกตั้งที่รับใช้เผด็จการ (สว.ภาคใต้และกทม.)

ส่วนการจัดการกับคณะรัฐบาลนั้น อาจใช้ปปช.ไล่ฟันรัฐมนตรีไปเรื่อยจนหมดทั้งครม. แต่วิธีการนี้อาจช้าไม่ทันใจ ก็อาจใช้วิธีรัฐประหารด้วยทหารอย่างแนบเนียน เช่น ให้ม็อบติดอาวุธเข้าจับกุมขับไล่คณะ รัฐบาลทั้งหมด อ้างเป็น "การปฏิวัติโดยประชาชน" แต่ที่จริงแล้วคือ เป็นทหารนอกเครื่องแบบ รับคำสั่งมาจากหน่วยเหนือ ล้มรัฐบาลสำเร็จ 

ตระกูลชินวัตรและเครือข่ายจะหนีกันอุตลุดไปนอกประเทศ

ขั้นต่อไป สว.ลากตั้งและเลือกตั้งที่เหลือ "ทำหน้าที่แทนรัฐสภา" เสนอชื่อนายกฯคนใหม่เข้ามา จัดตั้งรัฐบาลเผด็จการ ใช้มาตรการพิเศษกวาดล้างเสื้อแดงทั่วประเทศ

สมาชิกวุฒิสภาที่เหลือทำหน้าที่รัฐสภาต่อ หรือแก้ไขรธน.ให้มีสภานิติบัญญัติแต่งตั้งทั้งหมด เหมือนระบอบรัฐประหารทุกประการ แต่คราวนี้ไม่มีรถถังให้เห็นบนถนน

ผมเชื่อว่า เราต้องเตรียมตัวสำหรับวันเวลานั้น เมื่อนายกฯยิ่งลักษณ์ ตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทยพ้นไปแล้ว ต้องคิดอย่างจริงจังและเตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้ 

(ที่มา)FB      

มติชนวิเคราะห์ ...ไฟ"การเมือง"ลามข้ามปี รัฐบาล"ตั้งรับ"-ป.ป.ช."รุก" "แดง"เริ่มทนไม่ได้

มติชนวิเคราะห์ ...ไฟ"การเมือง"ลามข้ามปี รัฐบาล"ตั้งรับ"-ป.ป.ช."รุก" "แดง"เริ่มทนไม่ได้




วันอาทิตย์สุดท้ายของปี 2556

ปี 2556 เป็นปีที่ประเทศไทยฟันฝ่าอุปสรรคมานานัปการ โดยเฉพาะประเด็นเสียวไส้อย่างความขัดแย้งในข้อพิพาทพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร กรณีเขาพระวิหาร ที่ศาลโลกมีกำหนดตัดสินนั้น...หลายฝ่ายเกรงว่าจะก่อเกิดความวิบัติให้ไทยและกัมพูช

หากแต่ด้วยทีมงานฝ่ายไทยที่มีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในการต่อสู้คดีสามารถคลี่คลายความอึมครึมลงไป ด้วยการแจกแจงข้อต่อสู้ในชั้นศาล กระทั่งผู้พิพากษาศาลโลกยอมรับ

ผลการพิจารณาของศาลโลกจึงออกมาในลักษณะเป็นคุณมากกว่าเป็นโทษ

ชายแดนกลับคืนสู่ความสงบ การค้าการขายเป็นไปตามปกติ ความบาดหมางระหว่างชาติลดน้อยถอยลงไป

แต่ขณะเดียวกัน การเมืองภายในประเทศไทยกลับปะทุขึ้นถึงระดับจุดเดือด !

เมื่อ พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากนิรโทษกรรมเฉพาะชาวบ้านให้กลายเป็นฉบับสุดซอย ...นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ทำให้ฟืนที่เคยเปียกกลับชุ่มโชกไปด้วยน้ำมัน และปะทุกลายเป็นม็อบจำนวนมากออกมาไล่ต้อนรัฐบาล จน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

แต่เหตุการณ์ความวุ่นวายก็ไม่ยุติ เพราะม็อบในนาม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขับเคลื่อน "เป่านกหวีด" ไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้พ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี กดดัน บีบคั้นจน น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับร้องไห้ และเปลี่ยนท่าทีจาก "ถอย" มาเป็นการ "ตั้งรับ"

"ตั้งรับ" ด้วยความเป็นไปตามกติการัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามพระราชกฤษฎีกา หรือการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ  

น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศว่าต้องทำเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตร

ความ ตั้งใจที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศเอาไว้นั้น อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้สะดวกนัก เพราะแม้จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลก็พยายามทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องมีอัน เป็นไป...เลื่อนออกไปก่อน 

ดังนั้น ความวุ่นวายจึงเริ่มต้นตั้งแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยกขบวนเข้าปิดล้อมสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงไว้ กระทั่งต้องเปิดทางให้ผู้สมัครเข้าแจ้งความต่อ สน.ดินแดง เป็นหลักฐานว่ามาสมัครและหาทางจับสลากเลขหมายผู้สมัคร 

ความ รุนแรงเพิ่มดีกรีขึ้นเมื่อ กลุ่ม คปท.เข้าล้อมสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง แทนกลุ่มม็อบราชดำเนิน และเปิดฉากบุกและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีต

ผิดคิว "ลูกพี่ๆ ผมเผารถมันแล้ว" (ชมคลิป)

ผิดคิว "ลูกพี่ๆ ผมเผารถมันแล้ว" (ชมคลิป)



เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด


เป็นคลิปที่มีผู้ใช้ชื่อว่า โดยผู้ใช้ชื่อว่า สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย โพสต์ลงบนยูทูบ ใช้ชื่อว่า"เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด" ที่กำลังส่งต่อกันในโลกออนไลน์
คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งกำลีงบอกกับนักข่าวว่ารถของเขาถูกตำรวจทำลาย ข้าวของถูกไฟไหม้เสียหายหมด โดยอ้างว่าถูกตำรวจทำ ไม่ใช่มือที่สาม

สักพักมีผู้ชายอีกคน สำเนียงหนุ่มเมืองใต้ออกเสียงทองแดงเดินมาจับไม้จับมือ พร้อมบอกชายคนดังกล่าวว่า

"ลูกพี่ ๆ ผมเผารถมันแล้ว ไม่พรื้อ(ไม่เป็นไร)"

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388297952&grpid=00&catid=&subcatid=  

แถลงการณ์องค์กรเลี้ยวซ้าย ต่อต้านเผด็จการ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557

แถลงการณ์องค์กรเลี้ยวซ้าย ต่อต้านเผด็จการ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557 


 


รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหมดสภาพที่จะปฏิรูปสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย ยอมจำนนต่ออำนาจปฏิกิริยาด้วยนโยบายปรองดองสุดซอยจนเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง ปล่อยให้พวกปฏิกิริยาสามารถนำเป็นข้ออ้างระดมคนชั้นกลางในเมืองหลวง และคนใต้ อ้างวาทกรรมมวลมหาประชาชนเข้ามาชุมนุมขนานใหญ่ โหนเจ้ากล่าวหาคนที่คิดต่างว่าเป็นพวกไม่รักชาติ  อ้างสันติอหิงสา แต่ข่มขู่คุกคามปล่อยอันธพาลออกเพ่นพ่านทั่วกรุง มุ่งแช่แข็งประเทศไทย แม้นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ประกาศการเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557 แล้ว ฝ่ายปฏิกิริยาที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติ นับวันยิ่งชัดเจนว่า การล้มกฎหมายนิรโทษกรรม โค่นระบอบทักษิณ จัดตั้งสภาประชาชน ปฏิรูปประเทศไทยล้วนเป็นการอ้างเพื่อทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ที่เอาพลเรือนออกหน้า มีขุนทหาร กลุ่มอำมาตย์หนุนหลังอย่างเต็มที่ มีองค์กรอิสระเรียงหน้าออกมาขวางการเลือกตั้ง 

ในการโจมตีขบวนการปฏิกิริยาของสุเทพ และปกป้องประชาธิปไตยรัฐสภาทุนนิยม องค์กรเลี้ยวซ้ายขอย้ำว่า ฝ่ายก้าวหน้าและผู้รักประชาธิปไตยยังคงต้องยืนหยัดยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550  ต้องปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน ต้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 และต้องนำทหารอำมาตย์กับนักการเมืองมือเปื้อนเลือดมาลงโทษ  ต้องปฏิรูปศาล และยกเลิกองค์กรอิสระทั้งปวงที่เป็นมือเป็นเท้าให้กับระบบอำมาตย์  องค์กรด้านบริหารการศึกษา พวกปฏิกิริยาที่ครอบงำทุกมหาวิทยาลัยต้องถูกปลดพ้นไปพร้อมๆกัน  

ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เราต้องกล้าสร้างความมั่นใจในการเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนชั้นล่างเพื่อแข่งแนวทางกับพรรคเพื่อไทย จะต้องไม่หวังพึ่งพรรคการเมืองที่ยอมคุกเข่า ศิโรราบให้กับศัตรูและ ต้องไม่หวังการนำจาก นปช.ที่รอเสวยตำแหน่งต่างๆในคณะรัฐมนตรีอย่างที่ผ่านมา   ต้องศึกษาแนวทาง และสร้างแนวร่วมกับพรรคเล็กที่ก้าวหน้า นักสหภาพแรงงานผู้รักประชาธิปไตย และมวลชนคนเสื้อแดงผู้รักความเป็นธรรม แต่ไม่ควรหลงลืมว่าการเมืองมีองค์ประกอบมากมาย ทั้งการเลือกตั้งและการเคลื่อนไหวนอกสภา องค์กรเลี้ยวซ้ายเชื่อว่า “สังคมนิยม” ต้องมาจากการกระทำของชนชั้นกรรมาชีพเอง ไม่ใช่มาจากการวางแผนโดยผู้นำคนเดียว กลุ่มคนชั้นสูงในวงแคบ ๆ ผู้นำพรรค หรือกองทัพ  มันเป็นเรื่องของรากหญ้า ดังนั้นสังคมพึงปรารถนาต้องออกแบบและสร้างสังคมจากล่างสู่บนโดยคนรากหญ้าเอง “สภาประชาชน” ของสุเทพล้วนเป็นสิ่งโกหกหลอกลวงที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ และหลอกลวงซ้ำด้วย “การปฏิรูป” ที่ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้
  
ขณะที่ ผบ.ทบ.หรือขุนทหารที่หนุนหลังสุเทพ ตบตามวลชนด้วยการวางตัวเป็นกลางระหว่างกบฎที่ขัดขวางการเลือกตั้ง กับ ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศที่ต้องการการเลือกตั้ง 

องค์กรเลี้ยวซ้ายมีข้อเสนอเฉพาะหน้า 5 ประการดังนี้ คือ

1. กลุ่มเผด็จการปฏิกิริยาสุเทพ เทือกสุบรรณต้องยุติการชุมนุม โดยทันที

2. กกต. และกระบวนการเลือกตั้งต้องเดินหน้าตามกำหนด ไม่มีการเลื่อนออกไปโดยเด็ดขาด

3. การแทรกแซงของทหาร ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ จะต้องถูกต่อต้านทั่วประเทศ

4. รักษาการรัฐบาลจะต้องปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนอย่าง    ไม่มีเงื่อนไข และยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เป็นเครื่องมือคุกคามประชาชน

5. ฆาตกรมือเปื้อนเลือดในเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 53 จักต้องถูกลงโทษ

ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจและปกครองตัวเองได้ ระบบเศรษฐกิจการผลิตแบบใหม่จะถูกควบคุมโดยพลเมืองทุกคน และมีความเสมอภาคเต็มที่ ไม่มีคนรวย ไม่มีคนจน ไม่มีการกดขี่ทางเพศหรือเชื้อชาติ  ไม่มีเจ้านาย ไม่มีชนชั้น บริหารกันเองประสานกับส่วนอื่นของสังคม ทรัพยากรของโลกจะเป็นของส่วนรวม มนุษย์จะสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มที่ พลเมืองทั้งสังคมจะได้มีศักดิ์ศรีและได้รับความเคารพรักซึ่งกันและกัน

ประชาชน ชนชั้นกรรมาชีพ ผู้รักประชาธิปไตย จงรวมกันเข้า !!!เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557

องค์กรเลี้ยวซ้าย                                                                           
28 ธันวาคม 2556

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/12/2-2557.html