ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมในพม่าถูกปลุกโดยทหาร
สื่อ
กระแสหลักชอบเผยแพร่นิยายว่าความรุนแรงที่กำลังเกิดในพม่า มาจากความขัดแย้ง
“ธรรมชาติ” ระหว่างคนที่มีเชื้อชาติและศาสนาต่างกัน
แต่ในดินแดนที่ปัจจุบันเป็นพม่า ชนชาติต่างๆ อาศัยด้วยกันอย่างสงบมานาน
ยุทธวิธี “แบ่งแยกและปกครอง” เป็นสิ่งที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษพัฒนามานาน
เพื่อไม่ให้เกิดความสามัคคีกันระหว่างคนพื้นเมืองซึ่งจะมาท้าทายการปกครอง
ของเจ้าอาณานิคม และจักรวรรดินิยมตะวันตกมีนักวิชาการเชื่องชื่อ J.S. Furnivall
ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการอังกฤษ ที่เสนอทฤษฏีเรื่อง “พหุสังคม”
เพื่อแก้ตัวว่าคนเชื้อชาติต่างๆ มักแยกกันอยู่และแบ่งงานกันทำตามธรรมชาติ
และแน่นอน “ธรรมชาติ” ระบุว่าคนตะวันตกต้องเป็นผู้ปกครอง
มันตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
เพราะอำนาจตะวันตกเป็นผู้กำหนดว่าเชื้อชาติไหนจะมีสิทธิ์ทำงานประเภทไหน
พูดภาษาอะไร และอาศัยอยู่ในส่วนไหนของเมือง
ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อเอกราชจากอังกฤษ องค์กรชาตินิยมพม่าชื่อ Dobama Asiayone
ซึ่งมี อองซาน เป็นสมาชิกสำคัญ มีนโยบายชาตินิยมพุทธสุดขั้ว
องค์กรนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการก่อจลาจลทำร้ายคนเชื้อสายอินเดียที่เป็นกรรมกร
ท่าเรือในปี 1930
ในปีนั้นกรรมกรท่าเรือเชื้อสายอินเดียนัดหยุดงาน
แต่อังกฤษนำแรงงานพม่ามาแทนที่ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างหนัก
พวกชาตินิยมพม่ามองว่าแรงงานเชื้อสายอินเดียเป็น “คนต่างชาติ”
ที่มาแย่งงานคนพม่า
นอกจากนี้พวกชาตินิยมใช้นายธนาคารอินเดียเป็นแพะรับบาปเพื่อโทษว่าเขาเป็น
ต้นเหตุแห่งความยากจนในหมู่ชาวนาพม่า
แต่ในความเป็นจริงชนบทพม่ามีความเหลื่อมล้ำทางสังคมภายในเชื้อชาติพม่าสูง
และคนที่ปล่อยกู้ให้คนจนในชนบทเป็นคนพม่าในหมู่บ้านเดียวกัน ต่อมาในปี 1938 มีการทำร้ายชาวอินเดียที่นับถือศาสนาอิสลาม