"สุรพงษ์"จ่อบินเขมรขอข้อมูลสุเทพถกลับที่ทับซ้อนกัมพูชา-พร้อมเรียก'อภิสิทธิ์-สุเทพ'แจง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่แอบไปเจรจาลับกับประเทศกัมพูชา เรื่องก๊าซปิโตรเลียมในอ่าวไทยเมื่อครั้งเป็นรัฐบาล ว่า ตนได้ดูในรายละเอียดของแถลงการณ์ปิโตรเลียมกัมพูชาที่ออกมา ซึ่งในเอกสารคำแถลงการณ์ดังกล่าวมีประเด็นว่า รัฐบาลในปี 2542-2544 ช่วงที่มี MOU นั้นทุกอย่างทำด้วยความเปิดเผย แม้กระทั่งในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมีการไปติดต่อหรือไปพูดคุยกัน ทุกอย่างจะเปิดเผยหมด โดยพ.ต.ท.ทักษิณจะนำสื่อมวลชนไปด้วย เพียงแต่ข่าวจะไม่มากเท่าตอนนี้ และทุกอย่างในการตกลง ทุกขั้นตอนจะทำเปิดเผยมาโดยตลอด
"อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ฉบับของกัมพูชาได้ระบุว่าจำเป็นต้องเปิดเผย เพราะสิ่งที่นายสุเทพได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีให้ไปพูดคุยกัน 2-3 ครั้ง เป็นความลับทั้งหมด จึงจำเป็นต้องให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพชี้แจงว่าไปพูดอะไรมา เพราะข้อสงสัยอันนี้ ตนเชื่อว่าสังคมไทยคงจะเคลือบแคลงเช่นกัน"นายสุรพงษ์กล่าว
"ผมจะประสานอย่างเป็นทางการไปยังกัมพูชาว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เขาได้ไปพูดคุยกันนั้นมันเป็นประโยชน์ของประเทศจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าผมได้ประสานไปแล้วได้ข้อมูลอย่างไร ก็จะแถลงข่าวให้ทราบ และเพื่อความสบายใจของประชาชน ผมยืนยันว่าตั้งแต่นี้ไปในการติดต่อกับกัมพูชา ผมจะทำอย่างเปิดเผย" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนการยกเลิก MOU ปี 44 นั้น รมวต่างประเทศ กล่าวว่า MOU นั้นถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2552 โดยมีมติครม.แต่ปรากฎว่าไม่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงการพูดแต่ปาก ต่อมาในวันที่ 25พ.ย.2553 ห่างกันเป็นเวลากว่าหนึ่งปี กลับแต่งตั้งนายสุเทพ มาเป็นประธานคณะกรรมการเจรจาอีกครั้งหลังจากได้ลาออกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ซ่อมส.ส. จ.สุราษฎร์ธานี ตนจึงมีข้อสงสัยว่าเหตุใดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่พูดตลอดว่ายกเลิกแล้ว และสังคมก็เข้าใจว่ายกเลิกแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆกลับไม่ยกเลิก
"กระทั่งเกิดมีแถลงการณ์ปิโตรเลียม ที่ค่อมระหว่างช่วงนั้นพอดี ซึ่งเป็นวันที่ที่นายสุเทพไปพบ2 ครั้งก่อนหน้าที่จะยกเลิก และอีก 1 ครั้ง อยู่ระหว่างการยกเลิกกับการแต่งตั้งนายสุเทพขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการ เจรจาใหม่ ตนจึงขอให้นายสุเทพชี้แจงให้ชัดเจน เพราะในข้อมูลนั้นกัมพูชาได้ระบุว่าเป็นการเจรจาลับ ซึ่งเป็นการไปคุณหมิง 1 ครั้ง ฮ่องกง 1 ครั้ง"รมว.ต่างประเทศ กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุใดกัมพูชาจึงไม่เปิดเผยข้อมูลในห้วงเวลาก่อนหน้านี้ และทำไมต้องเจาะจงเปิดในช่วงนี้ จะมีนัยยะซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ เพราะในวันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล นางอนิก อัมระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนลุกขึ้นอภิปรายเรื่องนี้ และตนได้ลุกขึ้นตอบ เนื่องจากตนได้เตรียมข้อมูลต่าง ๆ ไว้เพราะคาดการณ์ว่าจะต้องมีการถูกซักถามในประเด็นนี้ ทั้งนี้ การตกลงร่วมกันในพื้นที่ทะเลนั้น เท่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความได้เปรียบเสียเปรียบ หากส่วนไหนใกล้ประเทศไทยไทยก็จะได้สัดส่วนมาก หากส่วนไหนใกล้กัมพูชาก็ให้กัมพูชาได้สัดส่วนมาก ส่วนตรงกลางเราจะแบ่งเป็น 50:50 ซึ่งค่อนข้างจะยุติธรรมอยู่แล้ว
"แต่ในวันนั้นฝ่ายค้านพยายามจะชี้ให้สังคมเห็นว่าสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณมี ผลประโยชน์ทับซ้อน แต่เมื่อมาดูในรายละเอียดที่ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงต่อตน จะเห็นว่าสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ เวลาไปประชุมร่วมกัน จะมีการแถลงทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าการสอบสวนคงไม่นานเท่าใด โดยหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือไปอย่างเป็นทางการ"นายสุรพงษ์กล่าว
ส่วนที่ฝ่ายค้านพยายามระบายสีว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปมีผลประโยชน์กับทางกัมพูชา รัฐบาลจะชี้แจงอย่างไร รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงมีอยู่แล้วเมื่อตอนตกลงเรื่อง MOU ว่ามีผลประโยชน์หรือไม่ ทั้งนี้ หากตนได้หลักฐานทั้งหมดหรือข้อสรุปทั้งหมดก็จะนำเสนอข้อเท็จจริงให้สังคมได้ รู้ แต่ช่วงนี้มันมีประเด็นที่ว่าทางรัฐบาลชุดที่ผ่านมาไปพูดกับกัมพูชาในทางลับ จนทำให้กัมพูชาคิดว่าต้องเปิดเผย เพราะทางนั้นไม่สบายใจ โดยกัมพูชายืนยันชัดเจนว่าจะคำนึงถึงประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา อย่างเป็นธรรมที่สุด และจะประสานให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อไป
เมื่อถามว่า จะเป็นการปูทางให้รัฐบาลชุดนี้ไปดำเนินการเองหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ได้ปูทางว่าจะไปดำเนินการเอง แต่เมื่อขั้นตอนมาถึง สิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ทำไว้ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลชุดนี้ อันไหนที่เป็นประโยชน์กับประเทศก็พร้อมที่จะดำเนินการให้สามารถเดินหน้าต่อ ไปได้ อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบออกมามีความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน สังคมรับได้ก็จบ
เมื่อถามว่า เบื้องต้นมีข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดบริษัทร่วมกันระหว่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหมกับนายสุเทพหรือไม่ รมว.กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบถึงขนาดนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น