การแก้ปัญหาความเสียหายจากน้ำท่วมเป็นเรื่องชนชั้น
น้ำท่วมครั้งนี้กระทบพลเมือง 2 ล้านคน บ้านเรือนเสียหายกว่า 700,000 หลัง ยอดคนตายเกิน 270 ราย และกระทบ 27 จังหวัด
หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานว่าโรงงานอุตสาหกรรมของบริษัทขนาดใหญ่ต้องปิด 198 แห่ง และน้ำท่วมที่นา ซึ่งทั้งสองจะมีผลต่อการส่งออกและเศรษฐกิจโดยทั่วไป อันนี้ยังไม่นับผลต่อคนงานหรือเกษตรกรที่ต้องเสียอาชีพไป กระทรวงการคลังประเมินขั้นต้นว่าค่าเสียหาย 69 พันล้านบาท นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร HSBC คาดว่าเศรษฐกิจจะชลอลง 1%
วารสาร Economist รายงานว่าหอการค้าไทยประเมินค่าเสียหายที่ 150 พันล้านบาท และวารสารฝ่ายขวานี้ถามว่ารัฐบาลจะสามารถขึ้นค่าแรงตามสัญญาและเดินหน้ากับ โครงการเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เด็กนักเรียนได้หรือไม่
ในขณะเดียวกันรัฐบาลประกาศตัดงบประมาณกระทรวงต่างๆ10% ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจหดตัว
ในความเป็นจริงการแก้ปัญหาความเสียหายจากน้ำท่วมเป็นเรื่องชนชั้น เพราะมีสองทางเลือกคือ
(1)“ทำเพื่ออำมาตย์และคนรวย” โดยตัดงบประมาณที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตามกระทรวงต่างๆ งดขึ้นค่าแรงตามที่เคยสัญญา ใช้เงินจากกองทุนประกันสังคมแทนที่จะเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าจากคนรวย ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่คนจนจ่าย และชดเชยบริษัทนายทุนเป็นหลักหรือ
(2) “ทำเพื่อประชาชนคนส่วนใหญ่ที่ยากจน” โดยการเก็บภาษีทางตรงจากอำมาตย์เศรษฐี งดซื้ออุปกรณ์ทหาร งดพิธีใหญ่ๆ และเพิ่มค่าแรงทุกจังหวัด เพื่อสร้างงาน ซ่อมแซมความเสียหาย และกระตุ้นเศรษฐกิจ
เกรงว่ารัฐบาลจะเลือกทางแรก
ใจ อึ๊งภากรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น