หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รำลึก7ปีตากใบ จี้เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

http://www.prachatai.com/journal/2011/10/37681 

 

ในค่ำคืนหนึ่ง : 7 ปี ตากใบ

คืนฟ้าหม่นมัวที่รัวรุก
คอยซุกบางสิ่งกลางนิ่งหยุด
สู่เสียงดังซ้ำกระหน่ำทรุด
ควันร้อนเร่ารุดมากจุดนั้น



กลางโลกที่อ่วมน้ำท่วมหนัก
อีกโลกกระอักกับดักลั่น
กับความชุลมุนท่ามฝุ่นควัน
อีกร้อนเพลิงกัลป์ชวนพรั่นพรึง



ท่ามความเจ็บปวดที่หวดฟาด
สีแดงฉายฉาดราดกลิ่นหึ่ง
ทุกที่ซุกเบียดความเครียดตึง
ขาดผึงจึงร่ำทางน้ำตา



คือความโหดร้ายที่กรายย่ำ
รุกล้ำกายใจเหมือนไร้ค่า
วูบดับเต็มลานกาลเวลา
7 ปีผ่านมาระอาใจ



เป็นดึกที่ล้นอลหม่าน
ทั่วทุกหย่อมย่านเรือนชานใกล้
กับคืนอำพรางมิวางใจ
ระแวงหวาดไหวภายในตน



เงาเงียบเร้นกายอยู่ภายนอก
ในหมอกม่านควันอันแสนหม่น
ยิ้มเยียบเงียบแอบอยู่แยบยล
ลึกใดในหนต่อผลงาน



จึงค่ำคืนนี้ฟ้าสีเทา
เขม่าดินปืนเป็นผืนม่าน
ลบจันทร์จางหายจากฟ้าลาน
จนนานมืดมัวความกลัวเร้น



ให้ใครหลายคนนอนไม่หลับ
อีกหลายต้องซับกับทุกข์เข็ญ
น้ำหน่วยคลอตาพร่ากระเซ็น
คอยเวียนให้เห็นอยู่เช่นนี้



เหมือนฝันที่เป็นเช่นฝันร้าย
เหมือนบ่ายที่ร้อนกร่อนวิถี
อยู่กลางว้าเหว่อเวจี
กับหนทางหนีช่างลี้ลับ



หลายคนตื่นคว้างในกลางดึก
ด้วยเสียงหลอนลึกสำนึกจับ
ภายในร่องรอยความย่อยยับ
ที่ขับขานก่อทอฝันร้าย



ต่อคำถามมากมายไม่รู้จบ
ดั่งเป็นทำนบตระหง่านฉาย
เบื้องหน้าแท้ยามความเดียวดาย
(ที่)มิอาจกล้ำกรายแม้รายเดียว



จึงทำได้เพียงหวนเมียงหา
สบค่าอดีตที่ซีดเหี่ยว
ครั้งหนึ่งเพาะบ่มความกลมเกลียว
ไร้แพร่งทางเลี้ยวจนเชี่ยวร้อน



ดวงตาหวาดหวั่นในวันนี้
เคยมีความฝันของวันก่อน
แต่กลับถูกหมกตกตะกอน
ทั้งกร่อนร่อนหายในร้ายวัน



ต่อคำตอบที่ไม่มีใครล่วงรู้
ดั่งว่าประตูยังปิดกั้น
ที่เห็นก็ยังเป็นอยู่เช่นนั้น
ที่ฝันก็นับวันจะฝันไกล.





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น