สันดานของ "ทุน"
โดย ฐากูร บุนปาน
ผลพวงอย่างหนึ่งจากอุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ที่รัฐบาลวิตกนักหนาก็คือ เกรงว่านักลงทุนต่างประเทศจะ "เมิน" เมืองไทย
คนที่ลงทุนอยู่แล้วก็จะย้ายโรงงานออกไป คนที่กำลังตัดสินใจจะลงทุนก็จะไปเลือกที่อื่นแทน
ถ้าไม่กังวลขนาดนั้น จะต้องตั้ง กยอ. ที่มี "อาจารย์โกร่ง" ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานขึ้นมาทำไม
และอาจารย์โกร่งเขาจะต้องเดินสายไปโน่นมานี่ไม่มีหยุดเพื่ออะไร
ซึ่งเชื่อว่ามีธุรกิจหรืออุตสาหกรรมไม่น้อยจับ "จุดสลบ" ของรัฐบาลข้อนี้ได้
สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงมีองค์กรธุรกิจหรือโรงงานบางแห่งออกมาประกาศตัวอย่างห้าวหาญว่า
ไม่อยู่แล้วเมืองไทย
เริ่มต้นก็อ้างเหตุจากอุทกภัยครั้งใหญ่ เรื่อยไปจนถึงความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหา
บอกว่าไม่เชื่อน้ำยารัฐบาลจะป้องกันอะไรได้...
คนที่ลงทุนอยู่แล้วก็จะย้ายโรงงานออกไป คนที่กำลังตัดสินใจจะลงทุนก็จะไปเลือกที่อื่นแทน
ถ้าไม่กังวลขนาดนั้น จะต้องตั้ง กยอ. ที่มี "อาจารย์โกร่ง" ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานขึ้นมาทำไม
และอาจารย์โกร่งเขาจะต้องเดินสายไปโน่นมานี่ไม่มีหยุดเพื่ออะไร
ซึ่งเชื่อว่ามีธุรกิจหรืออุตสาหกรรมไม่น้อยจับ "จุดสลบ" ของรัฐบาลข้อนี้ได้
สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงมีองค์กรธุรกิจหรือโรงงานบางแห่งออกมาประกาศตัวอย่างห้าวหาญว่า
ไม่อยู่แล้วเมืองไทย
เริ่มต้นก็อ้างเหตุจากอุทกภัยครั้งใหญ่ เรื่อยไปจนถึงความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหา
บอกว่าไม่เชื่อน้ำยารัฐบาลจะป้องกันอะไรได้...
"หากเหตุผลที่แท้จริงของการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนไม่ว่าไทยหรือเทศเหล่านี้คือ ต้องการจะประหยัดต้นทุนค่าแรง
รัฐบาลและสังคมไทยควรจะปูผ้าแดงและจุดประทัดส่งท่านออกไปทันที
เพราะอุตสาหกรรมได้รับสิทธิประโยชน์และกำไรมหาศาลไปแล้วมากมาย แต่ยังคิดได้แค่จะ "ขูดรีด" จากแรงงานต่อไป
ควรจะเก็บไว้หรือไม่-ท่านก็ลองตรองดู
ทุนประเภทนี้ถึงจะกราบไหว้อ้อนวอนหรือทุ่มเทให้เพียงใด วันหนึ่งก็จะย้ายฐานออกไปหาที่อื่นที่สามารถขูดรีดได้สะดวกกว่าอยู่ดี
ถ้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือการลงทุน ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนส่วนใหญ่ด้วย
จะ "พัฒนา" กันไปทำไม"
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322572097&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น