อำมาตย์จวนตัวใช้แผนแดงฆ่าแดง ประชาชาติไทยถูกผลักไสให้เลือกแนวทางปฎิวัติ
ภาพล่าสุดของจักรภพ เพ็ญแข ใส่เสื้อแดงสกรีนรูปดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำการปฏิวัติ 2475 เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์จากต่างประเทศ ซึ่งไม่ระบุสถานที่แน่ชัดว่า หนทางการปรองดองดูตีบตันเพราะนโยบายของฝ่ายอำมาตย์กำลังผลักไสให้ประชาชนไทย ลุกฮือขึ้นปฏิวัติมวลชนแทน แม้แต่กลไกที่เรียกว่า"แดงฆ่าแดง"ก็ไม่อาจปิดบังโฉมหน้าที่แท้จริงของระบอบ นี้ได้อีกต่อไป
"ผมประเมินว่าเมืองไทย ณ วันนี้มีบรรยากาศคล้ายวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ หรือวันรุ่งขึ้นหลังการปฏิวัติสยามโดยคณะราษฎร สถาบันกษัตริย์ภายใต้รัชกาลที่ ๗ ถูกยึดอำนาจไปแล้วหลังเวลา ๖.๐๐ น. ของวันที่ ๒๔ ด้วยความอ่อนแอหรือประมาทเลินเล่ออย่างไรก็ตาม แต่ปฏิสัมพันธ์ในช่วงหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงทำให้เหตุการณ์กลับตาลปัตร พระปกเกล้าฯ เสด็จฯ กลับจากหัวหินคืนสู่พระนคร และผู้แทนของคณะราษฎรก็ได้เฝ้าฯ เกือบจะในทันที
ผม เข้าใจว่าความกลัวสถาบันกษัตริย์ในส่วนลึกของหัวใจของผู้ปฏิวัติ ประกอบกับความประหลาดใจที่กษัตริย์ไม่ขอลี้ภัย (ซึ่งน่าจะเป็นเพราะห่วงใยพระราชวงศ์ที่ถูกกักขังเป็นตัวประกันอยู่) ทำให้บางคนในคณะราษฎรเกิดความคิดในทางประนีประนอม และยังเผลอคิดต่อไปว่าการ “ปรองดอง” เช่นนั้นจะนำไปสู่ความสงบของบ้านเมือง และทำให้พลเมืองได้รับโอกาสร่วมปกครองบ้านเมืองโดยอัตโนมัติ
แม้ มีลางบอกเหตุหลายอย่างก็กลับไม่สังเกตเห็นหรือมองข้ามไปเสีย อาทิ การที่พระปกเกล้าฯ ขอเติมคำว่า “ชั่วคราว” หลังธรรมนูญการปกครองสยาม พ.ศ.๒๔๗๕ ที่คณะราษฎรอุตส่าห์เสี่ยงหัวขาดเสนอขึ้นมา
จนทำให้เกิดรัฐธรรมนูญแบบ “ปรองดอง” ขึ้นมาแทนในวันที่ ๑๐ ธันวาคมของปีเดียวกันนั้น"
"ประชาธิปไตยจึงพิการมาตั้งแต่ก้าวแรกที่เริ่มต้น"
(อ่านต่อ)
http://thaienews.blogspot.com/2011/12/blog-post_3695.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น