การตลาด การเมือง พิมพ์เขียว "การปรองดอง" บาทก้าว ในเชิงรุก
การตลาด การเมือง พิมพ์เขียว "การปรองดอง" บาทก้าว ในเชิงรุก
หากมองการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่าง
วันที่ 11-13 เมษายน ที่ลาว ระหว่างวันที่ 14-16 เมษายนที่กัมพูชา ผ่านแว่นอย่างที่เรียกว่า การตลาด
การเมือง
ทั้งหมดอันปรากฏขึ้นตลอด 6 วัน คือสิ่งที่เรียกว่า
อีเวนต์
ไม่ว่าจะเป็นพิธีรดน้ำดำหัว
ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายจากนครเวียงจันทน์ไปปากเซแล้วไปยุติที่เสียมราฐ
เพื่อขึ้นเวทีคอนเสิร์ต
เล็ท อิท บี
ล้วนมีการจัดวางตามแผนการตลาดอย่างรัดกุม
ตั้งแต่เมื่อบินอย่างเงียบไปยังฮ่องกงก่อนเดินทางเข้านครเวียงจันทน์
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า
นายนภดล ปัทมะ ก็เพิ่งเดินทางไปฮ่องกง
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นอกเหนือจาก นายนิสิต สินธุไพร
แล้วยังมี นายจตุพร พรหมพันธุ์
เป็นผู้ประสานทั้งที่เวียงจันทน์และเสียมราฐ
เมื่อทุกอย่างพร้อมการเสนอตัว "สินค้า"
ก็เริ่มขึ้น
ภาษาการตลาดเขาเรียกว่า "ลอนซ์"
ภาษาทางการเมืองเขาเรียกว่าการแสดงตัวตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ ด้านหลัก 1 คือ การสำแดงพลัง 1 คือ
การเสนอประเด็นปรองดอง
เป็นการเสนออย่างมีพิมพ์เขียว
ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด คือ
การสื่อสารจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปยัง พล.อ.เปรม
ติณสูลานนท์
"ผมไม่ใช่คู่กรณีกับท่าน"
เป็นไปตามข้อเรียกร้องด้วยความปรารถนาดีของ
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งเปิดเกมรุกให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
เปิดเบื้องหลังการทำรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
ขณะเดียวกัน
ก็ตัดคัตเอาต์แห่งความหมางหมองใจอย่างยาวนาน
ต่อมา ก็คือการประกาศดันหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในฐานะผู้นำ ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มพิกัด
พร้อมกับคำมั่น "จะไม่ขอกลับไปรับตำแหน่งนายกฯอีก"
เป็นการให้หลักประกันว่าจะวางมือจากการเมืองเรื่องตำแหน่งต่างๆ
อย่างสิ้นเชิง อย่างมากก็ขอแค่เพียงเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องสาว
และที่แหลมคมยิ่งกว่านั้นก็คือ
ข้อมูลอันมาจาก นายเสนาะ เทียนทอง
"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจต้องยอม
ไม่รับการคืนเงิน 4-6 หมื่นล้านบาท คิดเสียว่าเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลไป"
สอดรับกับที่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวผ่านเว็บไซต์ อาร์ไอเอ โนวอสติ
"ของที่ถูกยึดผมคงไม่เรียกร้องกลับคืน"
ทั้งหมดนี้คือการเสนอเงื่อนไขจาก
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อันเป็นความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะเข้าสู่โหมดการปรองดอง
แม้กระทั่งการพิจารณาคดีต่างๆ
ก็พร้อมเต็มที่
เพียงแต่เป็นเงื่อนไขที่ไม่ยอมรับองค์กรพิเศษอันเป็นการจัดตั้งขึ้นจากผลพวงแห่งการรัฐประหารอย่าง
คตส. เป็นต้น
ความพร้อมในที่นี้คือ
กลไกแห่งกระบวนการยุติธรรมตามปกติ
มองผ่านกระบวนการการตลาดทางการเมือง อีเวนต์
ครั้งนี้จึงเป็นการเสนอประเด็นอันนำไปสู่การปรองดอง
เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงรุก
เป็นฝ่ายกระทำ
เมื่อกำหนดเงื่อนไขเช่นนี้แล้ว แถลงจาก นายนภดล ปัทมะ
แถลงจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการก็ดำเนินไปอย่างรอบคอบรัดกุม
1 เสนอกฎหมายปรองดองผ่าน
พ.ร.บ.ไม่ใช่ พ.ร.ก.
1 เจ้าภาพไม่ใช่รัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งมิได้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยอันเป็นพรรคภายใต้อิทธิพลโดยตรงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 1
มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นภาระของพรรคขนาดเล็กหรือภาคประชาชน ขับเคลื่อน
มากด้วยความรอบคอบ
มากด้วยความรัดกุม
การรุกครั้งใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นการรุกอย่างมีการวางแผนทั้งการตลาด การเมือง
มีการต่อต้านจากพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน
มีการต้านจากกลุ่มที่เคยมีบทบาทในการรัฐประหารแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตร กลุ่มสยามสามัคคี
กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์
ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือเป็นการต้านในลักษณะตั้งรับว่าจะปรองดองหรือไม่ปรองดอง
(ที่มา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น