หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การเชียร์โอลิมปิกกับความเท่าทันชาตินิยม

การเชียร์โอลิมปิกกับความเท่าทันชาตินิยม


 
โดยประวิตร โรจนพฤกษ์


การเชียร์เทควันโดหญิงไทยแข่งโอลิมปิกอย่างมีอารมณ์ร่วมทำให้ผู้เขียน ตระหนักอีกครั้งถึงอำนาจอันหยั่งลึกไพศาลของลัทธิชาตินิยมที่แม้แต่ตนเองก็ มักหนีไม่พ้นอย่างสมบูรณ์

การเชียร์ ‘น้องเล็ก’ ชนาธิป ซ้อนขำ แข่งกับสเปนทำให้ผู้เขียนตระหนักว่า ผู้เขียนเชียร์เพียงเพราะเกิดเป็นคนไทย และหากผู้เขียนดันเกิดเป็นคนสเปน ก็คงหันไปเชียร์นักกีฬาสเปนแข่งกับไทยเป็นแน่แท้ (หรือกรณีเชียร์นักมวยโอลิมปิกไทย แก้ว พงษ์ประยูร ชิงเหรียญทองกับจีนก็เช่นกัน)

การเชียร์ทีมชาติของตนเองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกช่วยย้ำเตือนให้ผู้ เขียนตระหนักว่าหลายอย่างที่เราอาจคิดว่าเป็นสิ่งที่เราตัดสินเลือกเองอย่าง เป็นอิสระ (free will) แท้จริงแล้วหาได้เป็นอิสระจริงๆ อย่างที่คิดไม่ และไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือนับถือในศาสนาใดหรือไม่เชื่อในอะไรเลย คุณก็มิสามารถปฏิเสธได้ว่าทุกคนเลือกสังคม ครอบครัว เพศ และยุคสมัยที่เราเกิดไม่ได้ ปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อความเป็นตัวตนของเราเองอย่างมหาศาล หากคนจำนวนมิน้อยอาจมิได้ฉุกคิด


หากเราไม่ตระหนักคิดเท่าทันต่อปัจจัยเหล่านี้ เราก็อาจไม่ต่างจากปลาทองที่หลงคิดว่าตนได้เป็นคนเลือกตู้ปลาหรือขวดโหลแก้ว ที่อาศัยอยู่ด้วยตนเอง แต่ถ้าเราตระหนัก มันจะช่วยเราตั้งคำถามถึงสิ่งที่เรียกว่า free will หรือการตัดสินใจเลือกด้วยตนเองอย่างเป็นอิสระ

เพราะฉะนั้น แท้จริงแล้วคนส่วนมากมิได้เลือกที่จะเชียร์ทีมชาติตนเองแข่งกับชาติอื่น หากถูกอุดมการณ์ชาตินิยมหล่อหลอมให้เชื่อว่าการเชียร์ทีมชาติตน การเข้าข้างชาติตนและการยึดถือผลประโยชน์ชาติตนเป็นหลักนั้นเป็นเรื่องปกติ ถูกต้องและธรรมชาติเป็นที่สุด

(ตัวอย่างอื่นที่สะท้อนอิทธิพลของสังคมและยุคสมัยที่เราเกิดได้แก่: ความรู้สึกที่คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าอาหารชาติตนนั้นอร่อยที่สุดในโลกหรือ อย่างน้อยก็ถูกปากที่สุด/ หลายคนที่สนใจเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือประหยัดพลังงานคงไม่ได้สนใจ เรื่องเหล่านี้หากเกิดมามีชีวิตเมื่อสามศตวรรษที่แล้ว/ หากคุณดันเกิดในสมัยอยุธยา คุณจะสนใจเรื่องประชาธิปไตยไหมและทำไม?/ ถ้าคุณดันเกิดเป็นคนที่ถูกกดขี่ในยุคสงครามปลดแอกเพื่อเอกราชของอเมริกาจาก พระเจ้าจอร์ชที่ 3 ของอังกฤษ โอกาสที่คุณจะเป็นพวกเจ้านิยมนั้นสูงหรือต่ำแค่ไหนและทำไม?/ ในสงครามแต่ละคนก็มักเลือกที่จะสู้เพื่อบ้านเกิดตนทั้งๆ ที่บ้านเกิดตนเป็นสิ่งที่ตนมิสามารถเลือกเองได้และหากตนดันไปเกิดเป็นทหาร ของประเทศคู่อริก็คงไปต่อสู้อยู่ฝั่งตรงข้ามของสงคราม)

ในมุมมองผู้เขียน หากคุณสามารถเชียร์ทีมชาติอื่นแข่งกับชาติคุณเองได้ ก็แสดงว่าคุณมิได้ติดอยู่ใต้อิทธิพลของลัทธิชาตินิยมอย่างสมบูรณ์แบบ (และแม้แต่ผู้เขียนก็ยังอดเชียร์ทั้งชนาธิปกับจ่าแก้วมิได้) และแม้เราจะตระหนักและรู้เท่าทัน มันก็ยังเป็นสิ่งยากลำบากที่จะหลีกเลี่ยงการมีความรู้สึกผูกพันกับประเทศ บ้านเกิดเพราะมันเป็นเรื่องของอารมณ์ที่หยั่งลึกซึ่งต่างจากเหตุผล – แต่การตระหนักก็ดีกว่าการไม่รู้ตัวหรือไม่ตระหนักอะไรเลยถึงอิทธิพลของสถาน ที่และยุคสมัย (กาละและเทศะ) ที่เราเกิดและอาศัยอยู่ ที่มีต่อการปลูกฝังบ่มเพาะตัวตนของเรา

ผู้เขียนไม่มีทางออกอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าเลือกได้ ผู้เขียนขอเลือกเป็นปลาทองที่ตระหนักว่าตนมิได้เป็นผู้เลือกตู้ปลาหรือขวด โหลที่อาศัยอยู่ แม้ว่าอาจไม่มีวันว่ายหนีออกจากตู้ปลาไปอยู่ที่อื่นหรือนอกตู้ได้ก็ตาม และผู้เขียนก็จะขอเป็นปลาทองที่ตั้งถามต่อไปว่าใครหรืออะไรเอาเรามาใส่อยู่ ในตู้ที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42006

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น