หน้าเว็บ

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ศาลถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก-จตุพรรอด แม้พูดรุนแรงยังถือได้ว่าวิจารณ์

ศาลถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก-จตุพรรอด แม้พูดรุนแรงยังถือได้ว่าวิจารณ์

 

 

22 ส.ค.55 ศาลอาญานัดสอบถามนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. จำเลยที่ 2 ในคดีร่วมกันกับพวก 19 คนก่อการร้าย กรณีที่นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมด้วยนายวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งเป็นเลขานุการ รมช.มหาดไทย และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กรณีมีพฤติการณ์เข้าข่ายผิดเงื่อนไขให้ประกันตัว โดยขึ้นเวทีปราศรัยที่หน้ารัฐสภา กล่าวโจมตีพาดพิง ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ม.291 ขัด ม.68 ของรัฐธรรมนูญเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่

ในช่วงเช้าก่อนเข้าเบิกความต่อศาล เจ๋งให้สัมภาษณ์ว่า เตรียมทั้งพยานบุคลและเอกสารเพิ่มเติมมามอบให้ศาล โดยพยานบุคลนั้น ได้แก่ นายเหวง โตจิราการ,พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น. 1) , นายฐานิต เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายจริน สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวาเป็นพยานเพิ่มเติม 

นายยศวริศ กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยืนยันว่าตนไม่มีเจตนายุยงปลุกปั่น หรือคุกคามตุลาการ และยังได้ขึ้นเวทีห้ามปรามประชาชน ส่วน รมช.มหาดไทยจะยืนยันถึงพฤติกรรมเรื่องการทำงานของตนว่าเป็นอย่างไร ส่วนนายจรินนั้นจะยืนยันว่าตนได้ทำงานเพื่อสถาบัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีเจตนายุยงปลุกปั่น และมั่นใจในความยุติธรรมของศาลจึงไม่กังวลอะไร เพราะตนมีเจตนาที่ชัดเจน แต่คำวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไรก็ยอมรับ

ภายหลังการไต่สวนกว่า 2 ชั่วศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันและให้คุมตัวนายยศวริศ โดยให้เหตุผลว่าเข้าข่ายยั่วยุปลุกปั่น ขณะที่แกนนำนปช.ที่เหลือ 18 คน ปล่อยตัวชั่วคราว 


โดยศาลอาญาได้อ่านเหตุผลว่า กรณีนายจตุพรนั้นศาลได้ดูเอกสารประกอบกับของเลขาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยข้อเท็จจริงว่านายจุตุพรนั้นได้ปราศรัยแล้วคำกล่าวปราศรัยเป็นคำเสียดสี ประชดประชัน ไม่พอใจ และปราศรัยด้วยถ้อยคำไม่สุภาพหยาบคาย แต่ไม่มีคำใดที่กระทบต่อการดูหมิ่น เหยียดหยาม การกระทำของนายจตุพรยังฟังได้ว่าเป็นคำวิจารณ์ที่รุนแรงไปบ้าง แต่ยังไม่ถือว่าทำการใดกระทบต่อความเดือดร้อนที่จะกระทบต่อการปล่อยตัวชั่ว คราว จึงยังไม่เห็นเหตุผลอันสมควรให้ยกคำร้องของเลขาฯ ศาลรัฐธรรมนูญ 


ส่วนกรณีของนายวริศนั้น ศาลฟังข้อเท็จจริงได้ว่านายวริศขึ้นปราศรัยหน้ารัฐสภาซึ่งจำเลยไม่ได้ปฏิเสธ และเห็นว่าพูดด้วยความสนุกสนานและชวนให้ขบขัน โดยเจตนาของนายวริศมีการชี้นำให้ผู้ฟังรู้สึกดูหมิ่นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนจะมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของตุลาการรัฐธรรมนูญและครอบครัวมาเปิดเผยใน เวลาไล่เลี่ยกัน และยังมีตอนหนึ่งว่า “ให้แวะเวียนไปเยี่ยม เอาดอกไม้ไปเยี่ยม โทรศัพท์ไปคุยและให้ไปจัดการ” อันเป็นการพูดที่อาจทำให้ผู้ฟังที่กำลังอยู่ในอารมณ์ที่เกลียดชังตุลาการศาล รัฐธรรมนูญ เข้าใจได้ว่านายวริศประสงค์จะให้มีการก่อความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือกระทำการอันตรายต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและครอบ ครัว และถือได้ว่าเป็นการคุกคามกดดันแก่บุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง อีกทั้งเป็นการกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งการนำข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นมาเปิดเผยโดยไม่มีเหตุจำเลยก็ไม่ใช่ วิสัยปกติของบุคคลทั่วไป แม้ภายหลังจะขอโทษก็ไม่อาจทำให้พ้นความผิด ทำให้ผิดเขื่อนไขการประกัน ส่วนที่อ้างว่าระลึกได้ในภายหลังจึงขอโทษ แต่นายวริศไร้ความช่างใจ จึงไม่แน่ว่าถ้าปล่อยตัวชั่วคราวอีกต่อไปแล้วจะทำเหตุการณ์ใดอีก และถ้อยคำดังกล่าวยังไปละเมิดผู้อื่นด้วย ทั้งยังเป็นการยั่วยุ จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดเขื่อนไขตามที่กำหนดไว้ จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว

เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายยศวริศไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ  โดยรถตู้ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งนำขบวนด้วยรถเก๋งและรถมอเตอร์ไซค์ของกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีรถกระบะซึ่งบรรทุกเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธเพื่อรักษาความปลอดภัย และปิดท้ายขบวนด้วยรถตำรวจกองปราบอีกเช่นกัน
 
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายยศวริศเปิดเผยว่าพร้อมยื่นขอประกันตัวใหม่ในทันที โดยใช้เงินสดสองล้านบาทเป็นหลักประกัน  ส่วนแกนนำ น.ป.ช. 5 คนที่เป็น ส.ส.  ยังคงใช้แนวทางเดิม ยันไม่กระทำการละเมิดกฎหมาย
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากแกนนำ นปช.ได้หารือกัน นายวิญญัติระบุว่า  ไม่สามารถยื่นประกันตัวได้ทันวันนี้  โดยต้องรอคำสั่ง รวมทั้งหาลักฐานใหม่เพื่อยื่นประกันตัว และจะหาคนในรัฐบาล รัฐมนตรี  และ หัวหน้าพรรคมารับรองพฤติกรรม
 
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42213

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น