ระหว่างการปกป้องแนวทางประชาธิปไตยกับการปกป้องรัฐบาล
"ที่ท่านนายกฯ ออกอากาศทางโทรทัศน์ชี้แจงว่าการประกาศกฎหมายเผด็จการฉบับนี้เป็นไปเพื่อ “รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” ผมว่าไม่จริง ผม เชื่อว่าท่านประกาศใช้อำนาจเผด็จการเพียงเพื่อปกป้องรัฐบาลตนเองมากกว่า เป็นการปกป้องอำนาจของกลุ่มบุคคล หาได้เป็นการปกป้องวิถีทางแห่งประชาธิปไตยไม่"
เช้าวันที่ 19 สิงหาคม 2534 ชาวรัสเซียตื่นนอนพร้อมจอดำ มีแต่เสียงเพลง Wild Swan ของไชคอฟกี้ บางคนคิดว่ามีใครถึงแก่อสัญกรรม เปล่าหรอก คณะนายทหารชุดหนึ่งได้ร่วมกันทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประธานาธิบดีแห่งสหภาพ โซเวียต นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail S. Gorbachev) เนื่องจากไม่พอใจนโยบายการเปิดประเทศทั้งในทางเศรษฐกิจและการเมือง (Perestroika) ของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต (Communist Party of the Soviet Union) ท่านนี้
ในช่วงทศวรรษก่อนหน้านี้ กอร์บาชอฟในตำแหน่งเลขาธิการพรรคได้วางแนวทางปฏิรูปประเทศซึ่งประกอบด้วยการ เปิดให้มีการเลือกตั้งผู้นำทางตรง และการกระจายอำนาจให้กับบรรดารัฐต่าง ๆ ซึ่งต่อมาแยกเป็นประเทศอิสระ ในยุคของเขาประกอบด้วย 15 รัฐซึ่งรวมกันในนาม “Russian Soviet Federal Socialist Republic”
ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน มีการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในสหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 รัฐนี้ นายบอริซ เยลต์ซิน (Boris Nikolayevich Yeltsin) ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
บอริซ เยลต์ซิน ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซีย
กับมวลมหาประชาชน เผชิญหน้ากับรถถัง หลังรัฐประหาร ส.ค.34
กับมวลมหาประชาชน เผชิญหน้ากับรถถัง หลังรัฐประหาร ส.ค.34
แต่ทหารยึดอำนาจได้แค่สองวัน ประชาชนหลายหมื่นคนนำโดยนายเยลต์ซินได้พากันล้อมที่ทำการ CPSU ซึ่งเป็นเหมือนทำเนียบประธานาธิบดี นายเยลต์ซินปีนขึ้นไปบนรถถังโบกธงพร้อมกับประชาชน ทำให้ทหารไม่กล้ายิงประชาชน และยุติการเคลื่อนไหวไปโดยปริยาย
วันที่ 23 สิงหาคม นายกอร์บาชอฟก็เดินทางกลับมายังนครหลวง ในวันเดียวกันนายเยลต์ซินลงนามในคำสั่งในฐานะประธานาธิบดี สั่งยุบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต เป็นอันสิ้นสุดระบอบสั่งการจากศูนย์กลางอย่างเป็นทางการ ส่วนนายกอร์บาชอฟก็ลงจากตำแหน่งในปลายปีเดียวกัน สิ้นสุดยุคของผู้ที่ถือว่าเป็นบิดาแห่งรัสเซียยุคใหม่ และผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพท่านนี้
นับแต่ปี 2534 มาจนปัจจุบัน ชาวรัสเซียรวมทั้งประชาชนในรัฐเครือจักรภพอื่น ๆ ซึ่งเคยอยู่ใต้ปีกของสหภาพโซเวียต ก็สามารถเลือกตั้งผู้นำประเทศของตนได้โดยตรง และไม่เคยเกิดเหตุปฏิวัติรัฐประหารขึ้นมาอีก
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/11/43826
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น