“ลูกเผด็จการ” VS ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลี: 2 ความทรงจำคู่ขนานของ ปัก กึน เฮ
โดย พิณผกา งามสม
พลันที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประกาศออกมาอย่าง เป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ความประดักประเดิดก็เกิดขึ้น เมื่อ ปักกึนเฮ กำลังจะก้าวสู่การเป็น “ประธานาธิบดีหญิง” คนแรกของประเทศ แต่ประวัติความเป็นมาของเธอนั้นกลายเป็นสิ่งที่ลำบากใจต่อการบอกว่า นี่คือความก้าวหน้าของสังคมการเมืองเกาหลี
ปัก กึน เฮ วัย 60 ปี เป็นบุตรสาวคนโตของปักจุงฮี เผด็จการที่ครองอำนาจอยู่นานถึง 18 ปี (พ.ศ. 2504- พ.ศ. 2521) ในยุคแห่งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจด้วยการวางรากฐานแห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมและ การส่งออก ก่อนจะถูกลอบสังหาร ในปี 2521 เธอเคยทำหน้าที่สตรีหมายเลขหนึ่งในฐานะบุตรสาวของประธานาธิบดี เนื่องจากแม่ของเธอที่ถูกลอบสังหาร เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2517 และสิ้นสุดการทำหน้าที่เมื่อพ่อลูกลอบสังหารในวันที่ 26 ตุลาคม 2521
ปัก กึน เฮ เคยดำรงตำแหน่งประธานพรรคแกรนด์แนชันแนล (GNP) พรรคฝ่ายอนุรักษนิยมของเกาหลีใต้ (พ.ศ. 2554-2555) และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ 4 สมัย ระหว่างปีพ.ศ. 2541-2555
ประวัติศาสตร์ “ก้าวหน้า” หรือ “ถอยหลัง”
“Who said, history is 'progress'? Welcome to the backward society! A daughter of the dictator became the first 'female' Korean president,, Oh..my...” – “ใครพูดว่าประวัติศาสตร์ “ก้าวหน้า”, ขอต้อนรับสู่สังคมถอยหลัง เมื่อลูกสาวเผด็จการกลายมาเป็น 'ประธานาธิบดีหญิงคนแรก’ ของเกาหลี”
นักวิชาการรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้รายหนึ่ง โพสต์ในเฟซบุ๊กแสดงความผิดหวังต่อผลการเลือกตั้ง สะท้อนแรงต่อต้านจากแง่มุมประวัติศาสตร์
ก่อนการลงคะแนนเสียง เครือข่ายนักวิชาการสายประชาธิปไตย มีการออกจดหมายเปิดผนึก และเรียกร้องให้ร่วมลงชื่อเพื่อต่อต้านบุตรสาวของอดีตเผด็จการ
“ปัก กึน เฮ ไม่ได้เพียงแต่แสดงบทบาทลูกสาวของผู้เผด็จการเท่านั้น แต่เธอยังทำหน้าที่ ‘สตรีหมายเลขหนึ่ง’ แทนแม่ของเธอที่ตายไปด้วย เธอก้าวสู่เส้นชัยในการเป็นผู้ชิงตำหน่งประธานาธิบดีด้วยการชี้ให้ผู้ลง คะแนนเห็นความสำเร็จของระบอบปักจุงฮี และยังเรียกร้องให้ฟื้นฟูเกียรติภูมิของระบอบดังกล่าว เธอจะกลายมาเป็นตัวเลือกให้กับฝ่ายคณาธิปไตยที่โหยหาระบอบเผด็จการปักจุงฮี” (อ่านจดหมายเปิดผนึกจากไฟล์แนบ)
จดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงนักวิชาการและสื่อในเอเชีย ให้ร่วมลงชื่อเพื่อต่อต้านเธอในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ใช้ ถ้อยคำวิพากษ์เธออย่างรุนแรง พร้อมย้ำถึงช่วงเวลาภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความ ทุกข์ของชาวเกาหลี
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/12/44313
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น