‘ยุทธภูมิ’ นักโทษฯ 112 ประกาศเตรียมอดข้าว เรียกร้องสิทธิประกันตัวตาม รธน.
http://www.prachatai.com/journal/2013/04/46074
ผู้สื่อข่าวพิเศษของหนังสือ Red Power รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษการเมืองที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และได้พูดคุยกับนายยุทธภูมิ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งจะขึ้นศาลสืบพยานในเดือนสิงหาคมนี้
นายยุทภูมิระบุว่ากำลังเตรียมการอดข้าวประท้วงความอยุติธรรมที่ได้รับ เนื่องจากเขาถูกพี่ชายแจ้งความจับกุมโดยอ้างว่าเขาเป็นคนเขียนข้อความดู หมิ่นพระมหากษัตริย์ลงบนแผ่นซีดี นับตั้งแต่อัยการสั่งฟ้องเมื่อ 19 ก.ย.55 เขาได้ยื่นประกันตัวรวม 6 ครั้ง แต่ก็ยังได้รับการปฏิเสธโดยตลอด ล่าสุดคือคำสั่งวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาของศาลอุทธรณ์ โดยศาลให้เหตุผลว่าพฤติการณ์ร้ายแรง หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี ทั้งๆ ที่คดีของเขาหลักฐานมีน้อยมาก เป็นเพียงการยัดข้อหากันลอยๆ โดยอ้างปากคำคนที่มีความเกลียดชังกันมาก่อนเท่านั้น
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวผมเอง ถึงแม้จะตกเป็นจำเลย ถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรม แต่ผมมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ผมยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ได้ประกันตัว ผมถูกขังเหมือนคนที่ถูกตัดสินว่าทำผิดแล้ว เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ”ยุทธภูมิกล่าว
“ผมหวังว่ารัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะว่าพวกผมร่วมต้านรัฐประหาร 2549 คัดค้านการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เรียกร้องการยุบสภาและเลือกตั้ง แต่ถูกจับขัง ใส่ร้าย กล่าวหา อย่างไม่ยุติธรรม มีการนำสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง”ยุทธภูมิกล่าว
เขากล่าวด้วยว่า “ผมจะอดข้าวจนกว่าจะได้รับสิทธิและอิสรภาพคืนมา แม้ต้องตายในคุกก็ยอม ผมหวังว่าการอดข้าวจะกระตุ้นให้รัฐบาลเห็นคุณค่าประชาชนที่ต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขาจะเริ่มอดข้าวในวันที่ 10 เม.ย.นี้เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลการเลือกวันดังกล่าวว่า เป็นวันครบรอบ 3 ปี การสังหารหมู่คนเสื้อแดงและเพื่อเป็นการไว้อาลัยและคารวะผู้เสียสละในการ ต่อสู้ทุกคนด้วยในโอกาสเดียวกัน ขณะนี้เขาได้เตรียมตัวด้วยการถือศีล 8 กินข้าวมื้อเดียว สวดมนต์ไหว้พระทุกวันเพื่อเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง
ทั้งนี้ เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ โดย ไอลอว์ ระบุว่า ยุทธภูมิ อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง ถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่ากระทำการหมิ่นสถาบัน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและได้ประกันตัวไปในชั้นสอบสวน ต่อมาวันที่ 19 ก.ย.55 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทย์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญา ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ในชั้นนี้จำเลยไม่ได้ประกันตัว และต่อมา วันที่ 24 ก.ย.55 ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวอีกครั้ง โดยระบุว่าเป็นความผิดร้ายแรง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวจำเลยจะหลบหนีได้
คำฟ้องระบุว่า ประมาณปลายเดือนส.ค.52 จำเลยได้พูดดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ขณะที่กำลังดูโทรทัศน์ช่องเคเบิ้ลซึ่งมีภาพข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่บนรถเข็นต่อบุคคลที่สาม หลังจากนั้นประมาณ 5 วัน จำเลยได้ใช้ปากกาเมจิกเขียนลงบนแผ่นซีดี “หยุดก้าวล่วงพระเจ้าอยู่หัว เนวินขอทักษิณ” ด้วยถ้อยคำหยาบคาย อันเป็นการดูหมิ่น จาบจ้วง เหยียดหยามต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจำเลยได้นำแผ่นซีดีนั้นแสดงต่อบุคคลที่สาม
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2013/04/46080
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น