หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำไมพวกเราที่อังกฤษฉลองวันตายของทรราชแทชเชอร์

แดงสังคมนิยม

ทำไมพวกเราที่อังกฤษฉลองวันตายของทรราชแทชเชอร์


โดย อ.ใจ อึ๊งภากรณ์

พวก เราชาวสหภาพแรงงานและฝ่ายซ้าย รวมถึงกรรมาชีพธรรมดาๆ ในอังกฤษ รอวันตายของทรราช “แม่มดชั่วแทชเชอร์” อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษมานาน ในวันตายของเขาและวันต่อๆ มา มีการจัดงานฉลองกันในเมืองต่างๆ และในประเทศอื่นเช่นออสเตรเลีย และหลายประเทศของยุโรปเช่นไอร์แลนด์ ก็มีคนที่ดีใจจำนวนมาก นอกจากนี้เพลง “แม่มดชั่วตายแล้ว” จากภาพยนต์เด็กสมัยก่อนขึ้นมาเป็นเพลงยอดนิยมอันดับหนึ่งในอังกฤษ ทำไม?



แทชเชอร์ช่วงชิงการนำในพรรคนายทุน(พรรคคอนเซอร์เวทิฟ) หลังจากที่นายกรัฐบมนตรี เอดเวอร์ด ฮีธ จากพรรคเดียวกันพ่ายแพ้การเผชิญหน้ากับสหภาพเหมืองถ่านหินในปี 1972 ก่อน หน้านั้นแทชเชอร์ขึ้นชื่อว่าเป็น “แทชเชอร์ขโมยนมเด็ก” ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการศึกษา เพราะไปตัดนมฟรีที่เด็กอังกฤษเคยได้ในโรงเรียนภายใต้รัฐสวัสดิการ


แทชเชอร์เป็นนักการเมืองขวาจัดที่คลั่งกลไกตลาดเสรี เขามองว่าภารกิจอันยิ่งใหญ่ของเขาคือการทำลายอำนาจต่อรองของสหภาพแรงงาน และการทำลายรัฐสวัสดิการ ก่อนที่จะชนะการเลือกตั้งในปี 1979 เขา ออกมาปลุกกระแสเหยียดคนต่างชาติ โดยพูดทำนองว่าคนอังกฤษรู้สึกถูกคลื่นคนต่างชาติท่วมบ้านเมือง คำพูดแบบนี้จากนักการเมืองย่อมนำไปสู่การที่คนผิวดำโดนทำร้ายฆ่าตามถนน และทำให้พวกฟาสซิสต์มั่นใจมากขึ้น ผมเองก็เป็น “คนต่างชาติ” ในอังกฤษ เพราะพ่อเป็นคนไทยและผมเกิดที่กรุงเทพฯ


แทชเชอร์เป็นนักการเมืองที่คลั่งสงคราม คู่หูหลักของเขาคือประธานาธิบดี รอนัลด์ เรแกน ของสหรัฐที่พยายามสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างหนักกับรัสเซีย โดยการเร่งสร้างอาวุธใหม่ๆ ซึ่งเสี่ยงกับการก่อสงครามนิวเคลียร์ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สหรัฐนำอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่มาไว้ในฐานทัพอเมริกาที่ อังกฤษ หลายคนจึงมองว่าอังกฤษกลายเป็นแค่เรือบรรทุกเครื่องบินรบของสหรัฐ ผมก็เคยไปประท้วงมราฐานทัพทหารสหรัฐในยุคนั้น
 

ในปี 1982 เมื่อเผด็จการทหารอาเจนทีนา ส่งทหารไปบุกหมู่เกาะมัลวีนาส ใกล้ๆ อาเจนทีนา เพื่อปลุกกระแสชาตินิยมและให้ความชอบธรรมกับเผด็จการ แทชเชอร์มองว่า “ยอมไม่ได้” ทั้งๆ ที่อังกฤษขายอาวุธเป็นประจำให้เผด็จการทหารทั่วโลก แทชเชอร์จึงส่งกองทัพไป “กู้” หมู่เกาะที่ชนชั้นปกครองอังกฤษมองว่า “เป็นของอังกฤษ” ทั้งๆ ที่อยู่คนละขั้วโลกกัน ในสงครามครั้งนั้น แทชเชอร์ไม่ยอมเจรจาสันติภาพ และจงใจยิงเรือรบ “เบล์กรานโน” ร่มไปทั้งๆ ที่เรือรบลำนั้นหันกลับ ไม่ได้มุ่งหน้าไปสู่หมู่เกาะมัลวีนาสอย่างที่แทชเชอร์โกหกในรัฐสภา เมื่อเรือลำนี้จม หนุ่มอาเจนทีนาวัย 17 ที่ถูกเกณฑ์เป็นทหาร จมน้ำตายเป็นร้อยๆ และแทชเชอร์ก็แสดงความดีใจ


ชนชั้นปกครองอังกฤษไม่เคยแคร์อะไรกับชาวบ้าน “อังกฤษ” ที่อาศัยบนหมู่เกาะเหล่านั้น เพราะทุกวันนี้เขาไม่มีสิทธิเป็นพลเมืองอังกฤษเต็มตัวและไม่มีสิทธิ์ย้าย บ้านมาอยู่อังกฤษ สงครามนั้นทำเพื่อหนุนคะแนนเสียงของแทชเชอร์ และ “พิสูจน์ความยิ่งใหญ่” ของชนชั้นปกครองอังกฤษเท่านั้น
 

เมื่อแทชเชอร์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เขากับคณะรัฐมนตรีร่วมกันวางแผนเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับขบวนการแรงงาน โดยมีความหวังว่าจะตัดค่าจ้างกรรมาชีพอังกฤษถึง 20% เพื่อ เพิ่มอัตรากำไรของกลุ่มทุนอังกฤษ มีการสร้างสถานการณ์เพื่อแบ่งแยกและจัดการกับสหภาพแรงงานทีละแห่ง คือยอมบางส่วนไปก่อน และเลือกรบเมื่อมีโอกาส สงครามทางชนชั้นครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในปี 1984 เมื่อ แทชเชอร์จงใจประกาศปิดเหมืองแร่ถ่านหินจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ยังมีถ่านหินใต้ดินมากมาย ข้ออ้างที่ใช้คือเรื่องของการสร้างกำไรที่ไม่พอ แต่เป้าหมายจริงคือการทำลายสหภาพแรงงานที่เข้มแข็งที่สุด ในชุมชนเหมืองแร่ทางเหนือ มีการส่งตำรวจเข้าไปยึดครองพื้นที่เสมือนภาวะสงคราม และมีการใช้ตำรวจม้าทำลายการชุมนุมของคนงานด้วยความรุนแรงสุดขั้ว


สหภาพเหมืองแร่ต่อสู้ด้วยความอดทนถึงหนึ่งปี และมีนักสหภาพแรงงานอื่นๆ สนับสนุนมากมายทั่วประเทศ ผมเองซึ่งตอนนั้นเป็นผู้แทนสหภาพแรงงานของคนทำงานในห้องแลบวิทยาศาสตร์ก็มี ส่วนร่วมมาแต่แรก ทุกวันเสาร์เราจะไปถือถังพลาสติคเรี่ยรายเงินสำหรับสหภาพเหมืองแร่ในเมืองอ อคซ์ฟอร์ด และในหมู่เพื่อนร่วมงาน บางวันเราจะตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อไปชุมนุมหน้าโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินใกล้ๆ ออคซ์ฟอร์ด และครั้งหนึ่งผมก็ไปเยี่ยมเพื่อนนักสหภาพถ่านหินที่เวลส์ พวกเขาโทรศัพท์ติดต่อกับผมแต่แรก เมื่อมีการนัดหยุดงาน เพื่อไปตั้งค่ายหน้าโรงไฟฟ้า เพื่อไม่ให้คนขับรถไฟขนถ่านหินเข้าโรงไฟฟ้า
 

ตลอดเวลาที่มีการนัดหยุดงานของสหภาพเหมืองแร่ สื่อกระแสหลักจะโกหกและโจมตีนักสหภาพแรงงานอย่างต่อเนื่อง และพรรคแรงงานซึ่งตอนนั้นเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ร่วมโจมตีเช่นกัน เพราะพรรคแรงงานมองว่าต้องเลียก้นแทชเชอร์ เพื่อพิสูจน์ต่อชนชั้นนายทุนว่าพรรคแรงงานจะรับผิดชอบต่อผลประโยชน์กลุ่มทุน เสมอ แทชเชอร์อาจมีชื่อว่าเป็น “สตรีเหล็ก” แต่เขาเกือบแพ้หลายครั้ง และไม่มีวันชนะถ้าพรรคแรงงานกับผู้นำสหภาพแรงงาน “หมูอ้วน” ระดับชาติ ไม่คอยหักหลังผู้ที่ต้องการสู้เพื่อปกป้องการทำงานหรือรัฐสวัสดิการ ทุกวันนี้พรรคแรงงาน ตั้งแต่สมัย โทนี่ บแลร์ ก็ชื่นชมและเลียวก้น แทชเชอร์ เมื่อทรราชแทชเชอร์ตายหัวหน้าพรรค เอด มิลิแบน สั่งไม่ให้สส.คนไหนโจมตี


ผลของการทำลายสหภาพแรงงานเหมืองแร่คือชุมชนเหมืองแร่ในที่ต่างๆ ที่ไม่มีงานอื่นทำ กลายเป็นชุมชนที่หมดความหวัง หมดงานทำ นอกจากนี้มีการทำลายอุตสาหกรรมเหล็กกล้า มีการปิดโรงงานประกอบรถยนต์รวมถึงที่ออคซ์ฟอร์ดด้วย และในท่าเรือซึ่งเคยสู้กันมานานเพื่อให้มีงานถาวรที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรี ก็มีการหมุนนาฬิกากลับสู่ยุคที่จ้างคนแบบรายวัน


สภาพการทำงานในอังกฤษทุกวันนี้ยากลำบากกว่าเดิม หลายคนกลัวที่จะลาป่วยเพราะอาจโดนไล่ออก คนรุ่นใหม่บางคนไม่รู้จักสหภาพแรงงาน


การพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกถึงการที่รัฐบาลต้อง “รักษาวินัยทางการคลัง” เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ในไทยชอบพูด เป็นนโยบายเสรีนิยมสุดขั้ว ที่หวังบีบเศรษฐกิจอังกฤษเพื่อบังคับให้นายทุนบีบลูกจ้างอีกที แทชเชอร์มองว่ากิจกรรมไหนไม่สร้างกำไรก็ควรฆ่าทิ้ง ซึ่งแปลว่าคนต้องตกงานยากลำบาก อุตสาหกรรมอังกฤษถูกทำลายไปมาก และเศรษฐกิจอังกฤษมีการหันมาพึ่งพาพวกธนาคารและกิจกรรมไฟแนนส์มากขึ้น ซึ่งในที่สุดช่วยปูทางไปสู่วิกฤษเศรษฐกิจโลกปี 2008


แทชเชอร์เป็นหัวหอกของกระแสแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั่วโลก ซึ่งได้แต่สร้างกำไรมหาศาลให้กลุ่มทุนท่ามกลางความยากจนและการขาดเสถียรภาพ ในชีวิตของประชาชน วิสาหกิจก๊าซ ไฟฟ้า และรถไฟอังกฤษในปัจจุบันเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว การกอบโกยกำไร และความไร้ประสิทธิภาพในการบริการประชาชนธรรมดา


อย่างไรก็ตาม แทชเอชร์ ไม่สามารถทำลายสหภาพแรงงานไปหมด และรัฐสวัสดิการยังอยู่ สหภาพครู ไปรษณีย์ ข้าราชการ และสหภาพช่างไฟในสถานที่ก่อสร้าง ขึ้นมาเป็นหัวหอกในการต่อสู้ในยุคนี้ และความหวังของแทชเอชร์ที่จะตัดค่าจ้างคนงานอังกฤษถึง 20% เขา ทำไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นงบประมาณรัฐและหนี้สาธารณะก็เพิ่มขึ้นจากการทำลายการทำงานและ อุตสาหกรรมหลักๆ ซึ่งตรงข้ามกับเป้าหมายของพวกเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้ว


ในปี 1989 แทชเชอร์ มั่นใจในตนเองมากเกินไปและเสนอให้มี “ภาษีหัว” ที่เก็บจากประชาชนอังกฤษทุกคนในอัตราเดียวกันหมด ภาษีนี้เข้ามาแทนที่ภาษีบ้านที่เคยเก็บในอัตราก้าวหน้า คือใครมีบ้านแพงเคยต้องจ่ายมาก ใครยากจนก็จ่ายน้อย ภาษีปฏิกิริยาใหม่ของแทชเชอร์ก่อให้เกิดความไม่พอใจทั่วประเทศ มีการประท้วงใหญ่ในลอนดอน และคนจำนวนมากไม่ยอมจ่าย ในที่สุดพรรคคอนเซอร์เวทิฟตัดสินใจผลักแทชเชอร์ออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาอยู่ต่อพรรคจะไม่มีวันชนะการเลือกตั้งอี

นความเป็นจริง ทั้งๆ ที่แทชเชอร์ชนะการเลือกตั้งมาหลายรอบ เขาไม่เคยได้เสียงสนับสนุนของประชาชนส่วนใหญ่ คะแนนสูงสุดของเขาอยู่ในระดับสามสิบกว่าเปอร์เซนเท่านั้น เพียงแต่แต่พรรคอื่นน้อยกว่าเท่านั้น


แทชเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรีสตรีคนแรกของอังกฤษ แต่ผลงานของเขาคือการที่ค่าจ้างชายกับหญิงมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น และแน่นอนสำหรับผู้หญิงคนทำงานส่วนใหญ่ นโยบายของเขาตรงข้ามกับผลประโยชน์คนธรรมดา นอกจากนี้แทชเชอร์เป็นคนที่เกลียดคนรักเพศเดียวกันและรัฐบาลเขานำกฏหมายใหม่ เข้ามาเพื่อปราบเกย์


แทชเชอร์เป็นเพื่อนสนิทกับเผด็จการป่าเถื่อน พิโนเช ของชิลี และเขามองว่า เนลสัน แมนเดลา เป็น”ผู้ก่อการร้าย” ในกรณีไอร์แลนด์ แทชเชอร์ปล่อยให้นักโทษการเมือง “ไออาร์เอ” อดอาหารตายไปหลายคนด้วยหัวใจเย็นชา หนึ่งในนั้นเป็น สส. ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน


ทั้งหมดที่ผมเล่าไปครั้งนี้เป็นสาเหตุที่ผมและคนจำนวนมากในอังกฤษ ดีใจฉลองวันตายของทรราชแทชเชอร์ งานศพของเขาเป็นสมรภูมิทางชนชั้น มันเป็นการช่วงชิงประวัตศาสตร์ เพื่อช่วงชิงรูปแบบสังคมในอนาคต เพราะพวกประจบสอพลอที่ไปร่วมงานศพ และชื่นชมแทชเชอร์ เป็นศัตรูทางชนชั้นของพวกเราทั่วโลก ส่วนคนไทยบางคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เกี่ยวกับการเมืองอังกฤษ และคล้อยตามคำชื่นชมของพวกประจบสอพลอ ผมมองด้วยความสมเพชเท่านั้น

(ที่มา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น