มิตรมองมิตร"บทเรียน"ตระกูลชินวัตร
โดย พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
ช่วงเวลาเพียงเดือนเดียว
แต่รัฐบาลเลี้ยวเข้าสู่เส้นโค้งอันตรายถึงสองโค้งยักษ์ โค้งหนึ่ง คือ
กระแสต้านร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งที่กลายสภาพเป็นยาเร่งวันหมดอายุขัยของรัฐบาล
อีกโค้ง คือ คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เพิ่งดับฝันโมเดล 200 สว.เลือกตั้งของ 312 สมาชิกรัฐสภา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด
แต่ทั้งสองเหตุการณ์ได้ทำหน้าที่ฉายภาพฉากการต่อรอง ต่อสู้
ยื้อยุดฉุดกระชากระหว่างสองขั้วอำนาจในสังคมไทยได้อย่างอล่างฉ่างที่สุดฉาก
หนึ่งในรอบ 7 ปี หลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในฐานะนักวิชาการจุดยืนฝ่ายเสื้อแดง
วิเคราะห์สรุปบทเรียนจากสองเหตุการณ์ต่อพรรคเพื่อไทย
พร้อมประเมินอนาคตอันใกล้ที่เขาเชื่อว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีกำลังมาถึงในไม่
ช้า
อาจารย์พิชิต ชี้ว่า
ขณะนี้ภัยคุกคามรัฐบาลชัดเจนที่สุดว่ามาจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ทิ้งระเบิดหลายลูก
ทั้งการเสียบบัตรแทน การควบคุมการอภิปรายสภา
เอกสารตัวร่างที่ผิดระเบียบแต่ที่ร้ายแรงที่สุด คือ ข้อสุดท้าย ที่ระบุถึงการทำหน้าที่ของ 312
สส.-สว. ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการขัดมาตรา 68 ชัดเจนว่าจงใจ
“เขี่ยบอล” ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.)และ ป.ป.ช.เองก็รับลูกแบบทันควันและ ป.ป.ช.เองก็รับลูกแบบทันควัน
(อ่านต่อ)
http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น