หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ธงชัย วินิจจะกูล" ชี้ไทยอยู่บนปากเหวสู่สงครามกลางเมือง เลือกตั้งคือหนทางแก้ปัญหาเดียว

"ธงชัย วินิจจะกูล" ชี้ไทยอยู่บนปากเหวสู่สงครามกลางเมือง เลือกตั้งคือหนทางแก้ปัญหาเดียว

 


http://www.matichon.co.th/online/2014/05/14005018511400501934l.jpg 

 
นายธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เขียนบทความหัวข้อ Thailand on the Brink of Civil War (ประเทศไทยบนปากเหวสู่ภาวะสงครามกลางเมือง) เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ http://america.aljazeera.com/ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา 

นายธงชัยระบุว่า วุฒิสภาไทย ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติองค์กรเดียวที่ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ในปัจจุบัน ได้จัดการประชุมนอกรอบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาหนทางยุติทางตันทางการเมืองในประเทศไทย ที่ดำเนินมานาน 6 เดือน ก่อนหน้านั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และสมาชิกคณะรัฐมนตรีจำนวนหนึ่ง ต้องพ้นจากตำแหน่ง กระบวนการ "รัฐประหารโดยตุลาการ" ดังกล่าว ตามติดมาด้วย การตัดสินของ ป.ป.ช. ที่ออกมาชี้มูลความผิด ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในกรณีนโยบายจำนำข้าว

นักวิชาการผู้นี้ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ปฏิบัติการของทั้งศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช. จะมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายการดำเนินการทางกฎหมาย แต่จริงๆ แล้ว คำวินิจฉัยทั้งคู่กลับถูกประกาศออกมา โดยปราศจากกระบวนการทางกฎหมายอันถูกต้องเหมาะสม ส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยถูกตั้งคำถามในประเด็นเรื่องความน่าเชื่อถือและความเป็นกลาง ในสายตาของสาธารณชนชาวไทยส่วนใหญ่

ตามความเห็นของนายธงชัย กลุ่มชนชั้นนำที่เขาเรียกว่า "กลุ่มอนุรักษ์นิยมรอยัลลิสต์" ได้รู้สึกปีติยินดีกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช. แต่ขณะเดียวกัน ลักษณะแบ่งขั้วเลือกข้างชนิดลงรากลึกที่เปิดเผยผ่านคำตัดสินทั้งสอง ก็แสดงให้เห็นถึงความอ่อนกำลังลงของกลุ่มอนุรักษ์ฯ เอง 

ทั้งศาลรัฐธรรมนญและป.ป.ช. เป็นองค์กรที่ถูกสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ.2550 โดยรัฐบาลของคณะรัฐประหาร 2549 จากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็เพิกถอนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไปแล้ว 3 ชุด ตัดสินยุบพรรคการเมืองไปแล้วเกินกว่า 10 พรรค อีกทั้งยังประกาศให้การเลือกตั้งที่ได้รับการรับรองว่าถูกจัดขึ้นอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรมกลายเป็นโมฆะ นอกจากนั้น ทั้งวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ต่างพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการขัดขวางไม่ให้กลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี2550

ณปัจจุบัน นายธงชัยเห็นว่าป.ป.ช. กำลังร่วมมือกับวุฒิสภา ในการนำพาประเทศออกจากทางตัน อย่างไรก็ดี แผนการของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่พยายามฉวยชิงอำนาจมาอยู่ในมือของตนเองอย่างมิหยุดหย่อน ด้วยการทำลายหลักนิติธรรม  กลับกำลังส่งผลให้ประเทศไทยต้องเสื่อมทรุดลงไปสู่ภาวะสงครามกลางเมืองมากกว่า

ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสันย้อนข้อมูลว่า วิกฤตการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เมื่อกลุ่มอนุรักษ์ฯในกทม. เริ่มก่อการยึดสถานที่สาธารณะหลายแห่ง เพื่อขับไล่รัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาตามกระบวนการประชาธิปไตยของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลังจากนั้น ประชาชนมากกว่า 25 ราย ได้ถูกสังหาร อีกหลายร้อยรายได้รับบาดเจ็บ จากการประท้วงบนท้องถนน ระบบประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งของไทยที่ครั้งหนึ่งเคยผลิดอกออกผลกำลังถูกกลุ้มรุมมากยิ่งขึ้น

นับจากนี้รัฐบาลของกลุ่มอนุรักษ์ฯที่อาจถูกจัดตั้งขึ้นอาจจะพยายามปิดปากกลุ่มสาธารณชนผู้มีความเห็นต่างผ่านการใช้กำลัง, การสร้างความหวาดกลัว และการบีบบังคับขู่เข็ญ อย่างไรก็ตาม น่าเชื่อเช่นกันว่า กลุ่มนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาลชุดดังกล่าว จะออกมารวมตัว แล้วนำไปสู่การเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ในภาวะเช่นนั้น การประท้วงของคนต่างกลุ่มบนท้องถนนน่าจะลุกลามไปไกลเกินกำลังควบคุมของฝ่ายรัฐบาล

นาย ธงชัยยังกล่าวถึงท่าทีของศาลและกองทัพซึ่งยังคงยืนยันความบริสุทธิ์และ ประพฤติตัวเป็นเกราะกำบังให้แก่กลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงและมี พฤติกรรมคุกคามผู้อื่นรวมถึงพยายามขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนก.พ.2557 (ซึ่งนักวิชาการผู้นี้เห็นว่าการเลือกตั้งน่าจะสามารถช่วยยุติความตึงเครียด ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องได้)ยิ่งกว่านั้นศาลยังช่วยยืนยันการมีอำนาจของ ส.ว.สรรหาและพยายามขยายขอบเขตอำนาจของศาลเองให้อยู่นอกเหนือข้อจำกัดที่ บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

นัก วิชาการผู้นี้บรรยายต่อว่ากลุ่มอนุรักษ์ฯอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่อต้าน ประชาธิปไตยและพ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับชาติมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2543 ชนชั้นนำกลุ่มนี้เริ่มมีความชอบธรรมในทางการเมืองและความนิยมในหมู่ประชาชน ลดน้อยลง แต่พวกเขายังคงมีอิทธิพลครอบงำระบบตุลาการ, กองทัพ, ระบบราชการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่

ในทัศนะของนักประวัติศาสตร์รายนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าอยู่กับทางแยกอันสุ่มเสี่ยง หลังจากขับไล่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ออกไปได้ เหล่าผู้ชุมนุมที่แสนจะยินดีปรีดาก็ออกมาเรียกร้องให้กลไกอำนาจรัฐทั้งหมดยินยอมมอบอำนาจให้แก่พวกตน กปปส. ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ กำลังกดดันวุฒิสภาให้รีบสรรหารัฐบาลรักษาการ ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง

ทั้งนี้ วุฒิสภาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นนำอนุรักษ์ฯ ส.ว.ครึ่งหนึ่งมาจากการสรรหาโดยคณะตุลาการ ดังนั้น เพียงแค่ได้ ส.ว.เลือกตั้ง จำนวนไม่มากมาร่วมสมทบ ก็สามารถนำไปสู่การยึดกุมเสียงข้างมากในสภาแห่งนี้ได้ วุฒิสภาทำงานอย่างใกล้ชิดกับกปปส., ศาลรัฐธรรมนูญ, ป.ป.ช. และ กกต. ในการพยายามจะสร้างสุญญากาศทางอำนาจ ด้วยการเพิกถอนรัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทยทั้งชุดออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้ ส.ว.กลุ่มหนึ่งจึงจัดการหารือนอกรอบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อหาทางยุติวิกฤตการเมือง การประชุมระหว่างบรรดาส.ว.สรรหาและเครือข่ายพันธมิตร ถูกคว่ำบาตรโดยส่วนใหญ่ของ ส.ว.เลือกตั้ง ด้วยเหตุผลว่า การประชุมหารือดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

นายธงชัยระบุต่อไปว่า กลุ่มอนุรักษ์ฯ ต้องการให้วุฒิสภาสรรหาตัวแทนของพวกตนขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พวกเขารู้ดีว่ากระบวนการเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่เป็นประชาธิปไตย หากยังผิดกฎหมายและขัดกับรัฐธรรมนูญที่พวกเขามีส่วนร่างมันขึ้นมา กลุ่มอนุรักษ์ฯ กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากสาธารณชนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนข้อโต้แย้งทางกฎหมายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

จากบทบาทที่ผ่านๆ มา ในการขัดขวางการเลือกตั้งและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ วุฒิสภาเป็นเพียงองค์กรเดียวที่สามารถทำให้แผนการของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น เมื่อวุฒิสภาแสดงอาการละล้าละลังในการสรรหานายกฯ คนใหม่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. จึงต้องออกมาเตือนว่า มิฉะนั้น เขาจะจัดการทุกอย่างด้วยมือของตัวเอง

นายธงชัย อ้างถึงข้อสังเกตของนายจตุพร พรหมพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำขบวนการเสื้อแดง ซึ่งระบุว่า ความพยายามใดๆ  ที่จะแทนที่รัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบัน ด้วยรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง นายจตุพรจึงเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการจากพรรคเพื่อไทยเร่งจัดให้มีการเลือกตั้ง การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้ามีแผนจะถูกจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม แต่ทั้งกปปส. และกกต. ยังคงขัดขวางกระบวนการดังกล่าว เพื่อชะลอการเลือกตั้งออกไป ตามความเห็นของนักวิชาการรายนี้ ยิ่งความตึงเครียดระหว่างสองกลุ่มคู่ขัดแย้งทางการเมืองพุ่งสูงขึ้น สถานการณ์ความขัดแย้งในไทยก็ยิ่งลุกลามเกินจะควบคุม

ในมุมมองของนักประวัติศาสตร์ผู้นี้ แม้กลุ่มอนุรักษ์ฯ จะคาดหวังว่าการโปรดเกล้าฯ นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะสามารถระงับความไม่สงบเรียบร้อยต่างๆ ลงได้ แต่วิธีการเช่นนั้น อาจส่งผลให้ความชอบธรรมของสถาบันฯ ถูกตั้งคำถามโดยสาธารณชน และหากสถานการณ์ไปไกลยิ่งกว่านั้น นั่นย่อมเป็นสิ่งที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ ต้องร่วมรับผิดชอบ

ดังนั้น นายธงชัยจึงเสนอว่า การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์ และยุติธรรม เป็นวิถีทางเดียวที่จะนำประเทศไทยออกจากภาวะโกลาหลในปัจจุบัน ความดื้อรั้นยืนกรานจะสรรหานายกฯ คนดี ที่มาจากการแต่งตั้ง ของกลุ่มอนุรักษ์ฯ จะยิ่งทำให้สถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว มีความเลวร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก แผนการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนส่วนใหญ่ของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้รับการต่อต้านในวงกว้างจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้แผนการดังกล่าวประสบความสำเร็จ กลุ่มอนุรักษ์อาจต้องกำจัดแกนนำเสื้อแดงเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นย่อมส่งผลก่อให้เกิดความไม่สงบในวงกว้างตามมา

ในช่วงท้ายบทความ นายธงชัยชี้ว่า แม้ประเทศไทยจะมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ไม่มากนัก ในทางการเมืองระหว่างประเทศยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ประชาคมนานาชาติจึงมักเงียบเสียงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความรุนแรงและวิถีทางอันไม่เป็นประชาธิปไตยในไทย อาจส่งผลกระทบแพร่ลามไปยังภูมิภาค ที่เลขาธิการทั่วไปขององค์การสหประชาชาติ และรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงประเทศอื่นๆ บางประเทศ เพิ่งจะออกมาเรียกร้องให้บรรดาผู้มีส่วนได้เสียกับภูมิภาคดังกล่าว เฝ้าสำรวจตรวจสอบการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติและเป็นประชาธิปไตยของภูมิภาคแห่งนี้

ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชาวไทยจึงเรียกร้องให้ สหประชาชาติ และสมาชิกอาเซียนชาติอื่นๆ ออกมาแสดงจุดยืนร่วมกันยืนยันให้ประเทศไทยหวนคืนสู่การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง

(ที่มา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น