จับเงียบพี่ชายดา ตอร์ปิโดคาดโดนDSIล่อซื้อ
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 กันยายน 2554
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องขังคดี 112 แจ้งกับผู้เข้าไปเยี่ยมเขาในเรือนจำว่า นายกิตติชัย ชาญเชิงศิลปกุล พี่ชายที่คอยดูแลน้องสาว"ดา ตอร์ปิโด"ถูกจับเงียบๆเมื่อวันที่ 2กันยายนที่ผ่านมา และถูกนำมาขังอยู่แดนเดียวกับเขา โดยตกอยู่ในสภาพยากลำบาก ไม่มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ เนื่องจากถูกจับอย่างกะทันหัน ครอบครัวที่อยู่ จ.ภูเก็ตก็ยังไม่ทราบข่าว
นายกิตติชัยเป็นคนที่คอยดูแลน้องสาวของเขาตลอดช่วงเวลาที่ถูกจำคุก 3 ปีที่ผ่านมา โดยเดินทางด้วยรถบัสโดยสารมมาจากบ้านที่ภูเก็ตแล้วเข้าเยี่ยม แล้วนั่งรถบัสกลับแบบนี้ทุกสัปดาห์
ล่าสุดนายกิตติชัยนั่งรถทัวร์จากภูเก็ตเดินทางมากรุงเทพฯเมื่อวันที่ 1 กันยายนเพื่อเยี่ยมน้องสาวตามปกติ พอวันรุ่งขึ้น 2 กันยายน ก็มีรายงานข่าวจากนายสมยศว่าโดนนำตัวเข้าเรือนจำแล้ว
ขณะที่ประชาไท รายงาน ว่า จากการตรวจสอบ แหล่งข่าวซึ่งเข้าเยี่ยมนายกิตติชัย ระบุว่า นายกิตติชัย ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ แดน 1 โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายจับกุมบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ด้วยความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตามมาตรา 147 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ระบุว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท"
ขณะที่มาตรา 157 ระบุว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ"
เผยเหตุการณ์ก่อนโดนจับสงสัยโดนล่อซื้อ
ผู้ที่สนับสนุนดา ตอร์ปิโดด้วยมนุษยธรรมรายหนึ่ง เปิดเผยว่า "
ราวๆ 5 โมงเย็นวันที่ 1 กันยายน ได้โทรศัพท์
ไปถึงคุณกิตติชัย ซึ่งคุณกิตติชัย เล่าให้ฟังว่าขณะนั้น เขากำลังนั่งอยู่บนรถทัวร์เดินทางจากภูเก็ตขึ้นกรุงเทพฯ
เช้าวันรุ่งขึ้นก็จะไปเยี่ยมคุณดา พร้อมเล่าให้ฟังว่า มีคนโทรศัพท์ถึงเขานัดหมายพบกันที่ย่านแจ้งวัฒนะ ตอน 10 โมงเช้าวันศุกร์ที่ 2 กันยายน โดยพวกเขาแจ้งว่าขอไปเยี่ยมคุณดาด้วย
ฟังแล้วได้แต่แปลกใจว่าทำไมไม่นัดเจอกันที่เรือนจำ ทั้งที่ย่านแจ้งวัฒนะ กับเรือนจำกรุงเทพฯ ก็อยู่ไม่ไกลกัน คนอยู่กรุงเทพฯ รู้จักดี แม้ขณะนี้ ยังไม่รู้รายละเอียดการจับกุมคุณกิตติชัย ก็ได้แต่คาดเดาว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นแผนของเจ้าหน้าที่ ...DSI ก็อยู่ย่านแจ้งวัฒนะ !!!"
พร้อมกับกล่าวว่าน่าสลดใจกับชะตากรรมพี่น้องคู่นี้ เพราะที่ผ่านมาดา ตอร์ปิโดถูกคุมขัง 3 ปีก็ได้พี่ชายคนนี้เพียงคนเดียวดูแล เพราะดามีปัญหาสุขภาพด้วย เนื่องจากกินไม่ได้เพราะฟันกรามค้าง แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ยอมให้ส่งออกไปผ่าตัดข้างนอก และพี่ชายของดาเป็นคนรับเรื่องรับบริจาคเงินและข้าวของบริจาคจากโลกภายนอก ที่เห็นแก่มนุษยธรรมไปช่วยดา ตอร์ปิโด แต่พอโดนทั้งคู่แบบนี้จะทำอย่างไรต่อไปดี
ขณะเดียวกันดา ตอร์โดก็เพิ่งรับทราบข่าวพี่ชายโดนจับกุมตัวเมื่อวานนี้ ระหว่างที่มีคนไปเยี่ยมเธอในเรือนจำ
ญาติของนายสุรชัย แซ่ด่าน ได้ยืนยันข่าวนี้ด้วยว่า พี่ชายดา ตอร์ปิโด ถูกจับขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ แดน 1 (แดนเดียวกับคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข)และเนื่องจากเป็นการจับกุมที่เงียบเชียบทำให้ไม่ทราบว่าโดนคดี อะไร
ซึ่งหากเป็นคดี112ก็จะนับเป็นรายที่ 2 นับตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศ รายแรกคือผู้เล่นเฟซบุ๊ค ซึ่งโดนจับกุมในวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดา ตอร์ปิโด กล่าวว่า เขายังไม่รู้ชัดเจนว่านายกิตติชัยโดนควบคุมตัวด้วยข้อหาใด ในช่วงหลายวันมานี้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไม่สำเร็จ แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่ว่าอาจถูก"ล่อซื้อ"ก็ได้ เพราะเขาเป็นคนที่อาจจะไม่รอบคอบนัก มีใครติดต่อมาบอกว่าเห็นอกเห็นใจอยากช่วยเหลืออยากบริจาคช่วยดาก็ยินดี ติดต่อหมด ดังนั้นที่มีรายงานว่ามีคนติดต่อให้ไปพบย่านแจ้งวัฒนะในวันที่ 2 แล้วโดนควบคุมตัวก็อาจจะเป็นไปได้
.......................................................................................................................................................................
แหล่งข่าวซึ่งเข้าเยี่ยมนายกิตติชัย ระบุว่า นายกิตติชัย ถูกจับกุมอยู่ที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ แดน 1 โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายจับกุมบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ด้วยข้อกล่าวหากระทำความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตามมาตรา 147 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ด้านนายประเวศ ประภานุกูล ทนายความของนางสาวดารณี ซึ่งเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่าจะเข้าเยี่ยมนายกิตติชัยในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาทางช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น