หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ชีวิตสำลักน้ำหลังคันบิ๊กแบ๊ก บ้านต้องเช่า-ข้าวไม่มีกิน


"ผมไม่รู้ว่าพวกผมและชาวบ้านทั้ง 20 ชุมชน ที่อยู่นอกแนวบิ๊กแบ๊กจะทนอยู่กับสภาพน้ำท่วมสูงแบบนี้ไปอีกนานเท่าใด น้ำท่วมตามธรรมชาติพวกผมยอมรับได้ แต่นี่มันเป็นน้ำท่วมจากการกั้นแนวบิ๊กแบ๊ก ไม่เข้าใจว่าทำไม่ ศปภ.หรือ กทม.ถึงไม่ยอมระบายน้ำให้เป็นไปตามธรรมชาติจากที่สูงลงที่ต่ำ ถ้ากระจายน้ำให้ท่วมทั่วทุกพื้นที่ แล้วระบายน้ำได้รวดเร็วน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ไม่ใช่มาให้พวกชาวบ้านนอกแนวบิ๊กแบ๊กเป็นพื้นที่รับน้ำเช่นนี้ พวกคนกรุงเทพฯชั้นในถูกน้ำท่วมไม่ได้หรืออย่างไร" ชาวหมู่บ้านธนินทรระบายอารมณ์


หนุ่มใหญ่วัย 40 บอกว่า ถ้าจะให้ชาวบ้านนอกแนวบิ๊กแบ๊กทนรับน้ำต่อไป ทาง ศปภ.และ กทม. ต้องมาชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ชัดเจน ทั้งการกำหนดมาตรการเยียวยา ค่าชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาท หรือจะมากกว่านี้ก็ต้องว่ากันไปตามความเสียหาย กำหนดวันจ่ายเงินชดเชยให้ชัดเจน รวมทั้งกำหนดระยะเวลาการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้ชัดเจนด้วย 15 วัน 20 วัน ก็ระบุออกมา


"อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลคนหลัง เขื่อนอย่างเราที่เป็นท้องช้างรองรับน้ำไม่ให้ท่วม กทม. ไม่ใช่อยู่ๆ มากั้นบิ๊กแบ๊กแบบนี้ ชาวบ้านเขาเดือดร้อนมาก แต่เราก็เห็นแก่ส่วนรวม ถ้าไปรื้อก็จะทำให้น้ำท่วม กทม.ทั้งหมด และก็จะไม่มีใครมาช่วยเราอีก เราอยากขอให้รัฐบาลและ ส.ส.ในพื้นที่เข้ามาดูแลเราบ้าง ต้องเข้ามาดูว่าจะช่วยเหลือเยียวยาอะไรได้บ้าง เอาข้าวของเข้ามาแจกให้ทุกวัน เพราะในหมู่บ้านน้ำเน่าหมดแล้ว และพูดคุยให้ชัดเจนว่าน้ำจะท่วมเรานานแค่ไหน"


เหล่านี้คือเสียงสะท้อนจากชาวบ้านหลังแนว คันบิ๊กแบ๊ก ผู้จำทนแบกรับสภาพน้ำท่วมมานานนับเดือน ขณะที่ฝ่ายรัฐยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะเยียวยา ตอบแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร!

 

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321331788&grpid=01&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น