หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านการเมืองไทยกับชาญวิทย์ เกษตรศิริ: (จะ) 80 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ สนทนานานาที่ Book Re:Public ว่าด้วยประวัติศาสตร์การเมืองโลก เพื่อนบ้านอาเซียน รัฐประหาร 19 ก.ย.49 และมาตรา 112


"ประวัติศาสตร์นี่มันสนุกมาก ถ้านอกเรื่องเยอะๆ นะ นอกตำรา...
ออกจากพระนเรศวรประกาศเอกราชได้ สนุกแน่"
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ตอนหนึ่งในการเสวนา
ที่ร้านหนังสือ Book Re:Public

(9 ธ.ค.54) ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ร่วมเสวนาในหัวข้อ "(จะ) 80 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก" (2475-2555) ที่ร้านหนังสือ Book Re: Public จ.เชียงใหม่ ดำเนินรายการโดยธนาพล อิ๋วสกุล สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โดยชาญวิทย์ระบุว่า นักรัฐศาสตร์ไทยนั้นมีข้อจำกัดเพราะมองย้อนประวัติศาสตร์การเมืองไทยอย่างดี ก็ถึงแค่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ซึ่งจะครบ 80 ปีในปีหน้านี้ ขณะที่ชาญวิทย์มองว่า การย้อนดูประวัติศาสตร์นั้นควรย้อนกลับไปยาวๆ

ทั้งนี้ เขามองว่า ปี 1911 (2454) เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.1911 เกิดการปฏิวัติซุนยัดเซ็น ราชวงศ์ชิงล่ม ประเทศจีนเปลี่ยน นับเป็นการปฏิวัติแรกของเอเชีย ซึ่ง 4 เดือนต่อมาในไทยก็เกิดเหตุการณ์กบฎ รศ.130 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นายทหารหนุ่มต้องการยึดอำนาจจากรัชกาลที่ 6 โดยเมื่อคำนวณแล้วจะครบ 100 ปีของความพยายามที่จะเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็น ประชาธิปไตย ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า

"ถ้าเราดูอย่างนี้ เราจะเห็นว่าปรากฏการณ์ของสยามประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของระบบของโลกใหญ่" ชาญวิทย์กล่าวและว่า ถ้าจะดูการเมืองที่มีความพยายามสร้างประชาธิปไตยในเมืองไทยดูเพียง 2475 ไม่พอ ต้องดูกลับไปอีก จึงจะเห็นว่ามีสิ่งที่เรียกว่ากฎเกณฑ์บางอย่างของโลก โดยในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ของสิ่งที่เรียกว่า nation (ชาติ) ที่มาพร้อมแนวคิดเรื่องความเสมอภาค ไม่ใช่แนวดิ่งอีกต่อไป โดยเกิดทั้งการปฏิวัติอเมริกัน ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เรากลับพยายามบอกว่ามันไม่ใช่ ระบอบที่เรามี ไม่มีใครเหมือนและเรา unique 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai3.info/journal/2011/12/38265

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น