รัฐธรรมนูญ บนทาง 2 แพร่ง
เริ่มต้นปี 2555
พรรคเพื่อไทย ก็เดินมาถึงทางสองแพร่ง ที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ชัดเจนตั้งแต่พรรคเพื่อไทยหาเสียงในการเลือกตั้งและได้รับชัยชนะท่วมท้น ว่า จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และ ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อันเสมือนเป็นการแสดงถึง "พันธสัญญา" ที่ต้องดำเนินการ ว่า
"จะเร่ง รัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นอิสระยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ เพื่อวางกลไกการใช้อำนาจอธิปไตยที่ยึดหลักนิติธรรม และองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนและพร้อมรับการตรวจสอบ ทั้งนี้ ให้ประชาชนเห็นชอบผ่านการออกเสียงประชามติ"
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องเกิดขึ้น
แต่กระนั้น สิ่งที่ยังไม่เห็น "พ้อง" กันอยู่ในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ คือห้วงเวลาที่จะดำเนินการ
ควรจะทำเดี๋ยวนี้
หรือทอดเวลา ออกไป
ทั้งนี้ ชัดเจนตั้งแต่พรรคเพื่อไทยหาเสียงในการเลือกตั้งและได้รับชัยชนะท่วมท้น ว่า จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และ ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อันเสมือนเป็นการแสดงถึง "พันธสัญญา" ที่ต้องดำเนินการ ว่า
"จะเร่ง รัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นอิสระยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ เพื่อวางกลไกการใช้อำนาจอธิปไตยที่ยึดหลักนิติธรรม และองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนและพร้อมรับการตรวจสอบ ทั้งนี้ ให้ประชาชนเห็นชอบผ่านการออกเสียงประชามติ"
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องเกิดขึ้น
แต่กระนั้น สิ่งที่ยังไม่เห็น "พ้อง" กันอยู่ในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ คือห้วงเวลาที่จะดำเนินการ
ควรจะทำเดี๋ยวนี้
หรือทอดเวลา ออกไป
นํ้าเสียงล่าสุดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ค่อนข้างมีบทบาทสำคัญในพรรคขณะนี้ ยังไม่เปลี่ยนแปลง
นั่นคือ "ยังไม่ถึงเวลา"
นั่นคือ "ยังไม่ถึงเวลา"
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1325822852&grpid=no&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น