ปธน. เอล ซัลวาดอร์ หลั่งน้ำตาขอโทษการสังหารโหดโดยรัฐเมื่อ 30 ปีก่อน

มาวริชิโอ ฟูเนส ปธน. เอล ซัลวาดอร์ กล่าวขออภัยโทษต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า เป็น "การสังหารประชาชนที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ละตินอเมริการ่วมสมัย” ซึ่งทำให้มีปชช.เสียชีวิตกว่าพันคน พร้อมเรียกร้องให้กองทัพชำระประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ม.ค.) ประธานาธิบดีเอล ซัลวาดอร์ มาวริชิโอ ฟูเนส ได้กล่าวขอโทษประชาชนในเมือง เอล โมโซเต (El Mozote) ต่อกรณีการสังหารโหดโดยกองทัพรัฐบาลเมื่อปี 1981 ในวาระครบรอบ 20 ปีการลงนามข้อตกลงสันติภาพของประเทศ

ประธานาธิบดีฟูเนส เดินทางไปยังเมือง เอล โมโซเด ซึ่งอยู่ห่างไปจากเมืองหลวงราว 200 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนติดกับประเทศฮอนดูรัส เขากล่าวคำขอโทษประชาชนในนามของรัฐ เอล ซัลวาดอร์

“สำหรับการสังหารที่เกิดขึ้น การละเมิดสิทธิมนุษยชนอันน่ารังเกียจ และการกระทำที่โหดร้ายในนามของรัฐเอล ซัลวาดอร์ ผมขออภัยโทษต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย” เขากล่าวพร้อมหลั่งน้ำตา “เป็นระยะเวลาสามวันและสามคืน การสังหารพลเรือนครั้งใหญ่ที่สุดได้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของละติ นอเมริกา”

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม ปี 1981 (พ.ศ. 2524) กองทัพแอตลาคาติ ซึ่งเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพื่อปราบปรามการก่อความไม่สงบโดยเฉพาะ ได้เข้าสังหารประชาชนในเมืองเอล โมโซเต ที่ต้องสงสัยว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฝ่ายซ้าย นับเป็นการนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดตอนหนึ่งในยุคสงครามกลางเมืองของเอล ซัลวาดอร์ที่ดำเนินไปถึง 12 ปี

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/01/38842