วรเจตน์ นิติราษฎร์ VS บรรเจิด สยามประชาภิวัฒน์ 2 คน 2 คม กลางวิวาทะรธน.-มาตรา 112
19 กันยายน 2553 หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดย “คณะกรรมการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
4 ปีถัดมา อาจารย์ กลุ่มเล็กๆที่ประกอบอาชีพสอนวิชากฎหมาย ในคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รวมตัวกันขึ้นในนามของ “นิติราษฎร์” นิติศาสตร์เพื่อราษฎร
กลุ่มผู้ก่อตั้ง 7 คนประกอบด้วย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ,จันทจิรา เอี่ยมมยุรา , ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล , ธีระ สุธีวรางกูร , ปูนเทพ ศิรินุพงศ์, ปิยบุตร แสงกนกกุล และ สาวตรี สุขศรี
“นิติราษฎร์” แถลงการณ์ให้สังคมไทยรู้ว่า ภายหลังรัฐประหารสำเร็จ ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่กฎหมายถูกนำไปใช้อย่างบิดเบี้ยว ทั้งการตราตัวบทกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับนิติรัฐ-ประชาธิปไตย ทั้งการใช้และการตีความกฎหมายขององค์กรผู้มีอำนาจไปในทิศทางที่ไม่สนับสนุน นิติรัฐ-ประชาธิปไตย และก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรม ซึ่งเราได้แสดงความเห็นผ่านแถลงการณ์สาธารณะวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์เหล่า นี้อย่างสม่ำเสมอ
เวทีความคิดของ นิติราษฎร์ สื่อสารความคิด ผ่านแถลงการณ์ ในเว็ปไซต์ www.enlightened-jurists.com/about บทสัมภาษณ์ของแกนนำ นิติราษฎร์ หลายคน แต่ที่แหลมคมที่สุดคือ บทสัมภาษณ์ของ ดร. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ผ่านสื่อออนไลน์และผ่านทีวีไทย
แถลงการณ์ของนิติราษฎร์ ส่วนใหญ่ มุ่งวิพากษ์วิจารณ์ผลพวงของการรัฐประหาร และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีการเมืองหลายคดี อย่างหนักหน่วงและรุนแรง
ล่าสุด นอกจากข้อเสนอให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ แล้ว นิติราษฎร์ ยังจุดไฟกลางสายลม ในข้อเสนอให้เแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 11
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326449305&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น