การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลกระทบ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลกระทบ ต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง การนำเสนอแนวคิด บทบัญญัติที่เห็นสมควรแก้ไขจากฝ่ายต่างๆ ในขณะนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่จำเป็นต้องออกมาห้ามปราม ตีกรอบให้ท่องจำหลักการ แสดงความคิดเห็นได้เพียง เป็นเรื่องของ ส.ส.ร.ในการคิดอ่าน แก้ไข อย่างที่พรรคเพื่อไทยตักเตือนสมาชิก
การนำเสนอแนวคิดการแก้ไข
โดยเฉพาะข้อเสนออันมีเหตุมีผล อิงหลักวิชาการ มีงานวิจัย
หรือตัวอย่างการบังคับใช้รองรับนี้ ไม่ใช่การก้าวก่าย แทรกแซง
ชี้นำการทำงาน ส.ส.ร.แต่อย่างใด
เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญการร่างรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงประชาชนผ่าน ส.ส.ร.นี้
คือการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน เพื่อนำมากลั่นกรอง
ประมวลผลประกอบการแก้ไข
การดำรงบรรยากาศประชาธิปไตย
ด้วยการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นทุกฟากฝ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ยิ่งเปิดกว้าง ยิ่งรับฟังมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไข
ไม่ว่าเสียงนั้นมาจากฝ่ายสนับสนุน หรือต่อต้านก็ตาม
จึงไม่ควรปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว และกีดกันกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปอยู่นอกวง
ต้อง
ยอมรับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น
รัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองโดยแท้
ดังเห็นได้จากญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 291 นั้น ต้องมาจาก
1.คณะรัฐมนตรี
2.ส.ส.-ส.ว.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสอง
สภา และ 3.แม้เปิดโอกาสให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน เข้าชื่อเสนอได้
แต่สุดท้ายเป็นอำนาจรัฐสภาที่จะพิจารณาแก้ไขอยู่ดี
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1330770403&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น