หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทความแปล: วิกิลีกค์, พลเอกเปรม และ การกระทำรัฐประหาร

บทความแปล: วิกิลีกค์, พลเอกเปรม และ การกระทำรัฐประหาร

 

โดย ดวงจำปา 

ได้อ่านข่าวว่า พลเอกเปรม ปฎิเสธในเรื่องของการมีส่วนร่วมในการก่อการรัฐประหารทุกอย่าง เลยขอเสนอบทความเก่าที่แปลจากวิกิลีกค์มาได้อ่านกันอีกครั้งหนึ่งนะคะ


https://www.facebook...136971383066436


Posted Image




อ้างอิง: Wikileaks, Prem and the coup
โพสต์ในอินเตอร์เนท เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554


ในการลงบทความอย่างต่อเนื่องของ PPT เกี่ยวกับเคเบิ้ลของวิกิลีกค์ เราได้วิเคราะห์ถึงเคเบิ้ล ซึ่งเขียนโดยเอกอัครราชฑูต ราล์ฟ บอยซ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2549

ซึ่งอ้างอิงถึงการเยี่ยมเยือนของเขาเพื่อ ที่จะพบกับ ประธานคณะองคมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ฝ่ายทหารได้กระทำการรัฐประหาร เอกอัครราชฑูตบอยซ์ ได้เริ่มสาธยายให้กับทางการของประเทศสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันทราบถึง การเยี่ยมเยือนของเขากับ พลเอกเปรมว่า “ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ได้อธิบายว่า ผมต้องการที่จะไปเยี่ยมเยียน ดูสุขภาพความเป็นอยู่ของท่าน จากที่ได้รับรายงานของเหตุการณ์ตอนกลางคืนของการรัฐประหารว่า (นายกรัฐมนตรีซึ่งถูกขับไล่ออกไป) ทักษิณ (ชินวัตร) กำลังพยายามที่จะดำเนินการจับกุมพลเอกเปรม” ในขณะที่มีการกระทำรัฐประหารนั้น นายกทักษิณ ยังอยู่ที่กรุงนิวยอร์ค



เอกอัครราชฑูตได้เผยว่า : “ดูมีอารมณ์ผ่อนคลาย, มีความเชื่อมั่น และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลเอกเปรมยืนยันกับผมว่า เขาสบายดี”


เรื่องอื่นๆ เท่าที่เคเบิ้ลฉบับนี้ได้อ้างอิงไว้ก็คือ การสนทนาที่เอกอัครราชฑูตบอยซ์ได้มีกับ อดีตโฆษกของรัฐบาลนายกฯ ทักษิณ คือ คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งหลังที่ได้หยุดสงบปากสงบคำลงไป เนื่องมาจากความกดดันจากองคมนตรีท่านหนึ่ง

ก็ได้เปลี่ยนข้างและในขณะนี้ ก็อยู่ใกล้ชิดกับบุคคลบางคนซึ่งเป็นผู้วางแผนการกระทำการรัฐประหารด้วย

คุณ บวรศักดิ์ได้กล่าวกับเอกอัครราชฑูตบอยซ์ว่า รัฐบาลทหาร (ซึ่งเอกอัครราชฑูตบอยซ์ชอบที่จะเรียกว่า คปค, หรือ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, อย่างที่ฝ่ายรัฐบาลทหารเรียกชื่อนี้ในตอนแรก) จะไม่แต่งตั้ง “นายกรัฐมนตรีที่เป็นพลเรือน จนกระทั่งถึงกลางสัปดาห์แรกในเดือนตุลาคม”


เอก อัครราชฑูตบอยซ์ “ได้ย้ำกับพลเอกเปรมว่า ทางสังคมนานาชาติกำลังจ้องมองดูอย่างขมักเขม้นและทาง คปค จะถูกวิจารณ์เป็นอย่างหนัก ถ้าเกินเวลาสองสัปดาห์ตามที่ฝ่ายตนเองได้วางกำหนดไว้ ในการเปลี่ยนผ่านการปกครองไปสู่พลเรือน พลเอกเปรมได้ชี้แนะกับผมว่า ให้เริ่มนับวันตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน แทนที่จะเป็นวันที่ 19 กันยายน เพราะทางฝ่าย คปค เองก็จะต้องยืดเวลาออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะสั่งงานต่างๆ ให้เป็นตามลำดับความเหมาะสม


ไม่ มีความน่าสงสัยอะไรเลย ที่ในขณะนั้น พลเอกเปรมก็คงจะมีความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เพราะในที่สุดแล้ว ทางฝ่ายทหารก็หวนกลับคืนขึ้นมาสู่อำนาจ และตัวนายกฯ ทักษิณ ซึ่งเป็นที่จงเกลียดจงชังนั้น ก็ได้ถูกเขี่ยออกไปแล้ว และต้องถูกเนรเทศอย่างเป็นผลตามที่หวังไว้ ซึ่งหมายความว่า กิจการงานทุกอย่าง ที่พลเอกเปรมได้กระทำลงไป



เพื่อที่จะให้ทางฝ่ายกองทัพเข้ามาอยู่เคียงข้างต่อการกระทำรัฐประหารนั้น ได้เกิดผลสำเร็จงดงามอย่างคุ้มค่าจริงๆ


-------------------------------------------------------------------------------------------------


ความเห็นของผู้แปล:


ตกลงประเทศไทยก็พังเพราะบุคคลเหล่านี้จริงๆ เนื่องจากความเกลียดชังเป็นส่วนตัว รวมถึงการอิจฉาริษยาที่คนอื่นเขาทำได้ดีกว่า


บุคคลเหล่านี้มีความคิดคร่ำครึ ไม่ชอบให้ใครมาวัดรอยเท้า ต้องเก่งน้อยกว่าเท่านั้น


อย่างนี้ ประเทศชาติมันถึงไม่ไปไหนกัน


ประเทศชาติจะเจริญได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลปัจจุบันทำผลงานได้ดีกว่ารัฐบาลในอดีต มันจะเป็นการปฎิรูปประเทศ สร้างฐานให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


การเชียร์การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน กลับเป็นสิ่งที่ชอบธรรม


รวมทั้งการหาข้อมูลข้างเดียว จากทางฝ่ายเอกอัครราชฑูตของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย


เรื่องขาวจึงกลายเป็นดำ ดำก็กลายเป็นขาว มันได้เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 19 กันยายน นั่นเอง


น่าจะรณรงค์ให้เป็น "วันตาสว่างแห่งชาติ" กันนะคะ...




Doungchampa Spencer - https://www.facebook.com/doungchampa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น