เชือด "จตุพร" ใต้ธง แห่ง ปรองดอง ของ "ยิ่งลักษณ์"
เชือด "จตุพร" ใต้ธง แห่ง ปรองดอง ของ "ยิ่งลักษณ์"
กรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ พ้นจากสมาชิกภาพแห่ง ส.ส.เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไป
อย่าโทษคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่าโทษศาลรัฐธรรมนูญ
เพราะ 2 ส่วนนี้เสมอเป็นเพียงกลางน้ำ เสมอเป็นเพียงปลายน้ำ ต้องดำเนินไปตามที่ไหลมาจากต้นน้ำ
ต้นน้ำขึ้นอยู่กับกลไกอำนาจรัฐในยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หากไม่ลืม "อดีต" กันรวดเร็วนัก ทุกอย่างของเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมาจากกรณีการจัดการกับ กกต.ยุค พล.ต.อ.วาสนา พูนลาภ
หลังการพบปะกันของ องคมนตรี ของไทคูนสื่อ ของคนในวงการศาลยุติธรรม ของคนในวงการศาลปกครอง โดยมี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แจมเข้าไปด้วย
นำไปสู่การประกาศให้เลือกตั้งเดือนเมษายน 2549 โมฆะ
นำ
ไปสู่การชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
และการคุมขังกรรมการการเลือกตั้ง อันได้แก่ พล.ต.อ.วาสนา พูนลาภ เป็นต้น
ที่ถูกฟ้องร้อง ผลก็คือ พล.ต.อ.วาสนา พูนลาภ
และกรรมการจำนวนหนึ่งที่ถูกฟ้องร้องหมดสิทธิการเป็น กกต.โดยปริยาย
นี่ย่อมเป็น "พิมพ์เขียว"
ทาง 1 เป็นพิมพ์เขียวอันกลไกอำนาจรัฐยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำมาใช้กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อันเท่ากับเป็นการชี้อนาคตเอาไว้แล้ว
เหมือนกับเป็นการมัดมือชก
มัดมือชก นายจตุพร พรหมพันธุ์ มัดมือชกคณะกรรมการการเลือกตั้ง มัดมือชกศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่มีทางเลี่ยง
"กกต.ส่งเรื่องมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เราก็ต้องพิจารณาโดยยึดหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกหรือการคิดไปเอง"
ถูกต้องแล้วที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญแถลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น