ทักษิณ"แก้ผ้าโชว์"กลางงาน 3 เกลอ
"ณัฐวุฒิ"เตือน"ทักษิณ"กลางเวที "อย่าใจดีบ่อยนัก" อดีตนายกฯยอมรับ"ถูกหลอก"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338634173&grpid=01&catid=&subcatid=
เป็นงัย! เพิ่งรู้??? ยอมรับแล้วเหรอว่าถูกอำมาตย์หลอก"ปรองดอง" อย่าคิดไว้ใจอำมาตย์ๆไม่แน่จริงไม่อยู่ได้นานจนถึงทุกวันนี้
** ป๋านะป๋าทำปูได้ **
ก้าวต่อไปของเสื้อแดง
ปัญหาเฉพาะหน้า
ปัญหาสำคัญเฉพาะหน้าที่คนเสื้อแดง
ต้องร่วมกันวิเคราะห์ ร่วมกันคิด ในความเห็นผม มีห้าประเด็น
ผมจะขอร่วมแสดงความคิดในเรื่องนี้...... ปัญหาเฉพาะหน้าคือ
(1) ภัย
จากการ “ปรองดอง” จอมปลอมของอำมาตย์ ที่จะไม่นำไปสู่การมีประชาธิปไตย
ความยุติธรรม และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด เพราะความหมายแท้ของ
“การปรองดอง” ที่อำมาตย์เสนอ คือการยอมแพ้ยอมจำนนของคนเสื้อแดง
ดังนั้นชาวเสื้อแดงทุกคนต้องร่วมกันคิดว่า “การปรองดอง”
ของเราจะหมายความว่าอะไร
เราต้องมีมาตรฐานของข้อเรียกร้องพื้นฐานเฉพาะหน้าของฝ่ายประชาธิปไตย
เพื่อไปเปรียบเทียบกับข้อเสนอของเขา พูดง่ายๆ
เราต้องมีเป้าหมายระยะสั้นที่ชัดเจน
และเราต้องไม่รอให้ผู้นำเสื้อแดงหรือนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเป็นผู้กำหนดมา
แต่ฝ่ายเดียว
(2) เรา
ต้องไม่ตกหลุมหลงเชื่อว่า “รัฐบาลแห่งชาติ” แบบถาวรจะแก้ปัญหา
เพราะ“รัฐบาลแห่งชาติ(หมา)”เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด
ไม่สะท้อนเสียงประชาชน
มันเป็นข้อเสนอเพื่อดึงนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วม
โดยไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยนแปลง
และเพื่อบังคับให้คนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวและยอมจำนน
(3) เสื้อ
แดงทุกคน ในทุกชุมชนและกลุ่ม ต้องตั้งคำถามกับตนเองว่า
“ถ้านักการเมืองบางคนในพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่คุณทักษิณเอง
เลือกที่จะปรองดองแบบยอมแพ้
เรามีการจัดตั้งเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างอิสระได้หรือไม่?”
ตรงนี้ความสามารถของเราที่จะเคลื่อนไหวอิสระ
ขึ้นอยู่กับมุมมองทางการเมืองของเราต่อการปรองดอง
การจัดตั้งล่วงหน้าแบบแกนนอน และความมั่นใจว่าเราต้องการอะไร
(4) การ
เลือกตั้งที่มีการโกงแบบแนบเนียน
ทุกวันนี้อำมาตย์กำลังวางแผนที่จะชนะการเลือกตั้งในอนาคตให้ได้
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เราต้องรู้ทัน และหาทางข้ามปัญหานี้
และเราไม่ควรตั้งความหวังสูงเกินไปกับการเลือกตั้งภายใต้กติกาสองมาตรฐานของ
อำมาตย์
(5) ปัญหา
การหมดกำลังใจของคนเสื้อแดง ความท้อและการหมดกำลังใจ มาจากการ
“มองไม่ออกว่าเราจะชนะอย่างไร” เช่นถ้าเราตั้งความหวังไว้กับการเลือกตั้ง
หรือตั้งความหวังว่าต่างประเทศจะช่วยเรา เราจะท้อ
ถ้าเราเพ้อฝันว่าเราสามารถสร้างกองกำลังมาสู้กับทหาร
ในที่สุดพอเราพูดเอามันจบไปแล้ว เราก็จะท้อ
ถ้าเรามองว่าอำนาจอำมาตย์อยู่ในมือ “คนเดียว” (ซึ่งไม่จริง)
เราก็จะท้อและกลัวเช่นกัน เราอาจรอการเกิดแก่เจ็บตายตามธรรมชาติ
แต่ถ้าเราไม่มีแผนเคลื่อนไหวก็ท้อได้อีก ในความจริง
ประชาธิปไตยจะถูกสร้างได้ก็ผ่านการเคลื่อนไหวของเราคนเสื้อแดง
ไม่มีใครคนอื่นสร้างให้ได้
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือเราต้องไม่มองข้ามจุดเด่นของเสื้อแดงที่มีอยู่ต่อ
หน้าต่อตาเราคือ (๑)
เสื้อแดงฟื้นตัวและขยายการจัดตั้งแบบแกนนอนหลังการปราบปรามที่ราชประสงค์
ผ่านกิจกรรมแบบ “วันอาทิตย์สีแดง” และ (๒)
เสื้อแดงหมดความศรัทธาในลัทธิอำมาตย์และสถาบันต่างๆ ของอำมาตย์
นี่คือสิ่งที่อำมาตย์กลัว และถ้าเราเข้าใจจุดเด่นของเราตรงนี้
เราจะเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนยังมีพลัง
มันนำไปสู่ชัยชนะในระยะยาวได้ โดยเฉพาะถ้าเราพัฒนาการเคลื่อนไหว
เช่นการขยายการจัดตั้งสู่สหภาพแรงงานให้นัดหยุดงาน
และขยายสู่ระดับล่างของกองทัพ
คน
ที่ท้อตอนนี้ คือคนที่ไม่ให้ความสนใจ
และไม่ร่วมเคลื่อนไหวในกิจกรรมของเสื้อแดงที่เขาจัดกันอย่างต่อเนื่องภายใน
ประเทศไทย ซึ่งมักจะเป็นคนที่ฟังแต่ข่าวลือเรื่องคนข้างบน
และเล่นแต่อินเตอร์เน็ท
หรือเป็นคนที่พอใจที่จะพูดแค่เอามันโดยไม่มีเป้าหมายในการเคลื่อนไหวเป็น
รูปธรรม
การ
มองว่าอำนาจอำมาตย์อยู่ในมือคนเดียว ตามที่ นปช. ยูเอสเอ หรือ อ.ชูพงษ์
เสนอ มีปัญหามาก เพราะทำให้เรามองว่าอำนาจนี้ใหญ่โตล้นฟ้าจนเราต้องยอมจำนน
และทำให้เรามองข้ามความชั่วร้ายและอำนาจดิบของกองทัพ
มันนำไปสู่การไม่สนใจที่จะยุบหรือปฏิรูปกองทัพอย่างถอนรากถอนโคน
แต่ในความเป็นจริงทหารขึ้นมามีอำนาจสูงสุดในแวดวงอำมาตย์ตั้งแต่หลัง ๒๔๗๕
และยังคงอำนาจนั้นไว้
เพียงแต่ว่าตั้งแต่ยุคสฤษดิ์มีการนำลัทธิกษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือของ
ทหารอย่างเป็นระบบ เราจะสังเกตเห็นว่าคนที่พูดแบบ นปช. ยูเอสเอ หรือ
อ.ชูพง์
ไม่ค่อยมีข้อเสนอรูปธรรมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวประจำวันของเสื้อแดงเลย
และเขาจะไม่สนใจเป้าหมายกว้างๆ ในการทำให้ไทยเป็นประชาธิปไตยแท้
เช่นเรื่องสิทธิสตรี สิทธิแรงงาน การแก้ปัญหาภาคใต้
หรือการแก้ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนเป็นต้น
เป้าหมายระยะสั้น (ข้อเรียกร้องพื้นฐานเฉพาะหน้า)
1. ปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงทุกคน
2. ยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน และการเซ็นเซอร์สื่อทุกชนิด ต้องยุบ ศอฉ.และทหารต้องกลับกรมกอง ไม่ยุ่งการเมือง
รัฐบาลต้องลาออก และประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน และจัดการเลือกตั้งภายใต้ กกต. ที่เสนอจากทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เป็นกลาง
3. ต้อง
แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการฆ่าประชาชนที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์
ต้องไม่มีการนิรโทษกรรมผู้ฆ่าประชาชน เหมือนที่เคยทำหลัง ๑๔ ตุลา ๖ ตุลา
และ พฤษภา ๓๕
4. ต้องประกาศว่าจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยที่ประชาชนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมมากกว่ายุคที่เราร่างรัฐธรรมนูญปี ๔๐
เป้าหมายระยะยาวในการสร้างรัฐไทยใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย
การ
ที่เสื้อแดงจะมีเป้าหมายระยะยาวสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการครองใจประชาชนส่วน
ใหญ่ อย่างที่ไทยรักไทยเคยทำ ในอดีต
และมันทำให้เราชัดเจนว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไรอีกด้วย
1. ประเทศไทยควรเป็นรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ผ่านการเก็บภาษีจากคนรวยในอัตราก้าวหน้า
2. ต้องยุบกองทัพและปลดนายพล เพื่อปฏิรูปทหารแบบถอนรากถอนโคนและสร้างใหม่ในรูปแบบ
ประชาธิปไตย
3. ต้องปลดศาลและผู้พิพากษาสองมาตรฐาน เพื่อปฏิรูประบบยุติธรรมอย่างถอนรากถอนโคน โดยนำพลเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในระบบลูกขุน
4. ต้อง
ส่งเสริมวัฒนธรรมพลเมือง ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน
ต้องไม่มีกฎหมายหมิ่นเดชานุภาพฯ
และประชาธิปไตยต้องปลอดจากอำนาจอำมาตย์หรืออภิสิทธิ์ชนที่ไม่ได้มาจากการ
เลือกตั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น