ประชาธิปไตยกำลังถูกโจมตี
โดย Robert Amsterdam
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวแทนของประชาชนชาวไทยที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อเกือบ ปีหนึ่งที่แล้วถูกกันไม่ให้เข้าไปในรัฐสภาเพื่อทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การขัดขวางโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นการทำงานของกลุ่มที่เรียกตนเองว่าพรรคประ ชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งมากว่า 20ปี และกลุ่มผู้ประท้วงราวพันคนซึ่งจัดตั้งการเคลื่อนไหวส่วนหนึ่ง นั้นคือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งกลุ่มแกนนำของพันธมิตรเคยเรียกร้องให้ล้มล้างผู้แทนจากระบอบประชาธิปไตย สถาปนาระบอบเทวาธิปไตย ( หรือที่พวกเขาเรียกว่า “ธรรมาธิปไตย”) และปิดประเทศตราบนานจนกว่าจะสามารถ“กวาดล้าง” ศัตรูทางการเมืองของพวกเขาให้สิ้นซากไปได้
นอกจากจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่คนเพียงไม่กี่ร้อยคนสามารถกระทำการ เช่นนี้ได้ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความบอบบางของสถานการณ์ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ของประเทศที่เรียกตนเองว่าเป็นประชาธิปไตย รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรควรได้รับคำชื่นชมในเรื่องของการยับยั้งชั่งใจ โดยปกติ ตำรวจควรจะสามารถรับรองสิทธิการชุมนุมของผู้ประท้วงและในขณะเดียวกับก็อำนวย ความสะดวกให้สส.เข้าไปทำงานได้ การที่ไม่มีทางผ่านใดที่ปลอดภัยให้กับสส.ไม่ใช่เพราะเรื่องจำนวนของเจ้าหน้า ที การฝึกฝน หรือทรัพยากรแต่เป็นเพราะความเป็นจริงของการเมืองที่ล้าหลังทารุณ พันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์ใช้ประโยชน์จากการที่ไม่ต้องรับผิดในสิ่งที่พวก เขากระทำจุดชนวนการเผชิญหน้าเพื่อจะได้เป็นข้ออ้างให้ทหารทำรัฐประหารอีก ครั้ง รัฐบาลและตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยายามหลีกเลี่ยงหายนะนี้
และอีกประเด็นหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันมากคือ ในวันเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งห้ามไม่ให้รัฐสภาอภิปรายเรื่องการแก้ไข รัฐธรรมนูญ โดยให้รอ “ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ” ก่อน ภายใต้มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ คำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญตั้งใจจะพิจารณาว่าการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเจตนา ที่จะ “ล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือไม่ การตัดสินดังกล่าวจะให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรครัฐบาลเพื่อไทยและถอด ถอนสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค เหมือนกับที่ศาลทำกับพรรคไทยรักไทยในปี 2550 และพรรคพลังประชาชน 2551 และนี่นำไปสู่ “ตุลาการรัฐประหาร”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น