หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คดี ‘พัน คำกอง’ จนท.ยันกระสุนชนิดเดียวปืนทหาร แต่ไม่ตรงกับกระบอกที่ส่งตรวจ

คดี ‘พัน คำกอง’ จนท.ยันกระสุนชนิดเดียวปืนทหาร แต่ไม่ตรงกับกระบอกที่ส่งตรวจ

 

 

จนท.พิสูจน์หลักฐานเบิกความ ไต่สวนการตายคดี ‘คำ พันกอง’ ยันกระสุนที่อยู่ในร่างผู้ตายเป็นกระสุนปืนเล็กกลชนิดเดียวกับปืนของทหารที่ ส่งตรวจหลังเหตุการณ์ 1 ปี แต่ไม่ใช่กระบอกเดียวกัน พร้อมอธิบายผลตรวจเปลี่ยน หากเปลี่ยนลำกล้อง

18 ก.ค.55 ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา รัชดา มีการไต่สวนการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง คนขับแท็กซี่ ชาว จ.ยโสธร ซึ่งถูกยิงบริเวณถนนราชปรารภ ใกล้แอร์พอร์ทลิงค์ ซึ่งเป็นจุดประจำการของทหาร เมื่อหลังเที่ยงคืนวันที่ 14 พ.ค.ต่อกับวันที่ 15 พ.ค.53 จากกรณีที่มีการยิงสกัดรถตู้ที่เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว โดยในวันนี้มีพยาน 4 ปากเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่อยู่ ในร่างผู้ตายกับอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ในการปฏิบัติการในพื้นที่ โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ตรวจหัวกระสุนที่อยู่ในร่างนายพัน คำกอง ผู้เสียชีวิต เบิกความว่า หัวกระสุนดังกล่าวเป็นกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223 ( 5.56 มม.) ซึ่งสามารถใช้กับปืนเล็กกลและปืนไรเฟิลได้ เช่น M16, HK ทราโว่ เป็นต้น และเป็นกระสุนชนิดเดียวกันกับปืนของเจ้าหน้าที่ทหารที่ส่งมาตรวจ แต่ลักษณะรอยตำหนิพิเศษของหัวกระสุนที่ถูกยิงจากลำกล้องของปืนที่ส่งตรวจ นั้นไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงนายพัน คำกอง ทั้งนี้ ลักษณะของตำหนิพิเศษจะเกิดจากลำกล้องของปืนแต่ละกระบอกซึ่งจะไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามปืนแต่ละกระบอกก็สามารถเปลี่ยนลำกล้องได้  และหากมีการเปลี่ยนลำกล้องก็ไม่สามารถยืนยันได้

พ.ต.ท.ธีรนันต์ นคินทร์พงษ์ จากกลุ่มงานตรวจอาวุธและเครื่องกระสุน กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่ทำการพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่อยู่ในร่างผู้ เสียชีวิตกับอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ในการปฏิบัติการในพื้นที่ดัง กล่าว  โดยหน่วยงานตรวจสอบได้รับมอบปืนเล็กกล 5 กระบอกของกองพันที่ 31 ทหารปืนใหญ่ รักษาพระองค์ (ป.พัน.31 รอ.) ในวันที่ 1 มิ.ย.54 หรือกว่า 1 ปีหลังเกิดเหตุ จากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

“ปรากฏว่ากระสุนของกลาง [ที่พบในศพผู้ตาย-ประชาไท] ไม่ได้ใช้ยิงจากปืนทั้ง 5 กระบอกนี้” พ.ต.ท.ธีรนันต์ กล่าว 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/07/41623

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น