หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

หนังเปิดเผยความหลอกลวงของบุ๊ช...สะท้อนไทยแลนด์แดนตอแหล

หนังเปิดเผยความหลอกลวงของบุ๊ช...สะท้อนไทยแลนด์แดนตอแหล

 




 

เมื่อดู Ferenheit 9/11  (หนังปี 2547)เห็นความหลอกลวงของ บุ๊ช ผู้นำประเทศอเมริกาแล้ว...ช่างเหมือนไทยแลนด์แดนตอแหลจริงๆ

นอกจากนี้...บุ๊ชมีประวัติหนีทหารและแก้ไขหลักฐาน กรณีมาร์คก็คงคล้ายกัน...ไม่น่าเชื่อผู้นำบ้าๆช่างมี DNA เหมือนกันจริงๆ

ก่อนหน้านั้นเมื่อสองเดือนก่อน หนังเรื่องนี้ถูกค่ายใหญ่ ”ดิสนีย์” สั่งบริษัทในเครือคือ “มิราแม็กซ์” ซึ่งร่วมลงทุนด้วยห้าล้านเหรียญ ให้ดองการฉายอย่างถาวร แต่หลังหนังได้รางวัลปาล์มทองคำในปลายเดือนพฤษภาคม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป “มิราแม็กซ์” ได้ขายสิทธิให้ “ไลอ้อน เกทส์” บริษัทผู้จัดจำหน่ายหนังขนาดกลาง ซึ่งตกลงนำหนังเข้าฉายทั่วประเทศ ใน 868 โรงทั่ว 50 รัฐในอเมริกาโดยทันที 


รอยเตอร์รายงานในวันที่ 24 มิถุนายนว่า ในวันแรกของการเข้าโรงที่นิวยอร์ก ซิตี้ หนังสร้างประวัติการณ์ด้วยการทำยอดจำหน่ายตั๋วถึง 49,000 ดอลลาร์ ที่โรงหนัง โลว์’ส วิลเลจ เซเว่น ใกล้ถนนบรอดเวย์ หรือสูงที่สุดนับตั้งแต่ยอดจำหน่ายตั๋วที่เดียวกันได้ 43,435 ดอลลาร์ เมื่อปี 1997 จาก "Men in Black" และ 24,013 ดอลลาร์จาก "Crouching Tiger, Hidden Dragon" ในปี 2000

ในวันที่ 27 มิถุนายน หนังก็สรุปยอดจำหน่ายสัปดาห์แรกเป็นอันดับหนึ่งในอเมริกา ทั้งที่ฉายส่วนใหญ่ในโรงหนังอาร์ตขนาดเล็ก และได้ฉายน้อยโรงมากกว่าอันดับสองที่ฉายกว่า 3,000 โรง แต่สามารถทำเงินไปได้ถึง 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐในหนึ่งสัปดาห์
 

รางวัลคานส์จึงไม่ใช่แค่ใบประกาศเกียรติคุณ แต่เป็นใบโฆษณาชั้นดีเรียกความสนใจของมหาชนทั่วไป และเบิกทางนำหนังเข้าสู่ความสำเร็จเหลือเชื่อในด้านยอดตั๋วเข้าชม ทั้งที่หนังสารคดีเรื่องนี้ไม่ได้มีความแตกต่างพิเศษมาก เมื่อเทียบกับหนังสารคดีอื่นๆ ของคนทำสารคดีจำนวนมาก นอกเหนือจากว่ามันวิพากษ์วิจารณ์ จอร์จ บุช ที่คนจำนวนมากกำลังต่อต้านเขาจากสงครามอิรัก 
Posted Image 

Fahrenheit 9/11 เป็นภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับการแฉเรื่องของบุซ หลังเครื่องบินชนตึก World Trade Center ในวันที่ 11กันยายน 2001
แน่นอนครับตอนหนังฉายเรื่องนี่ชาวอเมริกันผู้สนับสนุนบุชนั้น ล้วนด่าไมเคิล มัวร์ไม่ยั้ง แถมยังกล่าวหาชาวอเมริกันที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็น "พวกขายชาติ"

แต่กระนั้นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็มีความเห็นว่า เราควรเปิดใจครับ เปิดใจยอมรับความจริงอยู่ตรงหน้า เราควรเปิดมุมมองและความรู้ทางการเมืองใหม่ๆ อย่างที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ระบุถึงสิทธิอย่างหนึ่งที่ชาวอเมริควรมีนั่นก็ คือ เสรีภาพทางการพูด หรือ Freedom of Speech
Posted Image

 

ตอน 1
ในหนังนั้นนำประเด็นหลักคือ

บุชโกงการเลือกตั้งในปี 2000 จนชนะ AlGore อดีตรองประธานาธิบดี โดย ไมเคิล มัวร์ รวบรวมข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ ตั้งแต่ก่อนประธานาธิปดีบุชจะเข้ามารับตำแหน่งอย่างไม่โปร่งใส โดยที่คู่แข่งของบุช ในการเลือกตั่งครั่งนั่นคือ AL GORE ซึ่งมีคะแนนสูงกว่า บุช แต่ ศาลสูงสุดของสหรัฐซึ่งมีเพื่อนผู้พ่อของจอส บุช แต่งตั่งบุชอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั่งๆ ที่ฝ่ายสืบสวนของรัฐตรวจสอบการนับคะแนนดูก็พบว่า AL GORE คือฝ่ายชนะแน่นอน แต่กระนั้นฝ่ายศาลสูงก็เข้าข้างบุช คณะกรรมการการเลือกตั่งก็เป็นฝ่ายบุช นอกจากนี้ยังมีการตัดสิทธิ์คนลงคะแนนที่เป็นคนผิวสีด้วย ส่งผลให้คนผิวสีเกิดการจราจลตอนประธานาธิปดีบุชนั่งขบวนรถเพื่อไปรับตำแหน่ง ประธานาธิปดี (ยังไม่ถึงเหตุการณ์ 9/11)

Posted Image 

ตอน 2 
จาก นั้นหนังแฉความสัมพันธ์ระหว่างบุชกับราชวงศ์ซาอุและแม้แต่บินลาเดน แบบว่าซับซ้อนมากๆ คนโน้นเป็นญาติฝ่ายโน้น คนนั้นเป็นญาติฝ่ายนี้ และหนังก็นำเสนอการพักผ่อนถึง 42% ของบุชที่ฟาร์มในเท็กซัสและที่อื่นๆ ส่วนใหญ่บุซชอบเล่นตีกอล์ฟ ไม่ก็ทำไร่โคบา
Posted Image
 
ตอน 3
ไมเคิล มัวร์ ก็ออกมาแฉว่าบุซหนีการเกณฑ์ทหาร โดยไม่ยอมไปรบที่เวียดนาม แต่มาเป็น National Guard (หน่วยป้องกันประเทศ) แทน และเพื่อนบุซที่หนีเกณฑ์ทหารก็เช่นกัน ที่ชื่อ National guard ต่อมาได้เป็นคนช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างบุชกับราชวงศ์ซาอุ(นอกจากนี้ jame r black ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ บินลาดิน และเครื่องบินให้บินลาดิน ในขณะที่ จอสบุชผู้พ่อเป็นประธาน ซีไอเอ และ jame r black สนับสนุนทางการเงินให้บุชทำธุรกิจน้ำมัน ในแท๊กซัสตะวันออก โดยบินลาดินสนับสนุนทางการเงินผ่าน jame r black โดยมีหนังสือยืนยัน)'
Posted Image 

ตอน 4
จากนั้นก็ถึงเหตุการณ์ 9/11 ซะที รู้ไหมว่าเวลานั้นบุซอยู่ที่ไหน เขากำลังไปฟังเด็กเล่านิทานที่โรงเรียนอนุบาลครับ ตอนนั้นเขากำลังนั่งฟังเด็กกำลังเล่านิทานเรื่องเป็ดน้อย แล้วพอบอดีการ์ดมากระซิบหูท่านว่าเครื่องบินชนตึกครับท่าน(ชนตึกลำแรก)หนัง ก็ฉายใบหน้าอันงี่เง่าของท่านประธานาธิบดีและการนิ่งเฉยอยู่นานและหลังจาก ที่ทราบข่าวเครื่องบินชนตึกลำที่สองบุซก็อ่านหนังสือให้เด็กที่โรงเรียนฟัง โดยไม่สนอะไรทั้งนั้น....(ฮ่าดี)


หลังเกิดเหตุการณ์ วันที่11 เดือน9 จะมีการระงับการบินทั่วราชอาณาจักรในอเมริกาใช่เปล่าครับ แต่เชื่อหรือไม่มีเที่ยวบินหนึ่งสามารถบินได้ และเที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารคือครอบครัวของบินลาดินจากสหรัฐไปซาอุฯ ทั้งๆ ที่ เที่ยวบินอื่นทั่งหมดทุกระงับ และใครที่อนุมัติเที่ยวบินนั้นฟ่ะ?

Posted Image

ตอน 5
หลังเกิดเหตุการณ์ ในการตรวจของขึ้นเครื่องบิน กลับให้เอาไม้ขีดไฟขึ้นเครื่องได้ทั้งๆ ที่มีข่าวคนร้ายพยายามใช้ไม้ขีดจุดชนวนระเบิดในขณะขึ้นเครื่องบินแท้ๆ แต่สิ่งของที่ห้ามขึ้นเครื่องเด็ดขาดกลับกลายเป็นนมแม่ในขวดนมซึ่งดูยังไงก็ ไม่อันตรายสักนิด!!


จากนั้นหนังก็แฉว่าอเมริกานั้นเป็นประเทศปลอดภัยที่สุดในโลกหรือเปล่า แน่นอนหนังแฉแหลกเลยว่ารัฐโอไรกอนของอเมริกา ทั้งรัฐมีตำรวจแค่8คน เพราะโดนตัดงบในคณะการบริหารของบุซ แถมแบบชั่วคราวด้วยไม่ได้ประจำแต่อย่างใด

Posted Image

ตอน 6
หลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 บริษัทที่ได้ผลประโยชน์ที่สุดคือ คาลายกรุ๊ป เป็นบริษัทผลิตอาวุธที่มี บุซผู้พ่อเป็นที่ปรึกษาอาวุโส โดยหุ้นส่วนรายใหญ่คือคนในตระกูลบินลาดิน ซึ่งหุ้นของบินลาดินได้ถอนหุ้น แต่กระนั้นก็ยังน่าสงสัยอยู่ดีแหละ


ในขณะที่เกิดเหตุเครื่องบินชนตึกทั้ง2ตึก บุซไม่อนุมัติให้ฝ่ายสืบสวน สืบสวนในเรื่องนี้ แต่บุชต้องการจัดตั่งคณะกรรมการสืบสวนเองโดยพละการ ซึ่งไม่รู้เขากลัวอะไรหนักอะไรหนา กลัวมันผิดพลาดหรือไง นอกจากนี้ผลการสอบสวนถูกทำเนียบขาวเซ็นเซอร์เกือบทุกบรรทัด

Posted Image

ตอน 7
จากนั้นหนังก็ไล่มาเรื่องสงคราม ไล่ตั้งแต่อเมริกาบุกอัฟกานิสถาน โดยใช้จำนวนทหารบกแค่ 16,000 นาย ซึ่งจำนวนตำรวจในเมืองแมนฮัสตันยังเยอะกว่าอีก และการยกทัฟไปครั้งนี้ กองกำลังพิเศษของสหรัฐไม่ได้เข้าไปในที่กลบด้านของบินลาดินถึง 2 เดือน!!

Posted Image

ตอน 8
เมื่อการรบที่อัฟกานิสถานเสร็จสิ้น บุซก็แต่งตั่ง ประธานาธิปดีอัฟกานิสถาน คือ คาวิสคาไซ ซึ่งคาวิสคาไซ เดิมเป็นที่ปรึกษา ยูโนแคล ซึ่งอยู่ในเครือของบุซ เพื่อสะดวกในการสร้างท่อส่งแก๊ซเชื่อมระหว่าง3ชาติ!!
Posted Image

ตอน 9
จากนั้นก็มาถึงฉากสหรัฐบุกอีรัก โดยบุซอ้างว่าเพื่อล่าบินลาเดน ทั้งๆ ที่มีรายงานว่าบินลาดินกลบดานอยู่ในอัฟกานิสถาน แต่ในการประชุมบุซเอาแต่พูดเรื่องอีรัก แล้วอีรักเกี่ยวอะไรกับพี่ล่ะครับ ประเทศอีรักไม่ได้เป็นศัตรูต่ออเมริกาสักหน่อย

ตอน 10
ฉากที่ผมฮ่าที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ฉากที่บุซบอกว่าเรามีพันธมิตรร่วมรบที่แข็งแกร่ง จากนั้นหนังก็บอกว่าพันธมิตรที่บุซบอกนั้นมีประเทศอะไรบ้างฉากนี้ฮ่าสุดๆ ครับ คือประเทศที่บุซบอกนั้นก็มี สาธารณพาเลา, คอสตาริก้า,ไอซ์แลนด์,โรมาเนีย(อยากจะบ้าตายประเทศเหล่านี้แทบไม่มีกองกำลัง ทหารเป็นชิ้นเป็นอันเลย ดังนั้นทหารที่บุกอีรักส่วนใหญ่เป็นอเมริกันทั้งนั้น ฮ่า.....)
Posted Image 


หนังสารคดีเรื่องนี้กล่าวหาประธานาธิบดี จอร์จ บุช จูเนียร์ ที่พลิกล็อกได้รับรางวัลปาล์มทองคำ ในเทศกาลหนังคานส์ล่าสุด และกลายเป็นกระแสใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ให้แวดวงหนังสารคดีทั่วโลก ซึ่งมีผู้เบิกทางได้พยายามฟันฝ่ากันมายาวนาน และไม่เคยมีเค้าความสำเร็จแบบนี้ สำหรับหนังสารคดีการเมืองได้รางวัลใหญ่สูงสุดในคานส์ เป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปี 
Posted Image

ไทยเธียเตอร์ 
ภาพยนตร์คุณภาพหาชมได้ยาก ที่ทางไทยพีบีเอสคัดสรรมาให้คุณชมถึงบ้าน
เวลาออกอากาศ  :  ทุกวันเสาร์  เวลา 22.05 - 23.00 น.
http://program.thaipbs.or.th/entertainmentprogram/article3355.ece 

โดย ลุงธรรม
(ที่มา)
http://www.internetofreedom.com/index.php?/topic/14992

1 ความคิดเห็น:

  1. มันเป็นลิเกโรงยักษ์ ที่ตัวแสดงตัวเล็ก แต่แฝงด้วยผลประโยชน์ ที่ชักจูงให้คนทั้งโลกสนใจในมุมหนึ่ง แลกระทำไปตามคามรู้สึก รักชาติ เพื่อสนับสนุนการกระทำ ใดๆ โดยไม่ได้สนใจว่าใช้งบประมาณและใครได้ประโยชน์ เอาง่ายๆไครรวยงานนี้ เป็นรายบุคคลด้วย ไม่ใช่ประเทศหรือกลุ่มด้วย ลองค่อยๆคิดที่ละชอต ดิ

    ตอบลบ